"ทำไมท่านนั่งซึม" เทพชฎาถาม
"ตอนนี้ไม่มีหลานฮัว" เมฆาพึมพำ "เดี๋ยวเซ่คนเขียน!ยังพูดไม่จบ!"อ้าว! เมาแล้วพาลคนเขียน "ไม่มีแม่นางจางกีร์ด้วย" มันกล่าวต่อ
"เรื่องหนึ่งมีตัวละครสักหลายตัวเป็นธรรมดา ท่านคิดให้มีเพียงตัวที่ท่านชมชอบได้กระไร" "อย่าได้เรียกแม่นางจางกีร์เป็นตัวนะ ข้าพเจ้าไม่ยอม" เมฆามันว่า "อ้าว..ท่าน! ตัวละครก็ต้องเป็นตัวสิ" "สำหรับข้าพเจ้านางไม่ใช่ตัวละคร นางมีชีวิตมีตัวตน" "หรือท่านไม่รู้จักแยกแยะอันใดโลกจริง อันใดโลกฝัน" เทพชฎาตั้งข้อสังเกต "รู้สิท่าน..เอิ๊ก" เมฆาตาปรือ "สำหรับข้าพเจ้าโลกฝันคือโลกจริง โลกจริงก็คือโลกฝัน" กล่าวจบมันทำหน้างุนงง "ฟังกระไรอยู่นาท่าน" เทพชฎาทัก "ฟังคล้ายเป็นเรื่องเดียวกัน" เมฆาขมวดคิ้วครุ่นคิด พลันคิดขึ้นได้ว่าหากขืนขมวดคิ้วเดี๋ยวคิ้วพันกันอีกจะยุ่ง เลยเลิกขมวดคิ้ว เอาแค่ครุ่นคิดอย่างเดียว จากนั้นกล่าวว่า "ก็เพราะผู้คนแยกแยะโลกจริงออกจากโลกฝัน ทำให้เป็นคนละโลก ความฝันกับความจริงในโลกหล้าจึงไม่เคยพบกันสักที" "อืมม์.." เพทชฎาผงกศีรษะหงึก ๆ พลันร้องขึ้นว่า "ท่านจะไปไหน?" เมฆาขยับกาย "ตอนนี้ไม่มีแม่นางหลานฮัวข้าพเจ้าจะไปหานาง" กล่าวจบมันสะกิดเท้าทะยานกาย เทพชฎารีบคว้าข้อเท้าไว้ "เดี๋ยวสิท่าน!" พลันได้ยินเสียง "โครม!" OOO
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น