ธุลีดิน พากษ์ไทย
ง่ายอย่างนั้น และเขาถูกตัดสินให้ใช้ชีวิตที่เหลือในเรือนจำชอว์แช็งค์ - หรือบางส่วนของชีวิตเท่าที่มี ห้าปีต่อมาเริ่มมีเค้าว่าเขาจะได้รับทันฑ์บน และได้งานประจำที่เบาลงในฐานะนักโทษชั้นดี การจะพ้นออกไปจากเรือนจำชอว์แช็งค์โดยที่พระคุณมีประทับฆาตกรรมบนบัตรผ่านเป็นเรื่องแช่มช้า แช่มช้ามิต่างธารน้ำเซาะแก่งหิน มีชายเจ็ดคนนั่งเป็นคณะกรรมการ มากกว่าสองเป็นคนจากเรือนจำรัฐ และทั้งเจ็ดเล่นยาก ยากเย็นมิต่างมองหาน้ำปุดจากตาน้ำในบ่อน้ำแร่สักแห่ง พวกเขาซื้อไม่ได้ มิพักพูดโอ้โลมปฏิโลม อย่าได้ร่ำไห้ขอความเห็นใจ ตามแต่พวกเขาจะพิจารณา เงินตราไม่สามารถมิอาจวิ่งเต้น แต่สำหรับแอนดี้เป็นเรื่องแตกต่างออกไป...เป็นเรื่องที่เกล้ากระผมกำลังจะเล่าจากนี้
มีนายคนที่เชื่อได้ ชื่อเคนดริกส์ นายคนนี้ติดค้างเงินเกล้ากระผมอยู่จำนวนหนึ่ง และเขาใช้เวลาสี่ปีกว่าจะคืนหมด เกล้ากระผมได้รับดอกเบี้ยเป็นข่าวสารในสายงานของเกล้ากระผม ม่องเท่งแน่ขอรับหากพระคุณมิอาจหาหนทางทาบใบหูไว้กับพื้น นายเคนดริกส์เป็นคนลงบันทึกซึ่งเกล้ากระผมแขยงไม่เคยอยากพบเห็นผลของตราประทับนั่น
เคนดริกส์บอกกับเกล้ากระผมว่าคณะกรรมการลงคะแนนเสียง 7-0 ปฏิเสธแอนดี้ ดูเฟรซ์นในปี 1957, 6-1 ปี '58, 7-0 อีกทีปี '59, และ 5-2 ปี '60 หลังจากนั้นเกล้ากระผมไม่ทราบ ทราบแค่ว่าสิบหกปีต่อมาเขายังอยู่ห้อง 14 แดน 5 จากเวลานั้น - 1957 - ตอนเขา 57 คณะกรรมการอาจเกิดมีหัวจิตหัวใจปล่อยเขาออกมาสักปี 1983 พวกเขาคืนชีวิตให้พระคุณ ให้สิ่งที่พรากไป อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่เป็นเยี่ยงนั้น...
เอ่อ โปรดสดับรับฟัง เกล้ากระผมรู้จักนายอีกคน เชอร์วู้ด โบล์ตั้น นั่นเคยเป็นชื่อของเขา เขาเลี้ยงนกพิราบไว้ในห้อง จาก 1945 ถึง 1953 ตอนพวกเขาปล่อยแกออกไป แกยังมีเจ้าพิราบ แน่ล่ะแกไม่ใช่เบิร์ดแมนจากคุกอัลคาทาส แกก็แค่เลี้ยงนกพิราบ เจค แกเรียกมันอย่างนั้น แกปล่อยเจคเป็นอิสระหนึ่งวันก่อนแกออกจากคุก เชอร์วู้ดจะต้องเดินออกไปแต่เจคบินออกไป สวยงามเท่าที่พระคุณจะจินตนาการ หนึ่งสัปดาห์หลังจากเชอร์วู้ดออกไปจากครอบครัวน้อยน่ารักของเรา สหายคนหนึ่งเรียกเกล้ากระผมไปทางตะวันตกของสนามที่ซึ่งเชอร์วู้ดโต๋เต๋เป็นประจำ เจ้านกแน่นิ่งยับเยินมิต่างเศษขนบนผ้าปูที่นอนโสโครก มันแห้งกร๋อง สหายถามเกล้ากระผม "นั่นมันเจคใช่ไหมวะ เรด" แหงล่ะ เจ้านกนั่นม่องมิต่างก้อนขี้
เกล้ากระผมจดจำวันที่แอนดี้ ดูเฟรซ์นโผล่มาคุยกับเกล้ากระผมได้ดี จำได้คล้ายเพิ่งผ่านไปวันวานนี่เอง ไม่ใช่ตอนที่โผล่มาถามหาริต้า เฮย์เวิร์ธดอกนะ นั่นน่ะที่หลัง ฤดูร้อนปี 1948 เขาโผล่มาเรื่องอื่น
ธุรกิจเล็ก ๆ ของเกล้ากระผมโดยมากกระทำกันในสนามออกกำลังกาย เรื่องนี้ก็ที่นั่นแหละ สนามของเราใหญ่เอาการ ใหญ่กว่าที่อื่น ๆ จัตุรัสด้านเท่า แต่ละด้านยาวเก้าสิบหลา ทางทิศเหนือเป็นกำแพงสูง มีป้อมยามที่ปลายทั้งสอง ผู้คมประจำการพร้อมกล้องส่องและปืนปราบจราจล ประตูใหญ่อยู่ทางกำแพงทิศเหนือนั่น ท่าขนถ่ายอยู่ทางทิศใต้ของสนาม มีห้าจุด เรือนจำชอว์แช็งค์เป็นสถานที่พลุกพล่านเอาการระหว่างสัปดาห์มีรถขนถ่ายเข้าออกตลอดเวลา เรามีโรงงานตรายาง และโรงซักรีดขนาดใหญ่ดูแลเสื้อผ้านักโทษทั้งหมด รวมทั้งโรงพยาบาลคิตเทอร์รี่รีซีฟวิ่งและอีเลียตเนอร์ซิ่งโฮม ยังมีโรงซ่อมรถขนาดใหญ่สำหรับรถของส่วนราชการ มิพักเอ่ยถึงรถส่วนตัวของพนักงาน เจ้าหน้าที่บริหาร และบ่อยครั้งของคณะกรรมการทัณฑ์บนพวกนั้น
