๏ ครึ้มครางครืนเมฆครวญลมรวนหมุน
หอมเอยกรุ่นลมกล่อมมาห้อมหอม
หม่นม่านฟ้ามาดินกลิ่นพยอม
ชโลมล้อมพรายน้ำระบำระบายละอองโอนโยนเย้าเคล้าลมต้อง
เย็นลมล่องริ้วพรำก็ฉ่ำฉาย
เงาฝนซับเงาฟ้าลงพร่าพราย
กระซิบสายกระซิกระริกรินเธอเขียนคำร่ำระบายกลางสายฝน
ร่วงริ้วหล่นเรียงราวไร้คราวสิ้น
เขียนถ้อยคำพร่ำก่นบนผิวดิน
เขียนมลทินทุรชนบนผิวน้ำฉันถือร่มก้มมองจ้องเธอนิ่ง
เนิ่นนานยิ่งเหน็บหนาวยะเยียบย่ำ
ขืนแรงลมขยับร่มพรางฝนพรำ
เข็มฝนร่ำรอยไหวในเงาพรายเป็นร้อยกรองวรรควลี 'กวีกระวาด'
ท่ามพรำสาดพรายน้ำระส่ำสาย
มือเธอสั่นถั่นท้นกระวนกระวาย
หนาวเล่ห์ร้ายเงาหลอนละครคนสาดพรำสายพัดพามาซ่าซัด
วนลมลัดกวัดกรำกระหน่ำฝน
เฉื่อยเมฆฟ้ามาพร่างโพยมบน
ฉ่ำน้ำฝนหล่นพรมพลิ้วลมพาโปรยละอองปลิวว่อนเธอปอนเปียก
กระซิบเรียก "ไปกันเถอะ" เธอส่ายหน้า
น้ำฝนนองร่องแก้มแกมน้ำตา
ชะเสื้อผ้าย้อมสีลงรี่ลามฉันหันกายขยับร่มก้มหน้านิ่ง
ปล่อยเธอเผชิญลวง-จริงไม่ติงถาม
ปล่อยสายฝนหล่นชะอาภรณ์งาม
สืบเท้าฝ่าสายน้ำไปตามทางฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น