.โรงบ่มฯ : ..ชายผู้ขังตัวเองในห้องสีขาวและหญิงสาวผู้มีท้องฟ้าในดวงตา...:
เขาพูดเสียงสั่น
ทว่าตัวเขาไม่ได้โตขึ้นกว่าเดิมอีกแล้ว
หลังประตูสีแดงบานเล็ก
หญิงสาวผู้มีท้องฟ้าในดวงตา
ยังคงแปลกใจ...
แปลกใจที่จู่ ๆ ชายหนุ่ม
ก็ผลักไสให้เธอออกจากห้องสีขาวห้องนั้น
เธอหันหลังและแหงนมองท้องฟ้า
บนท้องฟ้าเริ่มมีเมฆฝนประปราย
และหากสังเกตเพียงนิด
จะพบว่าร่างกายของเธอโตขึ้นกว่าเดิม...
หญิงสาวค่อย ๆ เดินจากไป...
ศุกร์ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ดินสอและสีน้ำบนกระดาษ ๓๐๐ แกรม
ขนาด ๒๘x๓๘ ซม.
ตั้งแต่ที่ท้องฟ้าขมุกขมัวและครึ้มไปด้วยเมฆฝน
เขาก็กักขังตัวเองอยู่ในห้องสีขาว
ที่มีประตูสีแดงบานเล็กเป็นตัวเชื่อมสู่โลกภายนอก
แม้จะเป็นเพียงห้องเล็ก ๆ
แต่เขาก็ยินดี
ในห้องสีขาวเขารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า
อยู่ภายใต้ฟ้ากว้างที่หม่นหมอง "
ทุกครั้งที่คิด
ตัวเขาก็จะโตขึ้นทีละน้อย ๆ
ไม่นาน...
ตัวเขาก็โต...
โตจนเกินกว่าจะออกมาจากห้องนั้น
ด้วยประตูบานเดิม
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า
อยู่ภายใต้ฟ้ากว้างที่หม่นหมอง "
เขาคิดเช่นนั้นเรื่อยมา
กระทั่งประตูสีแดงถูกเปิดออก
และหญิงสาวคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทีอยากรู้
" ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนอยู่ในนี้
ฉันคิดไม่ผิดจริง ๆ "
เธอเอ่ยเสียงใส
" ชายตัวโตเธอมัวทำอะไรในห้องสีขาวที่คับแคบ
ทั้งที่โลกแสนสดใสอยู่ห่างจากเธอเพียงแค่ประตูบาง ๆ กางกั้น "
น้ำเสียงเธอเปลี่ยนเป็นสงสัย
" หญิงสาวเอย...เธอเอาอะไรมาพูด
ไม่มีที่ไหนในโลกที่ฉันเคยพบเจอ
จะสดใสไปกว่าในห้องสีขาวห้องนี้อีกแล้ว "
น้ำเสียงของเขายิ่งสงสัยไม่ต่างกัน
" นอกห้องมีแต่ฟ้าที่หมองหม่น
ที่ทำให้ผู้คนสิ้นหวัง
ฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆฝนและพายุกระหน่ำ
ฟ้าที่ทำให้ฉันหวาดกลัว "
เขาก็กักขังตัวเองอยู่ในห้องสีขาว
ที่มีประตูสีแดงบานเล็กเป็นตัวเชื่อมสู่โลกภายนอก
แม้จะเป็นเพียงห้องเล็ก ๆ
แต่เขาก็ยินดี
ในห้องสีขาวเขารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า
อยู่ภายใต้ฟ้ากว้างที่หม่นหมอง "
ทุกครั้งที่คิด
ตัวเขาก็จะโตขึ้นทีละน้อย ๆ
ไม่นาน...
ตัวเขาก็โต...
โตจนเกินกว่าจะออกมาจากห้องนั้น
ด้วยประตูบานเดิม
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า
อยู่ภายใต้ฟ้ากว้างที่หม่นหมอง "
เขาคิดเช่นนั้นเรื่อยมา
กระทั่งประตูสีแดงถูกเปิดออก
และหญิงสาวคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทีอยากรู้
" ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนอยู่ในนี้
ฉันคิดไม่ผิดจริง ๆ "
เธอเอ่ยเสียงใส
" ชายตัวโตเธอมัวทำอะไรในห้องสีขาวที่คับแคบ
ทั้งที่โลกแสนสดใสอยู่ห่างจากเธอเพียงแค่ประตูบาง ๆ กางกั้น "
น้ำเสียงเธอเปลี่ยนเป็นสงสัย
" หญิงสาวเอย...เธอเอาอะไรมาพูด
ไม่มีที่ไหนในโลกที่ฉันเคยพบเจอ
จะสดใสไปกว่าในห้องสีขาวห้องนี้อีกแล้ว "
น้ำเสียงของเขายิ่งสงสัยไม่ต่างกัน
" นอกห้องมีแต่ฟ้าที่หมองหม่น
ที่ทำให้ผู้คนสิ้นหวัง
ฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆฝนและพายุกระหน่ำ
ฟ้าที่ทำให้ฉันหวาดกลัว "
เขาพูดเสียงสั่น
หญิงสาวขมวดคิ้วปมโตจ้องหน้าชายหนุ่ม
" ฉันไม่เคยเห็นท้องฟ้าอย่างที่เธอพูดมาแม้แต่น้อย...