ฟากตะวันออกเป็นกำแพงหินหนาเต็มด้วยช่องเล็ก ๆ แดน 5 อยู่อีกด้านของกำแพง ฝั่งตะวันตกเป็นสำนักงานบริหารและโรงพยาบาล เรือนจำชอว์แช็งค์ไม่เคยมีนักโทษเต็มอัตรา ย้อนไปปี '48 มากสุดแค่ประมาณสองในสาม ช่วงเวลาพักผ่อนจะมีสักแปดสิบถึงร้อยยี่สิบคนในสนาม เล่นเตะบอลไม่ก็เบสบอล ทำเรื่องไร้สาระ จ้องหน้าหาเรื่องกัน ไม่ก็ตกลงการค้า วันอาทิตย์จะคึกคักสักหน่อย วันอาทิตย์จะดูคล้ายสโมสรสุดสัปดาห์ ก็หากว่ามีสุภาพสตรีร่วมด้วยล่ะนะ
เป็นวันอาทิตย์ที่แอนดี้โผล่มาหาเกล้ากระผม เกล้ากระผมเพิ่งผละคุยกับเอลมอร์ อาร์มิเทตสหายหนุ่มผู้เรียกง่ายใช้คล่องเรื่องว่าด้วยวิทยุตอนแอนดี้โผล่มา เกล้ากระผมรู้ดีว่าเขาเป็นใคร แน่ล่ะเวลานั้นเขามีชื่อเสียงเรื่องจมูกเชิดไม่คบใคร พรรคพวกพูดกันว่าเขาเป็นตัวปัญหา หนึ่งในเจ้ากรมนินทาที่ว่าคือบ็อกส์ ไดมอนด์ ตัวร้าย แอนดี้ไม่มีเพื่อนร่วมห้องขัง ได้ยินว่าเขาก็ต้องการให้เป็นเยี่ยงนั้น ลือกันไปว่าเขาคิดว่าอึของเขาหอมหวานกว่าชาวบ้าน แต่สำหรับกับเกล้ากระผมหามีความจำเป็นที่จะต้องฟังคำพวกนั้นก็เมื่อเกล้ากระผมสามารถพินิจพิจารณาได้ด้วยตัวเอง "สวัสดี" เขาทัก "ผมชื่อแอดดี้ ดูเฟรซ์น" เขายื่นมือและเกล้ากระผมจับเขย่า เขาไม่ใช่พวกช่างจ้อ เข้าเรื่องเลย "ผมได้ยินว่าคุณรู้ว่าจะจัดหาสิ่งของได้อย่างไร"
เกล้ากระผมเห็นด้วยว่าความสามารถเรื่องจัดหาข้าวของของเกล้ากระผมไม่ธรรมดา
"คุณทำได้อย่างไร" แอนดี้ถาม
"บางทีนะ" เกล้ากระผมบอก "มันก็แค่ร่วงลงบนมือผมเอง ยากจะบรรยาย ไม่ก็แบบว่าเพราะผมรวยเอาเรื่อง"
เขาอมยิ้ม "คุณพอจะจัดหาค้อนสกัดหินได้มั้ย"
"มันหน้าตายังไง และแกจะใช้มันทำอะไร"
แอนดี้ท่าทางแปลกใจ "ช่างซักก็เป็นธุรกิจของคุณด้วยหรือ" พูดอย่างนี้เองที่ทำให้แอนดี้โด่งดังเรื่องเย่อหยิ่งหัวสูงคบยาก แต่เกล้ากระผมกลับรู้สึกว่ามีอารมณ์ขันเล็ก ๆ ในคำถามนั่น
"ฟังนะพวก" เกล้ากระผมบอก "ก็หากแกต้องการแปรงสีฟัน อั้วะจะไม่ถามอะไรเลย แค่บอกราคา เพราะว่าแปรงสีฟันมันไม่ใช่อาวุธ"
"ระมัดระวังเรื่องวัตถุที่ใช้เป็นอาวุธว่างั้น"
"แหงล่ะ"
อย่างกับเทปการแข่งขันเบสบอลเก่า ๆ เล่นขึ้นตรงหน้าเรา เขาโดดคว้า เป็นการเคลื่อนไหวที่แฟรงค์ มัลโซนจะต้องภาคภูมิใจ แอนดี้ขว้างบอลกลับไปที่มันมา รวดเร็วและดูเป็นธรรมชาติเป็นการขว้างที่เหยาะมัสตาร์ดไว้นิดหน่อย ประมาณนั้น หลายคนจ้องมองเราอยู่ อาจบางทีรวมทั้งยามบนหอสังเกตการณ์ เกล้ากระผมไม่ใช่ประเภทหาเหาใส่หัว ทุกเรือนจำมีนักโทษจำพวกขาใหญ่ สี่หรือห้าคนในเรือนจำเล็ก ๆ สองถึงสามโหลในเรือนจำใหญ่ ที่ชอว์แช็งค์นี่เกล้ากระผมจัดว่าเข้าข่ายนิดหน่อย และคิดว่าแอนดี้ ดูเฟรซ์นก็คงต้องหาทางจัดการกับวันเวลาของเขาที่นี่ เขาอาจรู้ดีแต่ไม่คุกเข่าลงคารวะหรือเลียแข้งเลียขาเกล้ากระผม และเกล้ากระผมนับถือเขาเรื่องนี้
