ว่าด้วยบทกลอนสวัสดิ์ขอรับท่านสาย

อึดอัดอยู่เป็นนานกว่าลงมือขยับปลายนิ้วสลักลายอักขระ ก็ด้วยการจักกล่าวบางเรื่องสำแดงขี้เท่อตนนั้นยังความละอายแก่ใจอย่างถึงพริกถึงขิงต่อสำนึกอันตระหนักดีว่าหาสมควรแก่การกล่าวออกไป 

แต่ความสุขใจว่าได้มีสหายที่เคารพแวะเวียนเจียนหมากฝากพลู ชักชวนแลกเปลี่ยนมุมคิดมุมเห็นเนื่องด้วยลายเขียนอันเป็นที่รักนั้นมากอยู่

มากพอจะข่มละอายนั่นเสีย นั่งลงประจงรับหมากซึ่งสหายห่อให้แล้วส่งเข้าปากขบเคี้ยวให้สาแก่มิตรจิตที่ได้รับมา (แม้นเสี่ยงกับสหายจะนั่งชี้นิ้วกลั้วหัวร่อ สัพยอกว่า..กินหมากไม่เป็นนี่นา..ก็เถอะ!)

สำหรับข้าพเจ้า 'กลอน' ก็คงไม่ต่าง 'หมาก'

ข้าพเจ้ากินหมากไม่เป็นเยี่ยงเขียนกลอนไม่เป็น กล่าวเช่นนี้หาใช่เจตนาแสร้งเหยียบย่ำตนรอท่านส่งมือช่วยประคองนั้นหาไม่

แต่เป็นเพราะสำนึกแน่อยู่แก่ใจตนว่าอ่านมาน้อย  น้อยอย่างเหลือเกิน ขณะยินผู้ทรงคุณหลายต่อหลายท่านบอกกล่าวถึงเลิศวรรณคดีมากมายที่เคยผ่านตา ข้าพเจ้าย้อนมองตนเห็นก็แต่บทกลอนซึ่งครูบังคับให้ท่องครั้งเยาวศึกษา

สั้น ๆ เพียงไม่กี่บท  

อาจเป็นโชคอยู่บ้างที่การท่องจำซึ่งผู้ภาคภูมิในหลักเหตุผลทั้งหลายรังเกียจนักหนาได้ส่งผลปลูกกล้าสัมผัสลงในจิตไร้สำนึกของเจ้าเด็กน้อยด้อยเดียงสา

ข้าพเจ้าเชื่อดังเคยเรียนท่าน ฉันทลักษณ์นิพนธ์มีท่วงทำนองของมันเอง ไม่ว่าเป็นกลอน ฉันท์ กาพย์ และโคลง หากท่านลองอ่านฉันท์สักเรื่อง อ่านทุกวัน ช่วงเวลานั้นท่านจะเขียนกลอนไม่ออก เขียนอย่างติด ๆ ขัด ๆ รู้สึกคล้ายทำนองสะดุด ก็เพราะช่วงเวลานั้นท่านกำลังบันทึกทำนองของฉันท์ลงในจิตไร้สำนึก

การได้ยินได้ฟังอยู่ตลอดเวลาจะย้ำทักษะลงในหน่วยความทรงจำ คงวิธีนี้เองที่เกิดพ่อเพลงแม่เพลงขึ้นทั่วเมืองสุพรรณฯ

ข้าพเจ้ายังเชื่อว่ากลวิธีของการศึกษาตำรับตำราว่าด้วยการเขียนฉันทลักษณ์นิพนธ์ไม่เคยสร้างนักกวี

เหล่านั้นเป็นแต่เพียงการแยกแยะแจกแจง บันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อการศึกษาสืบทอด เป็นสิ่งที่มาภายหลัง การเริ่มควรเริ่มจากปลูกฝังลงสู่จิตไร้สำนึกผ่านการฟังและอ่านโดยไม่พะวงกับหลักข้อบังคับใด ๆ ที่จะจับหัวใจใส่กรอบทำลายสุนทรียะรสเสียสิ้น  

ขอเราทำความกระจ่างตรงจุดนี้ก่อนก้าวกันต่อไป

ท่านอาจสงกาว่าไม่ศึกษาเรียนรู้หลักการก่อนแล้วจะเริ่มได้อย่างไร เขียนให้ถูกต้องตามบุราณนิยมได้อย่างไร เกิดผิดพลั้งมิเป็นรั้นนอกครูไปหรือ?

