เธอผู้เก็บรักษาความคำนึงของฉัน
ลมฝนแวะเวียนมาทักทายหมู่เมฆฤดูร้อน นำริ้วฝนบางเบาประโลมหล้า คล้ายบอกว่าแม้มิใช่ฤดูกาลแต่ก็ใช่จะห่างหาย ยังคงเวียนแวะหามิได้ขาด
หรือนั่นคือเสียงของความคะนึงถึงกัน
ฉันเองคงมิต่างลมฝน บางครั้งอยู่ใกล้ให้เธอพบเห็นมิเว้นวัน แต่บางครั้งกลับห่างหายให้ต้องพะวงหาว่าไปตกระกำลำบากอยู่หนใด ครั้นไม่นานก็เวียนกลับมา ดูไปคล้ายเอาแน่ไม่ได้ มิอาจไว้เนื้อเชื่อใจ
บ่อยครั้งดวงตาว่างเปล่าของฉันมองเห็นความรักของผู้คน เป็นความรักที่ทุ่มเทกาย-ใจ เมื่อรักมากก็มักจะหวงไว้กับตัวเองให้มาก ก่อพันธนาการยุ่งเหยิงจนยากแก้ไข หลายรายกอดรัดความรักไว้เผลอคิดไปว่าเป็นของตนเอง กอดรัดจนอีกฝ่ายมิอาจกระดิกกระเดี้ยผ่อนลมหายใจ
เปล่าเลย
ความรักที่แท้มิได้เป็นเช่นนั้น ความรักที่แท้ไม่เคยยินยอมตกอยู่ใต้อาณัติของผู้ใด ไม่เคยยอมให้ใครครอบครอง ทั้งไม่เคยต้องขังด้วยกรอบของคำนิยามใด
ที่ผู้คนร่ำร้องเพรียกหาจึงไม่เคยเลยคือความรักที่แท้ แค่ความต้องการครอบครอง เป็นเจ้าข้าวเจ้าของหวังเอามาเก็บไว้กับตัว อย่างน้อยได้ประโลมใจว่าฉันมีใครคนหนึ่งอยู่ข้าง ๆ มั่นใจไม่ว่าพบเจอสถานการณ์ผันแปรเยี่ยงไร ใครอีกคนจะคอยเป็นกำลังใจ ยื่นแขนฉุดให้ลุกขึ้นเมื่อล้ม ส่งผ้าซับเมื่อน้ำตารื้น หนทางชีวิตข้างหน้าไม่ต้องหวั่นหวาดอีกแล้วว่าจะต้องเดินโดยลำพัง
เปล่าเลย
ความเชื่อเหล่านั้นไม่อาจคงอยู่เหมือนเมฆฝนไม่อาจยึดท้องฟ้าเป็นที่อาศัย ยังต้องหล่นลงพื้นกระจายหายไปไม่เวลาใด
คนคนหนึ่งต่อให้มีรักที่มั่นคงเพียงไร สุดท้ายความตายก็มาพรากจาก ประสาอะไรกับเงื่อนไขชีวิตอีกร้อยแปดพันเก้าประการที่จะมาแยกสองคนออกจากกัน ความรักของพวกเขาก็จะสลายหายไปมิต่างสายฝนซึมหายในเนื้อดิน เหลือไว้ก็แต่ความทรงจำหลากรส
ยังมีความรักอีกชนิดหนึ่ง
เป็นคล้ายฟองคลื่นรักหาดทราย ทิวเขารักแสงตะวัน และลมฝนรักแมกไม้
เป็นความรักที่ไม่หวังครอบครอง ปล่อยต่างฝ่ายให้เป็นตัวเอง มีอิสระของตนเอง เมื่อผลัดเข้าหน้าหนาว ลมฝนจำร้างจากไปตามวิถีตน หายไปจนกิ่งก้านไม้หลั่งสายน้ำตาแห่งความคะนึงหาเป็นใบกรอบเหลืองปลิดโปรย และแล้วอย่างไม่คาดฝัน ลมฝนหวนกลับมากลางร้อน นำสายฝนชะโลมต่างความคิดถึงซึ่งมีให้กัน ไม่มีคำตัดพ้อต่อว่า ทั้งสองดำรงอยู่บนวิถีของตน
ฉันเองคงมิต่างลมฝน
รับจดหมายทุกครั้งคล้ายเสียงเพรียกจากแมกไม้ คำขอร้องให้อยู่เป็นเพื่อนอย่าได้จากไป เป็นคล้ายห่วงหาอาทรที่มีให้กัน ฉันรู้ว่าเธอตระหนัก ลมฝนจากไปก็เพื่อนำเมฆฝนกลับมาชะโลมความชุ่มฉ่ำแก่แมกไม้ ก็หากลมฝนหยุดการเดินทาง ไหนเลยแมกไม้สามารถเติบโต คงมิต่างที่ฉันยังคงเขียน เขียนเหมือนสิ่งเดียวเหลือในชีวิต เพราะหากหยุดเขียน ฉันคงไม่อาจดำรงคงอยู่ เหมือนลมฝนมิอาจเป็นลมฝนหากต้องหยุดพัดพา
ฉันจึงกันตัวเองจากเรื่องราววุ่นวายในสังคมคน เลี่ยงข้องแวะทุกเรื่องที่อาจทำให้ตัวอักษรหยุดขยับเดิน จนคล้ายทำตัวเป็นบุคคลลึกลับ ไม่น่าวางใจ หวังเธอรับรู้ว่าทั้งหมดก็เพื่อรักษาชีวิตขีดเขียนไว้ให้นานสุด ไปให้ไกลสุดเท่ามีแรงกำลัง
กระนั้น มิว่าเส้นทางสายอักษรทอดยาวเพียงไร ขอแค่เธอไม่หยุดเขียน-อ่าน เยี่ยงแมกไม้ไม่หยุดผลัดใบ ตัวหนังสือของฉันจะยังอยู่ข้าง ๆ เธอ เหมือนลมฝนไม่ว่าจากไปนานเท่าไร สุดท้ายก็จะกลับมา มาประโลมแมกไม้ด้วยระไอฉ่ำเย็น
จะเป็นเยี่ยงนี้..ตลอดกาลนาน
-เพื่อนสนิทของความรัก-
@ ถึง..."เพื่อนสนิทของความรัก" (6)
http://www.facebook.com/notes/nunu-friendlygirl/%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-6/349244498454765 %E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%813/335075806538301
Tags: essay
, Letter in a Bottle