"เข้าใจล่ะ ผมจะบอกให้ว่ามันเป็นอะไรและใช้ทำอะไร ค้อนสกัดหินคล้ายพลั่วเล็ก ๆ ยาวนิดหน่อย" เขาทำมือว่าสักฟุต และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตเห็นว่าเล็บของเขาเรียบร้อยเนียนเนี้ยบ "ปลายด้านนึงคมแบน อีกด้านทื่อ ผมอยากได้มันเพราะผมชอบหิน"
"หิน" เกล้ากระผมพูด
"ลองนั่งลงสักครู่สิ" เขาบอก
เกล้ากระผมทำตาม เรานั่งยองเหมือนอินเดียน แอนดี้กอบผงดินขึ้นมาแล้วร่อนมันบนมือขาวเนียน ฝุ่นร่วงฟุ้ง เหลือกรวดเล็ก ๆ บนฝ่ามือ หนึ่งหรือสองมีประกายที่เหลือเรียบด้านและดูงั้น ๆ ชิ้นเรียบด้านคือควอตซ์ แต่ยังดูด้านจนกว่าพระคุณจะขัดมัน แล้วมันจะทอประกายวาววับ แอนดี้เช็ดมันแล้วโยนให้เกล้ากระผม เกล้ากระผมรับไว้
"หินควอตซ์แน่ ๆ" เขาพูด "และดูนี่ แผ่นหินไมก้า ผงแกรนิต ที่นี่เต็มด้วยชั้นหินปูน คงเกิดจากตอนปรับเนินเขาสร้างที่นี่" เขาโยนมันทิ้งแล้วปัดมือ "ผมเป็นนักสะสมหิน อย่างน้อย..ก็เคยเป็นครั้งคืนวันเก่า ๆ ผมคิดว่าจะลองเป็นอีกสักที แบบว่างานอดิเรก"
"ผจญภัยวันหยุดในสนามออกกำลังกายรึไง" เกล้ากระผมถาม ขยับลุกขึ้น เป็นความคิดงี่เง่าและก็...เห็นเจ้าหินควอตซ์จิ๋วนั่นชวนเกล้ากระผมคันหัวใจ ไม่รู้เป็นไง อาจแค่รู้สึกว่าได้ติดต่อกับโลกภายนอกขณะที่เราไม่ได้เห็นพื้นสนามเป็นพื้นสนามอย่างที่มันเป็น ควอตซ์เป็นอะไรเล็ก ๆ ที่วิ่งผ่านเข้ามา
"ผจญภัยวันหยุด เล็ก ๆ น้อย ๆ ดีกว่าไม่ทำอะไรเสียเลย" เขาพูด
"แกอาจเอามันไปฝังในกระดูกใครสักคน" เกล้ากระผมตั้งแง่
"ผมไม่มีศัตรู" เขาสวนทันควัน
"ไม่มี" เกล้ากระผมยิ้ม "รออีกสักพักเหอะ"
"ก็หากมีปัญหา ผมสามารถจัดการได้โดยมิพักใช้ค้อนสกัดหิน"
"บางทีแกอาจคิดหนี มุดใต้กำแพง ก็หากแกลงมือ-" เขาหัวร่ออย่างสุภาพ ตอนเกล้ากระผมพบเห็นเจ้าค้อนสกัดหินนั่นสามสัปดาห์ต่อมา เกล้ากระผมจึงค่อยเข้าใจ
"แกรู้มั้ย" เกล้ากระผมพูด "หากถูกพบเห็นเข้านายเขาก็จะยึดมันซะ หากพวกเขาพบแกพกช้อน พวกเขาก็จะยึดมัน แกจะทำไง นั่งลงบนสนามแล้วลงมือขุดรึไง"
"โอ ผมคิดว่าผมทำได้ดีกว่านั้นนะ"
เกล้ากระผมพยักหน้า ยังไงก็เถอะ นั่นไม่เกี่ยวกับธุรกิจของเกล้ากระผม คนโดยมากใช้บริการก็เพราะเขาต้องการของบางอย่าง เขาจะเก็บรักษามันไว้ได้หรือไม่หาใช่กงการใดของเกล้ากระผมเลย
"ของนั่นราคาสักเท่าไร" เกล้ากระผมถาม เริ่มคุ้นกับท่าทีเงียบขรึมของเขา ก็หากพระคุณจ่อมอยู่ในคุกสักสิบปีอย่างเกล้ากระผม พระคุณจะนึกรำคาญพวกตะโกนใส่กันพวกคุยโม้โอ้อวดและโวยวาย ใช่เลย เรียนตามตรง เกล้ากระผมนึกชอบใจแอนดี้ตั้งแต่แรกสนทนา
"แปดเหรียญในร้านขายเครื่องมือเจียระไนเพชรพลอย" เขาบอก "ผมทราบดีคุณจะต้องบวกราคาเพิ่ม"
"บวกเพิ่มสิบเปอร์เซ็นต์แต่จะต้องเพิ่มอีกนิดหน่อยสำหรับของจำพวกอันตรายอย่างที่แกว่า ค่าน้ำมันหล่อลื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาเป็นว่าสักสิบเหรียญเป็นไง"
"ตกลงสิบ"
เกล้ากระผมจ้องเขา อมยิ้ม "แกมีสิบเหรียญรึ"
"มี" เขาตอบทันควัน
อีกนานหลังจากนั้น เกล้ากระผมค่อยพบว่าเขามีมากกว่าห้าร้อย เขาพกมันมาด้วย เมื่อพระคุณลงทะเบียนเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ ผู้คุมจะบังคับให้พระคุณโก้งโค้งและตรวจค้น แต่เพราะความที่คนจำนวนไม่น้อย เลยไม่ได้กระทำโดยเคร่งครัด คนใจถึงอาจเอาของชิ้นใหญ่เข้ามาเว้นแต่คนตรวจเกิดมีอารมณ์อยากจิ้มถุงมือยางเข้าไปตรวจค้น