ข้าพเจ้าเชื่อว่า การศึกษาเยี่ยงนั้นเหมาะกับบางวิชาการ น่าจะไม่เหมาะกับศิลปะและสุนทรียะศาสตร์ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ส่งตรงสู่ใจ หากหัวใจถูกปิดกั้นเสียแล้วด้วยหลักการต่าง ๆ ก็เป็นการยากที่จะเปิดรับสุนทรียะรสโดยเต็มหัวใจ

มีแต่ปล่อยให้รสนั้นผสานสู่ใจ เป็นรสที่ลึกล้ำไม่อาจบรรยายด้วยภาษาหรือหลักการใด ๆ เป็นความรู้สึกรับรู้ได้เฉพาะตน นั่นจึงคือสุนทรียะ

การรับและส่งผ่านย่อมเป็นกระบวนการเดียวกัน คือจากใจสู่ใจ ไม่เกี่ยวหลักการ กฎข้อบังคับใด เสพรสกลอนกับสร้างสรรค์บทกลอนจึงคือกระบวนการเดียวกัน

หากท่านยินดีรับข้อตกลงตามนี้ ยกข้อบังคับสัมผัสนอกสัมผัสในสัมผัสสระพยัญชนะต่าง ๆ ออกวางไว้เสียข้างกาย เปิดใจให้ว่าง เราจะก้าวกันต่อไป

กลอนบทซึ่งข้าพเจ้าเรียนท่านว่าเป็นเลิศ หาได้เกิดแต่เปรียบกับกลอนของเอกกวีท่านใด หากเป็นเลิศในสำนึกของนักกลอนอ่อนหัดที่พบว่าการได้สัมผัสชักนำสำนึกเข้าสู่อีกมิติของบทกลอน เป็นมิติที่อวลรสกวีอย่างเอมใจ

ขอท่านสูดลมหายใจช้า ๆ สักสามครั้ง

เปิดใจให้ว่าง แล้วลองสดับ..  

๏ ปางพี่มาดหมายสมานสุมาลย์สมร
ดังหมายดวงหมายเดือนดารากร
อันลอยพึ้นอัมพรโพยมพราย

แม้นพี่เหิรเดินได้ในเวหาส
ถึงจะมาดก็ไม่เสียซึ่งแรงหมาย
มิได้ชมก็พอได้ดำเนิรชาย
เมียงหมายรัศมีพิมานมอง

นี่สุดหมายที่จะมาดสุมาลย์สมาน
สุดหาญที่จะเหิรเวหาสห้อง
สุดคิดที่จะเข้าเคียงประคอง
สุดสนองใจสนิทเสน่ห์กัน

โอ้แต่นี้นับทวีแต่เทวศ
จะต้องนองชลเนตรกันแสงศัลย์
จะแลลับเหมือนหนึ่งดับเดือนตะวัน
เมื่อเลี้ยวเหลี่ยมสัตภัณฑ์ยุคนธร

ยิ่งคะนึงยิ่งนานจะเห็นพักตร์
ฉวยฉุดรักแล้วจะทอดฤทัยถอน
ไม่เห็นกรรมว่าจะนำให้ไกลกร
ไม่เห็นรักว่าจะรอนให้แรมโรย

อกเอ๋ยเมื่อได้เคยประโลมเล่น
ครั้นห่างเห็นแล้วก็ได้แต่เตือนโหย
ยามดำเนิรเดินดินอาดูรโดย
ก่นแต่โกยกอบทุกข์มาทับกาย

จะผ่อนผันฉันใดก็ใช่ที่
อันนับปีแต่จะเริดจะร้างหาย
จะอาดูรแต่ผู้เดียวอยู่เปลี่ยวกาย
มิได้วายความถวิลที่จินตนา