ไม่เว้นแม้แต่เวลานี้ "
เธอพูดอย่างฉุนเฉียว
และพยายามยื้อชายหนุ่มไปที่ประตูบานเล็ก
ชายหนุ่มก้มมองลอดผ่านช่องประตู
ท้องฟ้าที่เขาเห็นยังคงหมองหม่น
และเต็มไปด้วยเมฆฝนไม่ต่างจากเคย
" เป็นไปไม่ได้
ไม่มีเวลาไหนที่ฉันจะเคยเห็นท้องฟ้าสดใส
มากไปกว่าเวลานี้อีกแล้ว "
หญิงสาวก้าวออกไปนอกห้อง
" ฉันไม่เคยเห็นท้องฟ้าอย่างที่เธอพูดมาแม้แต่น้อย...
ไม่เว้นแม้แต่เวลานี้ "
เธอพูดอย่างฉุนเฉียว
และพยายามยื้อชายหนุ่มไปที่ประตูบานเล็ก
ชายหนุ่มก้มมองลอดผ่านช่องประตู
ท้องฟ้าที่เขาเห็นยังคงหมองหม่น
และเต็มไปด้วยเมฆฝนไม่ต่างจากเคย
" เป็นไปไม่ได้
ไม่มีเวลาไหนที่ฉันจะเคยเห็นท้องฟ้าสดใส
มากไปกว่าเวลานี้อีกแล้ว "
หญิงสาวก้าวออกไปนอกห้อง
แหงนหน้ามองท้องฟ้าและยืนยัน
" มันต้องมีอะไรผิดปกติ "
เธอพูดพลางจ้องเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่ม
เธอมองเห็นแววตาหมอง
มองเห็นเมฆฝน
มองเห็นท้องฟ้าหม่นในดวงตาเขา
" ฉันว่าฉันเริ่มจะเข้าใจแล้ว
ไม่ใช่ท้องฟ้าหรอกที่หม่นหมอง "
เธอเปิดประตูและก้าวออกไปข้างนอก
" ฉันจะช่วยให้ท้องฟ้าของเธอสดใสเอง "
เมื่อประตูสีแดงบานเล็กถูกปิดลง
ความเงียบก็กลับเข้าครอบคลุมอีกครั้ง
ชายผู้ขังตัวเองในห้องสีขาว
ถอยหลังกลับไปที่มุมหนึ่งของห้องและทรุดตัวลงนั่ง
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า
อยู่ภายใต้ฟ้ากว้างที่หม่นหมอง "
เขาตัวโตขึ้นอีกนิด...
เวลาผ่านไปนานนับปี
ประตูบานเดิมก็ถูกเปิดอีกครั้ง
หญิงสาวโผล่หน้าเข้ามา
และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
" ฉันเดินทางไปทั่วทุกหนแห่ง...
ทุกหนแห่งที่มีท้องฟ้าที่สดใส
และฉันเก็บมันมาให้เธอ "
ชายหนุ่มจ้องมองไปที่หญิงสาวอย่างแปลกใจ
แต่เมื่อเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
เขาก็เริ่มเข้าใจ...
ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยท้องฟ้าที่สดใส
เป็นท้องฟ้าที่เขาไม่เคยพบเห็น
เขาจ้องมองดวงตาของเธออย่างหลงใหล
ทั้งคู่จ้องมองตากันเนิ่นนาน
นานเท่าที่ใครคนหนึ่งจะจ้องมองตาใครคนหนึ่งทั้งชีวิต
นานเท่าที่ในดวงตาของเขาจะถักทอประกายสีฟ้าใส
ฉับพลัน...