"ตกลง" เกล้ากระผมพูด "รู้นะว่าหากแกถูกจับได้"
"พอรู้" เขากล่าว และประกายตาบอกว่าเขารู้ว่าเกล้ากระผมจะกล่าวอะไร ดูเหมือนแววตานั่นแฝงเย้ยหยันอยู่บ้าง
"หากแกถูกจับแกจะต้องบอกว่าเจอได้ ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น พวกเขาจะเอาแกขังซอยสักสามหรือสี่สัปดาห์...รวมถึง แน่ล่ะ ของเล่นแกถูกยึดและแกจะถูกขึ้นบัญชีดำ หากแกโบ้ยมาที่ข้า เราจะไม่ทำธุรกิจกันอีกต่อไป ไม่แม้จะเป็นเชือกผูกรองเท้าสักคู่หรือเบอร์เกอร์สักถุง และข้าจะส่งพรรคพวกคอยอบรมบ่มนิสัยแก ข้าไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรงดอกนะ แต่แกต้องเข้าใจสถานภาพอย่างข้า ชูคออยู่แถวนี้หากจัดการเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เป็นเสร็จกัน
"เออนา ผมเข้าใจ มิพักกังวล"
"ข้าไม่ได้กังวล" เกล้ากระผมพูด "ในสถานที่เยี่ยงนี้ไม่มีความกังวลให้หลงเหลือ"
เขาพยักหน้าและเดินจากไป ถัดมาสามวัน เขาเดินประชิดข้างเกล้ากระผมในสนามออกกำลังกายตอนช่วงพักซักผ้าเช้า ไม่พูดจาไม่มองทาง ยัดภาพพณ อเล็กซานเดอร์ แฮมมิลตันใส่มือเกล้ากระผม แนบเนียนมิต่างนักมายากลเล่นกลไพ่ เขานับว่าปรับตัวได้รวดเร็ว เกล้ากระผมส่งค้อนสลักหินให้เขา ได้มาแต่คืนก่อน และเป็นอย่างที่เขาบอก มันไม่ใช่เครื่องมือใช้หลบหนี (คงต้องใช้เวลาสักหกร้อยปีหาใครสักคนคิดใช้มันเจาะอุโมงค์ลอดใต้กำแพง) แต่ก็ตะหงิดตะหงิด หากพระคุณฝังไอ้นั่นไว้ในหัวใครสักคน เจ้านั่นเป็นอันอดฟังฟิบเบอร์ แม็คจีและมอลลี่จากวิทยุอีกต่อไป และแอนดี้ก็มีปัญหากับพวกสาว ๆ เสียด้วย หวังว่าไม่ใช่พวกหล่อนที่แอนดี้จะใช้เจ้าค้อนสกัดหินนั่น
ที่สุด เกล้ากระผมเชื่อว่าดูไม่ผิด เช้าวันถัดยี่สิบนาทีก่อนแตรปลุกจะดัง เกล้ากระผมส่งค้อนสกัดหินและแพ็คบุหรี่คาเมลให้เออร์นี่ ทีมงานเก่าแก่เชื่อถือได้ เขาเป็นคนกวาดทำความสะอาดแดน 5 จนวันรับอิสรภาพในปี 1956 เขารับมันสอดในเสื้อคลุมมิพักสอบถาม และเกล้ากระผมก็ไม่เห็นเจ้าค้อนสกัดหินนั่นอีกเลยร่วมสิบเก้าปีกระทั่งมันผ่าสิไม่เหลือสารรูป
อาทิตย์ถัดแอนดี้เดินมาหาเกล้ากระผมบนสนามออกกำลังกายอีก สภาพดูไม่ได้ เรียนพระคุณ ริมฝีปากล่างของเขาบวมใหญ่ยังกะไส้กรอกหน้าร้อน ตาขวาปิดไปครึ่งหนึ่ง รอยแผลขูดข่วนน่าเกลียดบนแก้ม เขามีปัญหากับพวกสาว ๆ แต่ไม่เคยพูดถึงมัน "ขอบคุณสำหรับเครื่องมือนั่น" เขาพูดและเดินจากไป
เกล้ากระผมมองตามฉงนฉงาย เขาเดินไปสองสามก้าว เห็นบางอย่างบนฝุ่นพื้น ก้มลงเก็บ มันเป็นหินก้อนเล็ก ความผ่อนคลายเล็ก ๆ นอกไปจากเสียงเตือนเวลาเลิกงาน ไม่ต้องพกกะตังค์ ก็มีหนทางเล็ก ๆ ของแต่ละคน เจ้าก้อนกรวดนั่นหายไปในแขนเสื้อแอนดี้ เกล้ากระผมชื่นชมหนทางเยี่ยงนั้น...ชื่นชมเขา เว้นจากปัญหาที่เขากำลังเผชิญ เขากำลังดำเนินชีวิต มีเป็นพันคนที่ไม่หรือไม่คิดหรือไม่อาจกระทำ และมีคนจำพวกนี้อีกมากหาได้อยู่ในคุกเสียซ้ำ และเกล้ากระผมพบว่าถึงหน้าเขาจะยับเยินอย่างกับโดนพายุยำมา มือของเขาก็ยังสะอาดสะอ้านและเล็บขริบเรียบ
เกล้ากระผมไม่ค่อยได้พบเขาบ่อยนักช่วงหกเดือนต่อมา โดยมากแอนดี้ผ่านวันเวลานั้นด้วยโดนขังเดี่ยว
****
3
