๒.
โรงแรม Angkor Jungle Hyatt Resort & Spa เป็นรีสอร์ทห้าดาวแห่งเดียวที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าลึกแถบนี้ สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมขอมโบราณบนเนื้อที่กว่า ๑๐๐ ไร่ ประกอบด้วยปรางค์ปราสาทหินเชื่อมต่อด้วยซุ้มระเบียงล้อมปรางค์ประธานสูงใหญ่ที่ใช้เป็นส่วนต้อนรับ เสียงเครื่องสายแสงไฟประดับยามค่ำคืนยิ่งเพิ่มบรรยากาศขลึมขลังเหมือนอยู่ในดินแดนสวรรค์ เพื่อป้องกันการรบกวนจากคนภายนอก รีสอร์ทดำเนินธุรกิจผ่านเมมเบอร์ชิปราคาแพง รับเฉพาะมหาเศรษฐีที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่มีการขายห้องพักผ่านเอเจ้นท์หรือเวบไซท์ อัตราส่วนการบริการต่อผู้เข้าพักอยู่ที่ ๑๐ ต่อ ๑ นั่นหมายถึง บริกร ๑๐ คนจะดูแลผู้เข้าพัก ๑ คน โดยไม่แสดงตัวให้พบหากไม่เรียกหา...บริการทุกอย่างถูกจัดไว้ล่วงหน้าเป็นกิจวัตร ด้วยบริการที่ผู้เข้าพักทุกคนได้รับประดุจองค์เทพ มีเหล่าพนักงานในชุดนางอัปสรคอยดูแลเอาใจใส่ ทั่วบริเวณมีเสียงเครื่องดนตรีโบราณดังแว่วอยู่ตลอดเวลาประดุจว่ากลับไปอยู่ในวันเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ของชนเผ่าขอมในอดีต กิจกรรมกลางแจ้งและไนท์ซาฟารียามค่ำคืน ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เคยรู้สึกเบื่อ... สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับไฮเอ็นอย่างรวดเร็ว ตลอด ๓ ปีที่เปิดดำเนินการรีสอร์ทแห่งนี้ถูกจัดไว้ในเวิร์ดท็อปเท็นรีสอร์ทน่าพักที่สุดในโลกติดต่อกันทุกปี เป็นที่รู้กันในวงการโรงแรมว่าลงทุนสร้างโดยนักธุรกิจโรงแรมตระกูลใหญ่แล้วว่าจ้างทีมงานไฮแอทบริหาร แต่ในความเป็นจริงเงินทุนสนับสนุนหลักมาจาก SPSA เพื่อใช้รีสอร์ทแห่งนี้เป็นฐานปฏิบัติการ อำพรางการติดตามของสื่อและฝ่ายค้าน ท่านนายกฯ แวะพักที่นี่ทุกครั้งที่จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรหรือแวะดูงานในพื้นที่ เพื่อติดตามการทำงานของ SPSA อย่างใกล้ชิด ท่านมักเอ่ยกับผู้พัน “ผมเป็นนักลงทุน ผมจึงต้องติดตามว่าเงินทุนของผมเดินทางไปถึงไหนแล้ว” รถจิ๊ปซาฮาร่าสีแดงสะท้อนแสงไฟเป็นมันวาวเลี้ยวจอดหน้าล็อบบี้ ชายในชุดลำรองสวมทับด้วยแจ็คเก็ตเนื้อดีสีเข้มสามคนก้าวออกจากรถเดินตรงไปล็อบบี้เล้าจ์ คนเดินหน้าร่างเตี้ยลงพุงนิดหน่อย