บทนำ
เบื้องนั้นแผ่นดินสมเด็จพระมหาปิยราชเจ้าล่วงได้
๔๐ พระวรรษา เกิดจลาจลขึ้นที่เมืองภูเก็ต
จีนฮ่อคนงานเหมืองเรียกร้องค่าแรงแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ รวมตัวประท้วงขนานใหญ่
กลายเป็นกลุ่มกองโจรเข้าปล้นชาวบ้านไม่เว้นวัดวาอารามก่อความเดือดร้อนไปทั่ว
เหตุการณ์บานปลายจนทางการควบคุมไม่ได้
ส่วนกลางออกหนังสือขอกำลังจากหัวเมืองปักษ์ใต้
ชุมพร หลังสวน ไชยา ส่งคนไปช่วยปราบจลาจล
กองกำลังหัวเมืองแม้กอปรด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ผ่านฝึกฝนการต่อสู้แต่จำนวนน้อยกว่าจีนฮ่อคนงานเหมืองอยู่มาก
จึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบถูกจีนฮ่อรุกกระหน่ำจนต้องถอยร่น
ยามสาม
วัดฉลอง ภูเก็ต
รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๗
เสียงหญ้าสูงสวบสาบกับทุกฝีเท้าวิ่งตะบึง ชายฉกรรจ์เจ็ดคนร่างกายล้วนอาบโลหิต ควงดาบในมือกวัดแกว่งตะลุยฝ่าวงล้อมฝ่ายตรงข้าม
เปลวเพลิงลุกโชติราวจะแผดขึ้นเผาท้องฟ้าราตรี รอบข้างล้วนตลบคลุ้งควัน เสียงเสียดสีปะทะของเหล็กกล้าเคล้าเสียงโห่ร้องหาญฮึกกลบเสียงระงมคราง
“ช่วยหลวงพ่อออกมาก่อน!”
ชายหนุ่มตะโกนขณะเสือกดาบทะลุอกศัตรู ชักกลับ
โลหิตฉีดอาบใบหน้า เขาวิ่งตรงยังอุโบสถสีทอง
พรรคพวกที่เหลือพากันวิ่งตาม
แสงเทียนในโบสถ์สลัวราง ควันธูปทอดสายยักย้ายผ่านเบื้องหน้าองค์พระประธานอร่ามทอง
พระภิกษุรูปหนึ่งนั่งขัดสมาธิสงบนิ่ง ฉับพลันบานประตูอุโบสถเผยอ้า ปรากฏใบหน้าคมสันสะท้อนเงาเทียนขลับเข้ม ประกายตาแกว่นกล้าเพ่งมองเงาหลังพระภิกษุ รอยสักยันต์ตรงหว่างคิ้วเรืองแสงวาบ
เขาคลานเข่าเข้าไปกราบ พวกที่เหลือกรูเข้ามา เร่งปิดประตู พากันวางดาบก้มกราบลงกับพื้น พระภิกษุนั่งนิ่ง ชายหนุ่มกล่าวขึ้น
“หลวงพ่อขอรับ นิมนต์หลบไปก่อนสักชั่วคราว
รอไว้เหตุการณ์สงบแล้วค่อยกลับมา”
พระภิกษุทอดถอนใจกล่าวทั้งยังพริ้มตา
“พวกมึงยังหนุ่มฉกรรจ์ จงหนีเอาชีวิตรอดไปก่อน กูชราแล้วพาไปด้วยรังแต่เป็นภาระ”
“มิได้ขอรับ” ชายหนุ่มพนมมือกล่าว “จีนฮ่อพวกนี้หาคณามือ ห่วงก็แต่ความปลอดภัยของหลวงพ่อ นิมนต์หลวงพ่อไปกับพวกเราแล้วค่อยคิดการกวาดล้างพวกมันภายหลังเถิดขอรับ”
พระภิกษุชราหันกายอย่างเชื่องช้า “กูเกิดที่นี่ ก็จะขอตายที่นี่ จะไม่หลบหนีไปไหน”
พวกชายฉกรรจ์หันมองหน้า มีคนหนึ่งคลานเข้ามากระซิบ
“เอาไงดีพี่ พวกมันหนุนมามากทุกที”
ชายหนุ่มเหลือบมองพระภิกษุ ทอดหายใจหยิบดาบคู่ขึ้นกระชับมือ
กล่าวด้วยน้ำเสียงดังก้องอุโบสถ
“คุ้มครองหลวงพ่อจนกว่าชีวิตหาไม่!”
“แต่ข้างนอกนั่น..” เจ้าหนุ่มคนข้างออกค้าน
พลันสะดุ้งด้วยเสียงทุบประตูดังลั่น
“พวกมึงลืมคำปฏิญาณสิ้นแล้วรึ
จะปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พิทักษ์รักษาแผ่นดินด้วยชีพ!”
พวกที่เหลือคว้าดาบร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง
“เราไม่ลืม!”
“ดี!”
ชายหนุ่มยื่นดาบออกไปเบื้องหน้า พวกที่เหลือส่งปลายดาบเข้าสัมผัสเสียงดังสะท้อนสะท้าน
ร้องขึ้นโดยพร้อมเพรียง
“พาหุยุทธ์มวยไทยฝากชื่อไว้บนแผ่นดิน!”
“อาตมามีของให้พวกเจ้า” พระภิกษุชราหยิบแถบผ้าด้ายดิบลงอักขระ
“จงใช้ผ้านี้ผูกหัวไว้ให้แน่น”
ชายหนุ่มกราบลงกับพื้นรับแถบผ้าแจกให้พรรคพวก ผูกผ้าด้ายดิบเข้ากับศีรษะ
ทั้งหมดก้มกราบพระภิกษุ
ชายหนุ่มหยิบดาบขยับลุกก้าวไปเปิดประตูอุโบสถ ศัตรูรายล้อมพากันถอยกรูด รอยสักยันต์ตรงอุณาโลมเปล่งแสงวาบ แววตาคมกล้าเพ่งมองเงาดาบร้อยพันเบื้องหน้า(มีต่อ)
Tags: หักงวงไอยรา
, Novel