ง่ายอย่างนั้น และเขาถูกตัดสินให้ใช้ชีวิตที่เหลือในเรือนจำชอว์แช็งค์ - หรือบางส่วนของชีวิตเท่าที่มี ห้าปีต่อมาเริ่มมีเค้าว่าเขาจะได้รับทันฑ์บน และได้งานประจำที่เบาลงในฐานะนักโทษชั้นดี การจะพ้นออกไปจากเรือนจำชอว์แช็งค์โดยที่พระคุณมีประทับฆาตกรรมบนบัตรผ่านเป็นเรื่องแช่มช้า แช่มช้ามิต่างธารน้ำเซาะแก่งหิน มีชายเจ็ดคนนั่งเป็นคณะกรรมการ มากกว่าสองเป็นคนจากเรือนจำรัฐ และทั้งเจ็ดเล่นยาก ยากเย็นมิต่างมองหาน้ำปุดจากตาน้ำในบ่อน้ำแร่สักแห่ง พวกเขาซื้อไม่ได้ มิพักพูดโอ้โลมปฏิโลม อย่าได้ร่ำไห้ขอความเห็นใจ ตามแต่พวกเขาจะพิจารณา เงินตราไม่สามารถมิอาจวิ่งเต้น แต่สำหรับแอนดี้เป็นเรื่องแตกต่างออกไป...เป็นเรื่องที่เกล้ากระผมกำลังจะเล่าจากนี้
มีนายคนที่เชื่อได้ ชื่อเคนดริกส์ นายคนนี้ติดค้างเงินเกล้ากระผมอยู่จำนวนหนึ่ง และเขาใช้เวลาสี่ปีกว่าจะคืนหมด เกล้ากระผมได้รับดอกเบี้ยเป็นข่าวสารในสายงานของเกล้ากระผม ม่องเท่งแน่ขอรับหากพระคุณมิอาจหาหนทางทาบใบหูไว้กับพื้น นายเคนดริกส์เป็นคนลงบันทึกซึ่งเกล้ากระผมแขยงไม่เคยอยากพบเห็นผลของตราประทับนั่น
เคนดริกส์บอกกับเกล้ากระผมว่าคณะกรรมการลงคะแนนเสียง 7-0 ปฏิเสธแอนดี้ ดูเฟรซ์นในปี 1957, 6-1 ปี '58, 7-0 อีกทีปี '59, และ 5-2 ปี '60 หลังจากนั้นเกล้ากระผมไม่ทราบ ทราบแค่ว่าสิบหกปีต่อมาเขายังอยู่ห้อง 14 แดน 5 จากเวลานั้น - 1957 - ตอนเขา 57 คณะกรรมการอาจเกิดมีหัวจิตหัวใจปล่อยเขาออกมาสักปี 1983 พวกเขาคืนชีวิตให้พระคุณ ให้สิ่งที่พรากไป อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่เป็นเยี่ยงนั้น...
เอ่อ โปรดสดับรับฟัง เกล้ากระผมรู้จักนายอีกคน เชอร์วู้ด โบล์ตั้น นั่นเคยเป็นชื่อของเขา เขาเลี้ยงนกพิราบไว้ในห้อง จาก 1945 ถึง 1953 ตอนพวกเขาปล่อยแกออกไป แกยังมีเจ้าพิราบ แน่ล่ะแกไม่ใช่เบิร์ดแมนจากคุกอัลคาทาส แกก็แค่เลี้ยงนกพิราบ เจค แกเรียกมันอย่างนั้น แกปล่อยเจคเป็นอิสระหนึ่งวันก่อนแกออกจากคุก เชอร์วู้ดจะต้องเดินออกไปแต่เจคบินออกไป สวยงามเท่าที่พระคุณจะจินตนาการ หนึ่งสัปดาห์หลังจากเชอร์วู้ดออกไปจากครอบครัวน้อยน่ารักของเรา สหายคนหนึ่งเรียกเกล้ากระผมไปทางตะวันตกของสนามที่ซึ่งเชอร์วู้ดโต๋เต๋เป็นประจำ เจ้านกแน่นิ่งยับเยินมิต่างเศษขนบนผ้าปูที่นอนโสโครก มันแห้งกร๋อง สหายถามเกล้ากระผม "นั่นมันเจคใช่ไหมวะ เรด" แหงล่ะ เจ้านกนั่นม่องมิต่างก้อนขี้
เกล้ากระผมจดจำวันที่แอนดี้ ดูเฟรซ์นโผล่มาคุยกับเกล้ากระผมได้ดี จำได้คล้ายเพิ่งผ่านไปวันวานนี่เอง ไม่ใช่ตอนที่โผล่มาถามหาริต้า เฮย์เวิร์ธดอกนะ นั่นน่ะที่หลัง ฤดูร้อนปี 1948 เขาโผล่มาเรื่องอื่น
ธุรกิจเล็ก ๆ ของเกล้ากระผมโดยมากกระทำกันในสนามออกกำลังกาย เรื่องนี้ก็ที่นั่นแหละ สนามของเราใหญ่เอาการ ใหญ่กว่าที่อื่น ๆ จัตุรัสด้านเท่า แต่ละด้านยาวเก้าสิบหลา ทางทิศเหนือเป็นกำแพงสูง มีป้อมยามที่ปลายทั้งสอง ผู้คมประจำการพร้อมกล้องส่องและปืนปราบจราจล ประตูใหญ่อยู่ทางกำแพงทิศเหนือนั่น ท่าขนถ่ายอยู่ทางทิศใต้ของสนาม มีห้าจุด เรือนจำชอว์แช็งค์เป็นสถานที่พลุกพล่านเอาการระหว่างสัปดาห์มีรถขนถ่ายเข้าออกตลอดเวลา เรามีโรงงานตรายาง และโรงซักรีดขนาดใหญ่ดูแลเสื้อผ้านักโทษทั้งหมด รวมทั้งโรงพยาบาลคิตเทอร์รี่รีซีฟวิ่งและอีเลียตเนอร์ซิ่งโฮม ยังมีโรงซ่อมรถขนาดใหญ่สำหรับรถของส่วนราชการ มิพักเอ่ยถึงรถส่วนตัวของพนักงาน เจ้าหน้าที่บริหาร และบ่อยครั้งของคณะกรรมการทัณฑ์บนพวกนั้น
