กะไว้ว่าจะส่งสาน์สฉบับสองหลังบล็อกเหล่าสหาย (ทางฝั่ง Blogger) เชื่อมต่อกับเฟซเป็นที่เรียบร้อย กลับให้มีอันระเห็จติดรถเพื่อนไปนอนอาบดาวห่มสายลมหนาวที่เขื่อนศรีนครินทร์
3 วัน 2 คืนอันรื่นรมย์ (ขอบคุณขะรับทั่นเต่าทองปุ๋ง..เผื่อว่าทั่นกระด๊อกกระแด๊กผ่านมา)
เช้าวันนี้ ชีวิตกลับเข้าวงโคจรเดิม กลับมาเป็นบอกอกำมะลอ เป็นนักริเขียนมือไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เป็นนักกลอนบ่อนข้าวแช่แปรหลากร้อยเรื่องราวรายรอบตัวเป็นอักษรมอซออิรุงตุงนัง นั่งอ่าน (แลน้อมแท็กเค้นคอสหายอ่าน) ไปวัน ๆ เยี่ยงเดิม
พี่เสรีที่เคารพรักถามมาว่า 'มีหลักเกณฑ์อย่างไรบ้างครับ ในการส่งเรื่องร่วมแจม'
ความยินดีที่จะมีตัวอักษรพี่เสรีร่วมเอี้ยมจุ้นอักขระโกโรโกโสนั้น..มากนัก แต่อีกใจก็ไพล่กังวลห่วงว่าพี่เสรีจะมองมาจากมุมคุ้นชินภาพเคยตา (ซึ่งย่อมเป็นธรรมดา) เกรงทำให้ภาพเห็นคลาดจากความเป็นจริงนั้น..ไม่น้อย
ผู้น้อยกระแดะเรียก 'สยามสมัย' เป็นวารสารออนไลน์เอาเท่น่ะขะรับ
อันที่จริงก็บล็อกธรรมดา ผู้น้อยอ่านงานสหายเป็นปกติวัตรอยู่แล้วทั้งบนหน้าเฟซและจาก Google Reader เคยคิดฝันจะเอาฟีดที่อ่านประจำวัน Public ทำหน้าตาคล้ายเป็นนิตยสารสักเล่มที่มีอัพเดทข่าวสาร ปะหัวข้อใดน่าสนใจ คลิกขยายอ่านได้เลยโดยมิพักเปิดหน้าเพิ่ม ติ๊ต่างให้ประดาสหายร่วมเขียนเป็นคอลัมนิสต์ดูแลคอลัมน์ตนแค่อัพบล็อก เมื่อมีข้อเขียนใหม่ ฟีด (แบบเต็ม) ก็จะถูกดึงมาที่หน้านิตยสารโดยเจ้าบอกอกำมะลอมิพักทำอะไรเพิ่ม ปะหัวข้อก็แค่คลิกอ่าน (สบายแฮ)
ใช่เป็นแค่ฝันเลื่อนลอย
เป็นจริงมาแล้วช่วงหนึ่งขะรับ มีบริการฟีดรีดเดอร์ฟรีเจ้านึงชื่อ Feedly จัดทำขึ้นมา (ลองโหลดไปใช้กันดู แล้วทุกทั่นจะเข้าใจไยผู้น้อยจึงอยากยกหน้าฟีดมาให้อ่านกัน)
หน้าตาคล้ายนิตยสาร แยกกลุ่มข่าวสารชัดเจน คลิกอ่านในหน้าเดียว มาทั้งตัวอักษรและภาพ
ข้าพเจ้าเพลินอยู่พักนึง ไม่นานผู้ใช้มากเข้าพวกเปลี่ยนเป็นคิดตังค์เสียเลย จ๋อยล่ะสิ (นิตยสารกำมะลอมิควรมีค่าใช้จ่ายใดเพิ่ม ข้อนี้กฏเหล็ก)
จากนั้นพยายามควานหาเรื่อยมา แต่ไม่พบที่ใดอีกเลย
วันดีคืนดีเหล่าสหายเปิดบล็อกที่ Blogger (ที่ OK กะบล็อกแก็งค์ไม่มีฟีด) อีกทั้งเฟซเปิดฟีด อาการใคร่เดิมหวนกลับมา แม้ยังไม่มีหนทางดึงฟีดเต็มมาเปิดอ่านบนหน้าเดียว เอาแค่ลิงก์ก็ยังดี