ผมบาง คนข้างเป็นชายหนุ่มสูงใหญ่ ผมสั้นสกินเฮดคิ้วเข้ม แววตาขี้เล่น อีกคนเดินตามหลังหิ้วกระเป๋าเอกสารใบเขื่อง นั่งลงที่ล็อบบี้เล้าจ์ ทั้งหมดสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานนางอัปสรสวยบาดใจ "ของผมเหมือนเดิม" ผู้พันบอกกับพนักงาน หันไปถามชายหนุ่มที่นั่งยิงฟันขาวส่งยิ้มให้พนักงานอัปสร "ของคุณอะไรดี?" "ผมขอแจ็คออนเดอร์ร็อค ขอบคุณครับ" เขาขยิบตาให้นางอัปสร “คราวที่แล้ว ผมต้องหาคนรู้ภาษาขอมโบราณแปลให้ ถึงได้รู้ว่ามันให้ผมมาครึ่งเดียว คราวนี้มันเรียกซะ ๕๐ ล้าน แสบจริง ๆ คนป่าบ้าอะไรมีบัญชีสวิสฯ!” ผู้พันพูดขณะเบือนสายตาไปรอบล็อบบี้ “เขาต้องการให้ผู้พันนำชิ้นแรกไปวิเคราะห์ เมื่อผู้พันรู้ว่าเป็นของแท้แน่แล้วค่อยตกลงราคาจริง” “คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเรอะ!?” “ครับ...ผมเช็ครายละเอียดก่อนเริ่มงานเสมอ” “มีอะไรบ้างที่คุณไม่รู้?” “นั่นล่ะครับ...ที่ผมไม่รู้” พนักงานกลับมาพร้อมเครื่องดื่ม ผู้พันหลิ่วตามองผู้ช่วยคนใหม่ของเขาที่ส่งตรงมาจากป่าไม้ตามคำสั่งท่านนายกฯ ชายหนุ่มยิ้มฟันขาว ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้น “เชียร์สครับท่าน” เวลานัดหมายผ่านไปแล้ว ข้อความในกระดาษ...สั่งลูกน้องของคุณข้างนอกออกไปให้พ้นรัศมีหนึ่งกิโลเมตร “ซวยล่ะสิ มันพบพวกข้างนอกเข้าแล้ว” ผู้พันบ่นแล้วกดสัญญาณวิทยุ “ถอยออกไปจากที่ตั้งให้หมด....ไม่ต้องถาม!” เขาพูดน้ำเสียงตะคอกพยายามทำสีหน้าเป็นปกติ พนักงานคนเดิมนำถาดมาวางอีกครั้ง ผู้พันอ่านข้อความแล้วปลดอุปกรณ์วิทยุสื่อสารวางบนถาดพร้อมธนบัตรใบละพัน พนักงานสาวไหว้ขอบคุณอย่างอ่อนช้อย ส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม เขายิงฟันขาวตอบ พนักงานสาวในชุดอัปสรสล้างหยิบถาดเงินเดินจากไป “มันเห็นเราแต่เราไม่เห็นมัน...ยังสั่งให้ผมทิปพนักงานพันนึง ไอ้บ้าเอ้ย!” ผู้พันหงุดหงิด “ดีมาก...ไม่ต้องหันมา” เสียงดังมาจากโต๊ะด้านหลัง ดูเหมือนว่าจะมีชาวอิตาเลี่ยนนั่งอยู่ ๒-๓ คน แต่ตอนนี้ อิตาเลื่ยนคนหนึ่งซึ่งนั่งหันหลังชนกับผู้พันกำลังพูดภาษาไทยชัดเจน “หากคุณตุกติก สิ่งที่คุณต้องการจะหายไปตลอดกาล....