ฟากตะวันออกเป็นกำแพงหินหนาเต็มด้วยช่องเล็ก ๆ แดน 5 อยู่อีกด้านของกำแพง ฝั่งตะวันตกเป็นสำนักงานบริหารและโรงพยาบาล เรือนจำชอว์แช็งค์ไม่เคยมีนักโทษเต็มอัตรา ย้อนไปปี '48 มากสุดแค่ประมาณสองในสาม ช่วงเวลาพักผ่อนจะมีสักแปดสิบถึงร้อยยี่สิบคนในสนาม เล่นเตะบอลไม่ก็เบสบอล ทำเรื่องไร้สาระ จ้องหน้าหาเรื่องกัน ไม่ก็ตกลงการค้า วันอาทิตย์จะคึกคักสักหน่อย วันอาทิตย์จะดูคล้ายสโมสรสุดสัปดาห์ ก็หากว่ามีสุภาพสตรีร่วมด้วยล่ะนะ
เป็นวันอาทิตย์ที่แอนดี้โผล่มาหาเกล้ากระผม เกล้ากระผมเพิ่งผละคุยกับเอลมอร์ อาร์มิเทตสหายหนุ่มผู้เรียกง่ายใช้คล่องเรื่องว่าด้วยวิทยุตอนแอนดี้โผล่มา เกล้ากระผมรู้ดีว่าเขาเป็นใคร แน่ล่ะเวลานั้นเขามีชื่อเสียงเรื่องจมูกเชิดไม่คบใคร พรรคพวกพูดกันว่าเขาเป็นตัวปัญหา หนึ่งในเจ้ากรมนินทาที่ว่าคือบ็อกส์ ไดมอนด์ ตัวร้าย แอนดี้ไม่มีเพื่อนร่วมห้องขัง ได้ยินว่าเขาก็ต้องการให้เป็นเยี่ยงนั้น ลือกันไปว่าเขาคิดว่าอึของเขาหอมหวานกว่าชาวบ้าน แต่สำหรับกับเกล้ากระผมหามีความจำเป็นที่จะต้องฟังคำพวกนั้นก็เมื่อเกล้ากระผมสามารถพินิจพิจารณาได้ด้วยตัวเอง "สวัสดี" เขาทัก "ผมชื่อแอดดี้ ดูเฟรซ์น" เขายื่นมือและเกล้ากระผมจับเขย่า เขาไม่ใช่พวกช่างจ้อ เข้าเรื่องเลย "ผมได้ยินว่าคุณรู้ว่าจะจัดหาสิ่งของได้อย่างไร"
เกล้ากระผมเห็นด้วยว่าความสามารถเรื่องจัดหาข้าวของของเกล้ากระผมไม่ธรรมดา
"คุณทำได้อย่างไร" แอนดี้ถาม
"บางทีนะ" เกล้ากระผมบอก "มันก็แค่ร่วงลงบนมือผมเอง ยากจะบรรยาย ไม่ก็แบบว่าเพราะผมรวยเอาเรื่อง"
เขาอมยิ้ม "คุณพอจะจัดหาค้อนสกัดหินได้มั้ย"
"มันหน้าตายังไง และแกจะใช้มันทำอะไร"
แอนดี้ท่าทางแปลกใจ "ช่างซักก็เป็นธุรกิจของคุณด้วยหรือ" พูดอย่างนี้เองที่ทำให้แอนดี้โด่งดังเรื่องเย่อหยิ่งหัวสูงคบยาก แต่เกล้ากระผมกลับรู้สึกว่ามีอารมณ์ขันเล็ก ๆ ในคำถามนั่น
"ฟังนะพวก" เกล้ากระผมบอก "ก็หากแกต้องการแปรงสีฟัน อั้วะจะไม่ถามอะไรเลย แค่บอกราคา เพราะว่าแปรงสีฟันมันไม่ใช่อาวุธ"
"ระมัดระวังเรื่องวัตถุที่ใช้เป็นอาวุธว่างั้น"
"แหงล่ะ"
อย่างกับเทปการแข่งขันเบสบอลเก่า ๆ เล่นขึ้นตรงหน้าเรา เขาโดดคว้า เป็นการเคลื่อนไหวที่แฟรงค์ มัลโซนจะต้องภาคภูมิใจ แอนดี้ขว้างบอลกลับไปที่มันมา รวดเร็วและดูเป็นธรรมชาติเป็นการขว้างที่เหยาะมัสตาร์ดไว้นิดหน่อย ประมาณนั้น หลายคนจ้องมองเราอยู่ อาจบางทีรวมทั้งยามบนหอสังเกตการณ์ เกล้ากระผมไม่ใช่ประเภทหาเหาใส่หัว ทุกเรือนจำมีนักโทษจำพวกขาใหญ่ สี่หรือห้าคนในเรือนจำเล็ก ๆ สองถึงสามโหลในเรือนจำใหญ่ ที่ชอว์แช็งค์นี่เกล้ากระผมจัดว่าเข้าข่ายนิดหน่อย และคิดว่าแอนดี้ ดูเฟรซ์นก็คงต้องหาทางจัดการกับวันเวลาของเขาที่นี่ เขาอาจรู้ดีแต่ไม่คุกเข่าลงคารวะหรือเลียแข้งเลียขาเกล้ากระผม และเกล้ากระผมนับถือเขาเรื่องนี้