ชายหนุ่มก็หลับตาลง
" ฉันว่าเธอควรออกไปจากห้องนี้ได้แล้ว "
เขาเอ่ยเสียงเข้ม
" พูดอะไรอย่างนั้น
ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี
ท้องฟ้าของเธอกำลังจะกลับมาสดใส "
หญิงสาวกล่าวอย่างแปลกใจ
เขาเปิดประตู
และผลักเธอออกไปจากห้องสีขาว
อย่างไร้คำตอบ
" มันต้องมีอะไรผิดปกติ "
เธอพูดพลางจ้องเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่ม
เธอมองเห็นแววตาหมอง
มองเห็นเมฆฝน
มองเห็นท้องฟ้าหม่นในดวงตาเขา
" ฉันว่าฉันเริ่มจะเข้าใจแล้ว
ไม่ใช่ท้องฟ้าหรอกที่หม่นหมอง "
เธอเปิดประตูและก้าวออกไปข้างนอก
" ฉันจะช่วยให้ท้องฟ้าของเธอสดใสเอง "
เมื่อประตูสีแดงบานเล็กถูกปิดลง
ความเงียบก็กลับเข้าครอบคลุมอีกครั้ง
ชายผู้ขังตัวเองในห้องสีขาว
ถอยหลังกลับไปที่มุมหนึ่งของห้องและทรุดตัวลงนั่ง
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า
อยู่ภายใต้ฟ้ากว้างที่หม่นหมอง "
เขาตัวโตขึ้นอีกนิด...
เวลาผ่านไปนานนับปี
ประตูบานเดิมก็ถูกเปิดอีกครั้ง
หญิงสาวโผล่หน้าเข้ามา
และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว
" ฉันเดินทางไปทั่วทุกหนแห่ง...
ทุกหนแห่งที่มีท้องฟ้าที่สดใส
และฉันเก็บมันมาให้เธอ "
ชายหนุ่มจ้องมองไปที่หญิงสาวอย่างแปลกใจ
แต่เมื่อเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
เขาก็เริ่มเข้าใจ...
ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยท้องฟ้าที่สดใส
เป็นท้องฟ้าที่เขาไม่เคยพบเห็น
เขาจ้องมองดวงตาของเธออย่างหลงใหล
ทั้งคู่จ้องมองตากันเนิ่นนาน
นานเท่าที่ใครคนหนึ่งจะจ้องมองตาใครคนหนึ่งทั้งชีวิต
นานเท่าที่ในดวงตาของเขาจะถักทอประกายสีฟ้าใส
ฉับพลัน...
ชายหนุ่มก็หลับตาลง
" ฉันว่าเธอควรออกไปจากห้องนี้ได้แล้ว "
เขาเอ่ยเสียงเข้ม
" พูดอะไรอย่างนั้น
ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี
ท้องฟ้าของเธอกำลังจะกลับมาสดใส "
หญิงสาวกล่าวอย่างแปลกใจ
เขาเปิดประตู
และผลักเธอออกไปจากห้องสีขาว
อย่างไร้คำตอบ
ประตูบานเดิมถูกปิดลงอีกครั้ง
และมันแน่นหนากว่าเดิม
เมื่อทั้งห้องกลับสู่ความเงียบงัน
เขาก็ทรุดตัวลงนั่งที่มุมหนึ่ง
เมื่อทั้งห้องกลับสู่ความเงียบงัน
เขาก็ทรุดตัวลงนั่งที่มุมหนึ่ง
ร่างกายเขาเล็กลงเล็กน้อย
ในขณะที่เปลือกตายังคงปิดสนิท
ไม่นานหยดน้ำใสก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตา
เป็นหยดน้ำที่เกิดจากเมฆฝน...
เมฆฝนในดวงตาของเขา
ไม่นานหยดน้ำใสก็เริ่มไหลออกมาจากดวงตา
เป็นหยดน้ำที่เกิดจากเมฆฝน...
เมฆฝนในดวงตาของเขา
ท้องฟ้าในดวงตาเขากลับมาหมองหม่นอีกครั้ง
เขานั่งยิ้มท่ามกลางสายฝนในดวงตา
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า..."
เขานั่งยิ้มท่ามกลางสายฝนในดวงตา
" อย่างน้อยก็ยังดีกว่า..."
ทว่าตัวเขาไม่ได้โตขึ้นกว่าเดิมอีกแล้ว
หลังประตูสีแดงบานเล็ก
หญิงสาวผู้มีท้องฟ้าในดวงตา
ยังคงแปลกใจ...
แปลกใจที่จู่ ๆ ชายหนุ่ม
ก็ผลักไสให้เธอออกจากห้องสีขาวห้องนั้น
เธอหันหลังและแหงนมองท้องฟ้า
บนท้องฟ้าเริ่มมีเมฆฝนประปราย
และหากสังเกตเพียงนิด
จะพบว่าร่างกายของเธอโตขึ้นกว่าเดิม...
หญิงสาวค่อย ๆ เดินจากไป...
จากไป...
พร้อม ๆ กับสายฝนที่เริ่มโปรยปราย...
โปรยปรายมาจากท้องฟ้าในดวงตาของเธอ
ศุกร์ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ดินสอและสีน้ำบนกระดาษ ๓๐๐ แกรม
ขนาด ๒๘x๓๘ ซม.