เรามาเริ่มกันเลย” // ด้านนอก มีรถตู้ส่งของเข้ามาจอด คนในชุดดำสามคนใช้หมวกไหมพรมอำพรางใบหน้าพุ่งตัวออกจากรถ พวกมันเคลื่อนไหวหลบกล้องบันทึกภาพของรีสอร์ทอย่างรวดเร็ว // “ของอยู่ไหน?” ผู้พันถาม “ไม่ต้องรีบร้อนผู้พัน...ทำตามที่ผมบอก ให้คนของคุณทำรายการโอนเงินก่อน เมื่อตัวเลขครบจำนวนโชว์ขึ้น ผมจะส่งของให้คุณตรวจสอบ เมื่อคุณพอใจก็สั่งลูกน้องกดเอ็นเตอร์” “ได้” “เดี๋ยว...มันไม่ง่ายอย่างนั้น...ผมติดระเบิดไว้กับของที่จะส่งมอบ หากคุณตุกติก คุณจะไม่เห็นมันอีกเลย เข้าใจใช่มั้ย?” “ได้” ผู้พันพยักหน้าให้ชายคนที่ถือกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ เขาเปิดมันขึ้น ภายในเป็นคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์สื่อสารไฮ-เทค เขาเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบธนาคารสวิสฯ ขณะป้อนระหัสผ่าน นิ้วเขาสั่นนิดหน่อย เสียงเพลงบรรเลงในล้อบบี้พอช่วยปลอบประโลมให้ใจเขาหลุดจากสถานการณ์หมิ่นเหม่เช่นนี้ได้บ้าง สัก ๒-๓ วินาทีก็ยังดี สักครู่หน้าจอแสดงผล...เข้าสู่บัญชีของ SPSA เขาทำรายการโอนเงิน...เลข 5 กับเลขศูนย์อีก 7 ตัวกระพริบ อีกฝ่ายกำลังนั่งดูโน้ตบุ๊คเดลล์ความเร็วสูงของตนเหมือนกำลังง่วนอยู่กับงาน มีตัวเลขห้าสิบล้านโชว์ขึ้นในบัญชี // คนในชุดดำทั้งสามหลบอยู่ในเงามืดกระชับอาวุธ // “ดี....ต่อไปก็หยิบคีย์การ์ดบนโต๊ะเดินไปที่รีเซฟชั่น บอกเอาของที่ฝาก จำไว้ว่ามีระเบิดติดอยู่หากคุณตุกติกถือว่าผมเตือนคุณแล้ว” ผู้พันเหลือบมองผู้ช่วยคนใหม่เชิงขอความคิดเห็น เขาส่งยิ้มยิงฟันขาว ผู้พันลุกขึ้นเอื้อมมือหยิบคีย์การ์ดจากโต๊ะด้านหลังแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์รีเซฟชั่น ส่งคีย์การ์ดให้พนักงาน สักครู่พนักงานกลับมาพร้อมกล่องใบเล็ก ผู้พันเปิดออกหยิบผ้าชิ้นเล็ก ๆ มีกระดุมติดอยู่เม็ดหนึ่ง พิจารณาอยู่ครู่ใหญ่แล้วหันมาพยักหน้า ไม่ทันรู้ตัว ใบหน้าผู้พันกระทบของแข็งบางอย่าง ร่างเซถลา เสียงปืนออโตรัวลั่น ปัง! ปัง! ปัง! ทุกคนรีบหมอบลงกับพื้น คนในชุดดำคว้าผ้าไปจากมือผู้พันแล้วเตะซ้ำเข้าชายโครงอันอวบอ้วนผู้พันร้องเสียงหลง จากนั้นวิ่งออกไปด้านนอก อีกสองคนยังคงสาดกระสุนเพื่อถ่วงเวลา ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยด! เสียงเบรคของรถตู้ส่งของดังสนั่นหน้าล้อบบี้ คนในชุดดำทั้งสามกระโจนเข้าในรถที่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มชายชาวอิตาเลี่ยนกระชากวิกผมออกร้อง “ตาม!” ทั้งหมดชักบืนพกวิ่งตามออกไป ผู้พันนอนตัวงอ แค่นเสียงร้อง “ทำอะไรสักอย่างสิหัวหน้า!” “ก็ท่านสั่งให้ผมนั่งดูเฉย ๆ” “ปัดโธ่เว้ย!” ผู้พันรัวหมัดทุบพื้นเบิกตามองชายหนุ่มนั่งยิ้มฟันขาว “โอเค ๆ ผมยกเลิกคำสั่ง!” เขาพยามยามตะเบ็งสุดเสียง หัวหน้าหนุ่มหันไปถามคนที่คุกเข่ามุดอยู่ใต้โต๊ะ “โอนยัง?” เขาส่ายหน้า ชายหนุ่มร้อง “ดี!" เขาเคาะหัวนายคนนั้นเบา ๆ คว้าแจ็คแดเนียลออนเดอะร็อคขึ้นดื่มหมดแก้วแล้ววิ่งออกไป ผู้พันพยายามเค้นเสียงที่ยังพอมีเหลือในกระบังลม “ไอ้...ไอ้...ไอ้บ้าเอ้ย!” เขาวิ่งไปที่จอดรถ อึดใจจี๊ปซาฮาร่าออกตัวด้วยกำลังเคลื่องยนต์ 6 สูบ 4000 ซีซี ไล่ตามรถทั้งสองคันไป ผู้พันออกมายืนกุมท้องร้องตะโกน “เอาวิทยุมา!” หน่วย SPSA ในชุดพนักงานรีสอร์ทส่งวิทยุติดต่อให้ เขาตะโกนลงไป “สกัดเส้นทางออก! สกัดเส้นทางออก! อย่าให้หนีไปได้ มันเอาของไปแล้ว อย่าให้หนีไปได้!” เขากระสับกระส่าย “หัวหน้า! หัวหน้า! ตอบสิวะ! หัวหน้า! โธ่เว้ย!” ผู้พันขว้างวิทยุลงพื้นสุดแรงชิ้นส่วนแตกกระจาย เขาร้อง “เอาเครื่องใหม่มา!” พวกหน่วย SPSA มองหน้ากันแล้วส่ายหน้าให้ผู้พัน รถตู้สีขาววิ่งชนประตูรีสอร์ท ด้านหลังเต็มไปด้วยรูกระสุน เสียงเครื่องยนต์กับเสียงปืนดังสนั่นไปตลอดทาง หัวหน้าอัดคันเร่งซาฮารา เครื่องยนต์ตอบสนองทันที จี๊ปแดงแล่นฝ่าความมืดไล่ตามเสียงปืนไปบนถนนลาดยางแคบ ๆ เลาะเนินเขา คนในรถตู้พยายามยิงสกัดรถที่ติดตาม บนถนน หน่วย SPSA ตั้งด่านสกัด รถตู้วิ่งฝ่าเข้าไป พวก SPSA ยิงถล่ม กระสุนทะลุกระจกถูกคนขับ คนนั่งข้างก้มตัวหลบกระสุนพยุงพวงมาลัยรถ รถตู้พุ่งชนด่าน ฟอร์จูนเนอร์ที่ตามมากราดกระสุนใส่ พวก SPSA กระโดดหลบลงข้างทาง รถตู้ส่ายไปมา ฟอร์จูนเนอร์ไล่ยิงใกล้เข้าทุกที จี๊ปซาฮาร่าแล่นมาด้วยความเร็วสูง พุ่งเข้าชนท้ายฟอร์จูนเนอร์แล้วเบียดเข้าด้านเนินเขา รถฟอร์จูนเนอร์พยายามเร่งความเร็วขึ้นไป หัวหน้าหักพวงมาลัยอัดข้างขวา หัวจี๊ปกระแทกกลางลำฟอร์จูนเนอร์อย่างแรงจนท้ายปัด คนในรถโผล่หน้ายิงสวนออกมา เสียงของผู้พันเรียกจากวิทยุ “หัวหน้า! หัวหน้า! ตอบสิเว้ย!” หัวหน้าก้มหัวหลบกระสุน ลดความเร็ว หลบรถเข้าด้านหลังแล้วพุ่งชนท้ายฟอร์จูนเนอร์ “หัวหน้า! หัวหน้า!” เสียงสิทยุยังดัง เขาหักรถหลบวิถีกระสุน หยิบวิทยุขึ้นกรอกเสียงลงไป “ครับผู้พัน!” “เป็นไงบ้าง!?” “ผมกำลังตามพวกมัน!” “ดี...