"เข้าใจล่ะ ผมจะบอกให้ว่ามันเป็นอะไรและใช้ทำอะไร ค้อนสกัดหินคล้ายพลั่วเล็ก ๆ ยาวนิดหน่อย" เขาทำมือว่าสักฟุต และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตเห็นว่าเล็บของเขาเรียบร้อยเนียนเนี้ยบ "ปลายด้านนึงคมแบน อีกด้านทื่อ ผมอยากได้มันเพราะผมชอบหิน"
"หิน" เกล้ากระผมพูด
"ลองนั่งลงสักครู่สิ" เขาบอก
เกล้ากระผมทำตาม เรานั่งยองเหมือนอินเดียน แอนดี้กอบผงดินขึ้นมาแล้วร่อนมันบนมือขาวเนียน ฝุ่นร่วงฟุ้ง เหลือกรวดเล็ก ๆ บนฝ่ามือ หนึ่งหรือสองมีประกายที่เหลือเรียบด้านและดูงั้น ๆ ชิ้นเรียบด้านคือควอตซ์ แต่ยังดูด้านจนกว่าพระคุณจะขัดมัน แล้วมันจะทอประกายวาววับ แอนดี้เช็ดมันแล้วโยนให้เกล้ากระผม เกล้ากระผมรับไว้
"หินควอตซ์แน่ ๆ" เขาพูด "และดูนี่ แผ่นหินไมก้า ผงแกรนิต ที่นี่เต็มด้วยชั้นหินปูน คงเกิดจากตอนปรับเนินเขาสร้างที่นี่" เขาโยนมันทิ้งแล้วปัดมือ "ผมเป็นนักสะสมหิน อย่างน้อย..ก็เคยเป็นครั้งคืนวันเก่า ๆ ผมคิดว่าจะลองเป็นอีกสักที แบบว่างานอดิเรก"
"ผจญภัยวันหยุดในสนามออกกำลังกายรึไง" เกล้ากระผมถาม ขยับลุกขึ้น เป็นความคิดงี่เง่าและก็...เห็นเจ้าหินควอตซ์จิ๋วนั่นชวนเกล้ากระผมคันหัวใจ ไม่รู้เป็นไง อาจแค่รู้สึกว่าได้ติดต่อกับโลกภายนอกขณะที่เราไม่ได้เห็นพื้นสนามเป็นพื้นสนามอย่างที่มันเป็น ควอตซ์เป็นอะไรเล็ก ๆ ที่วิ่งผ่านเข้ามา
"ผจญภัยวันหยุด เล็ก ๆ น้อย ๆ ดีกว่าไม่ทำอะไรเสียเลย" เขาพูด
"แกอาจเอามันไปฝังในกระดูกใครสักคน" เกล้ากระผมตั้งแง่
"ผมไม่มีศัตรู" เขาสวนทันควัน
"ไม่มี" เกล้ากระผมยิ้ม "รออีกสักพักเหอะ"
"ก็หากมีปัญหา ผมสามารถจัดการได้โดยมิพักใช้ค้อนสกัดหิน"
"บางทีแกอาจคิดหนี มุดใต้กำแพง ก็หากแกลงมือ-" เขาหัวร่ออย่างสุภาพ ตอนเกล้ากระผมพบเห็นเจ้าค้อนสกัดหินนั่นสามสัปดาห์ต่อมา เกล้ากระผมจึงค่อยเข้าใจ
"แกรู้มั้ย" เกล้ากระผมพูด "หากถูกพบเห็นเข้านายเขาก็จะยึดมันซะ หากพวกเขาพบแกพกช้อน พวกเขาก็จะยึดมัน แกจะทำไง นั่งลงบนสนามแล้วลงมือขุดรึไง"
"โอ ผมคิดว่าผมทำได้ดีกว่านั้นนะ"
เกล้ากระผมพยักหน้า ยังไงก็เถอะ นั่นไม่เกี่ยวกับธุรกิจของเกล้ากระผม คนโดยมากใช้บริการก็เพราะเขาต้องการของบางอย่าง เขาจะเก็บรักษามันไว้ได้หรือไม่หาใช่กงการใดของเกล้ากระผมเลย
"ของนั่นราคาสักเท่าไร" เกล้ากระผมถาม เริ่มคุ้นกับท่าทีเงียบขรึมของเขา ก็หากพระคุณจ่อมอยู่ในคุกสักสิบปีอย่างเกล้ากระผม พระคุณจะนึกรำคาญพวกตะโกนใส่กันพวกคุยโม้โอ้อวดและโวยวาย ใช่เลย เรียนตามตรง เกล้ากระผมนึกชอบใจแอนดี้ตั้งแต่แรกสนทนา
"แปดเหรียญในร้านขายเครื่องมือเจียระไนเพชรพลอย" เขาบอก "ผมทราบดีคุณจะต้องบวกราคาเพิ่ม"
"บวกเพิ่มสิบเปอร์เซ็นต์แต่จะต้องเพิ่มอีกนิดหน่อยสำหรับของจำพวกอันตรายอย่างที่แกว่า ค่าน้ำมันหล่อลื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาเป็นว่าสักสิบเหรียญเป็นไง"
"ตกลงสิบ"
เกล้ากระผมจ้องเขา อมยิ้ม "แกมีสิบเหรียญรึ"
"มี" เขาตอบทันควัน
อีกนานหลังจากนั้น เกล้ากระผมค่อยพบว่าเขามีมากกว่าห้าร้อย เขาพกมันมาด้วย เมื่อพระคุณลงทะเบียนเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้ ผู้คุมจะบังคับให้พระคุณโก้งโค้งและตรวจค้น แต่เพราะความที่คนจำนวนไม่น้อย เลยไม่ได้กระทำโดยเคร่งครัด คนใจถึงอาจเอาของชิ้นใหญ่เข้ามาเว้นแต่คนตรวจเกิดมีอารมณ์อยากจิ้มถุงมือยางเข้าไปตรวจค้น