ผู้น้อยเลยทำหน้าบล็อกขึ้นมา
ให้คำจำกัดความว่าเป็นวารสารเพราะมิใช่บล็อกเก็บงานตน แต่เป็นเก็บลิงก์แลงานจากที่ต่าง ๆ ซึ่งผู้น้อยอ่านอัพไปตามวาระจะพานพบ แลมีลิงก์จากบล็อกสหายตามแต่วาระสหายเขียน
'สยามสมัย' จึงเป็นแค่ที่รวมลิงก์งานซึ่งเหล่าเราสามารถเปิดดูโดยมิหล่นหายอย่างบนหน้ากระดานเฟซ
สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ วารสารคล้ายเป็นกลุ่มคนเล็ก ๆ ผู้รักงานเขียน ส่งสารสู่ผู้อ่าน มีปฏิสัมพันธ์กันบ้างก็จากจดหมายจากผู้อ่าน แต่สื่อเน็ตผู้เขียนแลผู้อ่านเป็นคนเดียวกัน เราผลัดเขียนอ่านปฏิสัมพันธ์ตลอดเวลามิแยกห่าง
ขออย่าได้มอง 'สยามสมัย' จากมุมของสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ขอให้มองจากมุมของสื่อออนไลน์ แล้วจะเห็นภาพชัดแจ่ม
เราทุกคนเป็นนักเขียน เป็นคอลัมนิสต์ เป็นนักพิสูจน์อักษร เป็นบรรณาธิการ เป็นนักอ่านอยู่แล้วในเวลาเดียว แน่ล่ะทักษะยังมิเทียมเท่าผู้ทำงานสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ปริมาณงาน จำนวนตัวอักษรจะเป็นหน้าปัดคอยบอก ใครจะรู้ วันหนึ่งหลังกรำเขียนอย่างเอาใจใส่ เอาจริงจัง เนื้องานที่มิได้แลกเปลี่ยนเป็นตัวเลขในบัญชีนี้อาจเทียบชั้น (ผู้น้อยยังบังอาจคิดฝันว่าไปพ้น) งานบนสื่อสิ่งพิมพ์ (ดูเอาจากงานพี่อภิชาตเถิด)
ถึงวันนั้น งานบนเน็ตก็จะมิใช่เพียงงานฝึกฝนด้อยค่าอีกต่อไป
เราผลัดอ่านผลัดเขียนกันอยู่แล้วเป็นวัตร แต่แทนต่างอ่านต่างเขียนตัวใครตัวมัน หากสามารถรวมเนื้องานไว้ด้วยกัน ฝึกฝนพัฒนาไปด้วยกัน ใช่จะคิดไปไหน ก็แค่เกี่ยวแขนกอดคอเดินส่งเสียงร้องเพลงบนถนนตัวอักษรไปด้วยกัน นั่นย่อมดีไม่น้อยหรือมิใช่
พี่เสรีกำลังจะทำความตั้งใจซึ่งตกหล่นเมื่อหลายปีก่อนให้สำเร็จ นั่นคือเขียนนิยายเรื่องแรกให้จบ
ผู้น้อยหามีถ้อยคำกล่าวเป็นกำลังใจ ไม่มีหลักเกณฑ์ใด ๆ หยั่งจำพวกวารสารสิ่งพิมพ์พึงมี ขอเพียงพี่เสรีลงมือเขียน ไม่ว่าโพสต์ลงบันทึกเฟซหรือบล็อก ผู้น้อยจะขออนุญาตดึงลิงก์มาที่ 'สยามสมัย' เป็นอีกหนึ่งแรงหนุนให้เขียนงานโดยเพริศเพลินจำเริญใจ หวังเคียงเดินไปด้วยกันจนจบเรื่อง
ยังไม่ทราบพี่เสรีจะเริ่มปล่อยตัวอักษรออกเดินทางวันใด
มิพักรอคอยแต่ผู้น้อยจะติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน
คารวะ
Tags: บอกอแบกบาล
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น