แล้วอย่าให้รถของผมเสียหายล่ะโว้ย!” “ครับผู้พัน!” หัวหน้าเอาวิทยุเคาะกับคอนโซลแล้วถูไปมา เสียงผู้พันร้องเรียก “หัวหน้า! หัวหน้า!....” เขาเอื้อมมือปิดวิทยุ กระสุนปืนพุ่งออกจากท้ายรถคันหน้า กระจกหลังแตกละเอียด หัวหน้าเบี่ยงตัวหักพวงมาลัยเสียงล้อบดถนน ดัง.....เอี๋ยดดดด! แสงไฟหน้าส่องสว่างเข้าภายในรถฟอร์จูนเนอร์ เห็นคนในรถยกวัตถุทรงกระบอกขึ้นมา หัวหน้าร้องลั่น “บาซูก้า!” เขากระทืบคันเร่งมิด ชิปสมองกลของซาฮาร่าส่งคำสั่งอัดฝอยน้ำมันเข้าลูกสูบทั้งหก เสียงเครื่องยนต์แผดร้อง รถพุ่งชนท้ายคันหน้าอย่างแรง ฟอร์จูนเนอร์เสียหลักหมุนคว้างขณะเดียวกับจรวดบาซูก้าหลุดจากกระบอกยิงพุ่งใส่เนินเขาระเบิดเปลวเพลิงลุกจ้าก้อนหินถล่มร่วง ฟอร์จูนเนอร์เสียหลักตกลงเนิน หัวหน้าควงพวงมาลัยหลบหลีกหินก้อนใหญ่ ผ่อนคันเร่งแล้วอัดซ้ำพุ่งตามรถตู้ รถตู้ส่ายไปมาจนเกยเนิน รถพลิกตะแคงไถลไปกับถนนเกิดประกายไฟ หัวหน้าอัดเบรค ยางมัดเทอร์เรนของซาฮาร่าส่งเสียงร้องทอดยาวท้ายปัดหยุดลงข้างรถตู้ที่นอนตะแคง กลิ่นน้ำมันคลุ้ง เขากระโดดลงไปเบียดหลังแนบตัวรถ ส่งเสียงร้อง “ผมมาช่วย...อย่ายิง!” เงียบ น้ำมันไหลไปบนผิวถนน ไอน้ำมันลอยตัดแสงไฟหน้าจี๊ป หัวหน้าวิ่งก้มตัวมองในรถ คนในรถแน่นิ่ง มีข้างคนขับขยับ เขาปีนเข้าไปดึงตัวขึ้นมา ร้องถาม “ขยับได้มั้ย?” ฝ่ายโน้นพยักหน้า เขาพาดแขนคนในชุดดำไว้กับไหล่รีบพาวิ่งไปที่จี๊ป เสียง “ตูมม!!!” ดังสนั่น เพลิงร้อนสว่างจ้าระเบิดเปลวอย่างรุนแรง รถตู้หายไปเห็นเป็นเปลวเพลิงกองใหญ่ คลุ้งเขม่าควันม้วนตัวไปในท้องฟ้ามืดมิด จี๊ปซาฮาร่าแผดเสียงพุ่งออกมาจากเปลวเพลิง OOO
ผู้พันเริ่มหงุดหงิดฮึมฮัม “มันจะเอาไงของมันวะเนี่ย”
พนักงานอัปสรสาวนำถาดเงินโบราณสะท้อนเงาวาววางบนโต๊ะ “มีคนฝากข้อความถึงท่านค่ะ” ผู้พันหยิบแผ่นกระดาษใบเล็ก
กระสุนปืนสาดไปทั่วล็อบบี้เล้าจ์ สิ่งของกระจุยกระจายอุปกรณ์สื่อสารกระเด็นตกจากโต๊ะ
หัวหน้าวิ่งออกมาด้านนอกเห็นรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์แล่นตามรถตู้ไปทางประตูรีสอร์ท เสียงปืนดังลั่นตลอดเวลา แขกที่เข้าพักวิ่งหนีกันอลหม่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น