"ตกลง" เกล้ากระผมพูด "รู้นะว่าหากแกถูกจับได้"
"พอรู้" เขากล่าว และประกายตาบอกว่าเขารู้ว่าเกล้ากระผมจะกล่าวอะไร ดูเหมือนแววตานั่นแฝงเย้ยหยันอยู่บ้าง
"หากแกถูกจับแกจะต้องบอกว่าเจอได้ ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น พวกเขาจะเอาแกขังซอยสักสามหรือสี่สัปดาห์...รวมถึง แน่ล่ะ ของเล่นแกถูกยึดและแกจะถูกขึ้นบัญชีดำ หากแกโบ้ยมาที่ข้า เราจะไม่ทำธุรกิจกันอีกต่อไป ไม่แม้จะเป็นเชือกผูกรองเท้าสักคู่หรือเบอร์เกอร์สักถุง และข้าจะส่งพรรคพวกคอยอบรมบ่มนิสัยแก ข้าไม่ใช่พวกนิยมความรุนแรงดอกนะ แต่แกต้องเข้าใจสถานภาพอย่างข้า ชูคออยู่แถวนี้หากจัดการเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เป็นเสร็จกัน
"เออนา ผมเข้าใจ มิพักกังวล"
"ข้าไม่ได้กังวล" เกล้ากระผมพูด "ในสถานที่เยี่ยงนี้ไม่มีความกังวลให้หลงเหลือ"
เขาพยักหน้าและเดินจากไป ถัดมาสามวัน เขาเดินประชิดข้างเกล้ากระผมในสนามออกกำลังกายตอนช่วงพักซักผ้าเช้า ไม่พูดจาไม่มองทาง ยัดภาพพณ อเล็กซานเดอร์ แฮมมิลตันใส่มือเกล้ากระผม แนบเนียนมิต่างนักมายากลเล่นกลไพ่ เขานับว่าปรับตัวได้รวดเร็ว เกล้ากระผมส่งค้อนสลักหินให้เขา ได้มาแต่คืนก่อน และเป็นอย่างที่เขาบอก มันไม่ใช่เครื่องมือใช้หลบหนี (คงต้องใช้เวลาสักหกร้อยปีหาใครสักคนคิดใช้มันเจาะอุโมงค์ลอดใต้กำแพง) แต่ก็ตะหงิดตะหงิด หากพระคุณฝังไอ้นั่นไว้ในหัวใครสักคน เจ้านั่นเป็นอันอดฟังฟิบเบอร์ แม็คจีและมอลลี่จากวิทยุอีกต่อไป และแอนดี้ก็มีปัญหากับพวกสาว ๆ เสียด้วย หวังว่าไม่ใช่พวกหล่อนที่แอนดี้จะใช้เจ้าค้อนสกัดหินนั่น
ที่สุด เกล้ากระผมเชื่อว่าดูไม่ผิด เช้าวันถัดยี่สิบนาทีก่อนแตรปลุกจะดัง เกล้ากระผมส่งค้อนสกัดหินและแพ็คบุหรี่คาเมลให้เออร์นี่ ทีมงานเก่าแก่เชื่อถือได้ เขาเป็นคนกวาดทำความสะอาดแดน 5 จนวันรับอิสรภาพในปี 1956 เขารับมันสอดในเสื้อคลุมมิพักสอบถาม และเกล้ากระผมก็ไม่เห็นเจ้าค้อนสกัดหินนั่นอีกเลยร่วมสิบเก้าปีกระทั่งมันผ่าสิไม่เหลือสารรูป
อาทิตย์ถัดแอนดี้เดินมาหาเกล้ากระผมบนสนามออกกำลังกายอีก สภาพดูไม่ได้ เรียนพระคุณ ริมฝีปากล่างของเขาบวมใหญ่ยังกะไส้กรอกหน้าร้อน ตาขวาปิดไปครึ่งหนึ่ง รอยแผลขูดข่วนน่าเกลียดบนแก้ม เขามีปัญหากับพวกสาว ๆ แต่ไม่เคยพูดถึงมัน "ขอบคุณสำหรับเครื่องมือนั่น" เขาพูดและเดินจากไป
เกล้ากระผมมองตามฉงนฉงาย เขาเดินไปสองสามก้าว เห็นบางอย่างบนฝุ่นพื้น ก้มลงเก็บ มันเป็นหินก้อนเล็ก ความผ่อนคลายเล็ก ๆ นอกไปจากเสียงเตือนเวลาเลิกงาน ไม่ต้องพกกะตังค์ ก็มีหนทางเล็ก ๆ ของแต่ละคน เจ้าก้อนกรวดนั่นหายไปในแขนเสื้อแอนดี้ เกล้ากระผมชื่นชมหนทางเยี่ยงนั้น...ชื่นชมเขา เว้นจากปัญหาที่เขากำลังเผชิญ เขากำลังดำเนินชีวิต มีเป็นพันคนที่ไม่หรือไม่คิดหรือไม่อาจกระทำ และมีคนจำพวกนี้อีกมากหาได้อยู่ในคุกเสียซ้ำ และเกล้ากระผมพบว่าถึงหน้าเขาจะยับเยินอย่างกับโดนพายุยำมา มือของเขาก็ยังสะอาดสะอ้านและเล็บขริบเรียบ
เกล้ากระผมไม่ค่อยได้พบเขาบ่อยนักช่วงหกเดือนต่อมา โดยมากแอนดี้ผ่านวันเวลานั้นด้วยโดนขังเดี่ยว
****
Tags: งานแปล
, ชอว์แช็งค์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น