แสนเทวศสุดทวีครั้งนี้เอ๋ย
ไม่เห็นเลยว่าจะน้อยวาสนา
แต่ปางไกลแสนอาลัยทุกเวลา
ครั้นคิดมาไม่เห็นหน้าแล้วอาวรณ์

แสนรักจะร่วมเรือนเหมือนบุหรง
ที่พิศวงภานุมาศประภัสสร
เมื่อเลี้ยวลับศีขรินลงรอนรอน
สุดอาวรณ์ที่นกยูงจะหมายปอง

แสนวิตกเหมือนกระต่ายที่ใฝ่ฝัน
แสงพระจันทร์งามจรเวหาสห้อง
พระจันทร์อยู่สำราญวิมานทอง
ฤาจะปองใจหมายกระต่ายดง

สงสารอก กระต่ายป่าพฤกษาชาติ
จะวายชีวาตม์ดับจิตด้วยพิศวง
แสนคะนึงถึงเสน่ห์ที่จำนง
ก็เหมือนอกกระต่ายดงที่หลงเดือน

โอ้สุดคิดสุดฤทธิ์เห็นสุดรัก
เพราะต่ำพักตร์ไม่มีศักดิ์เสมอเหมือน
ใครจะช่วยบำรุงรักช่วยตักเตือน
โอ้นับเดือนก็จะลับไปนับวัน

จึงจำจากเพราะวิบากให้วิบัติ
ขอกอดสัตย์ไปจนสิ้นชีวาสัญ
ไม่ตั้งใจมิตรจิตคิดผูกพัน
ขอหมายมั่นกว่าจะม้วยชนมาน

ถ้าดับชีวิตไปสวรรค์ชั้นใดไฉน
ขอตามไปร่วมทิพย์พิมานสมาน
ทุกมหันต์มหรรณพเอนกนาน
สู่สถานที่สถิตนิพพานเมือง

โอ้ชาตินี้เห็นน้องแล้วความสุข
จะแสนทุกข์สุดโทมนัสเนื่อง
สุดปลุกใจปล้ำใจให้โศกเปลือง
ยิ่งครุ่นคิดแล้วก็เคืองทวีครวญ

เมื่อเวรามาบำราศให้คลาดรัก
สงวนศักดิ์ไว้ให้งามเถิดทรามสงวน
คิดเสงี่ยมเจียมพักตร์แต่พอควร
ใครสงวนไม่เท่านวลสงวนกาย

เห็นสุดถวิลสุดสิ้นบุพเพนิวาส
ที่มุ่งมาดมิได้สมอารมณ์หมาย
เจ็บจิตคิดจะวางชีวาวาย
ก็เสียดายด้วยอาลัยมิได้ลา

เชิญสำราญเถิดแม่อย่าหมองพักตร์
จงคงศักดิ์คงสถิตในยศถา
ต่อเมื่อไรวันกำหนดมรณา
ขอเห็นหน้าเสียสักหน่อยพอชื่นใจ

อย่าเสียแรงที่มุ่งบำรุงรัก
มาดสมัครหมายสมานพิสมัย
ได้เห็นหน้าแล้วจะลาชีวาลัย
จะอวยโอษฐ์ให้อโหสิกรรมกัน

ถึงอยู่ใกล้ก็เหมือนไกลเพราะใช่คู่
มิได้ชูชมโฉมประโลมขวัญ
เห็นสิ้นบุญแล้วในเบื้องประจุบัน
ขอหมายมั่นบุญเบื้องบุรพา

แม้นกุศลเราสองเคยร่วมสร้าง
ขอร่วมห้องอย่าได้ห่างเสน่หา
เสียงผลที่ได้เพิ่มบำเพ็ญมา
ขอร่วมชีวาร่วมวางชีวาวาย

เกิดไหนขอให้ได้ถนอมพักตร์
ความรักอย่าได้ร้างอารมณ์สลาย
รักนุชอย่าได้สุดเสน่ห์คลาย
ขอสมหมายที่ข้ามาดสมาทาน

อันสาราบำราศบำรุงคิด
จาฤกไว้โดยสุจริตสาร
พยายามตามสัตย์ปัติญาณ
พอแจ้งการที่กรรมในกายเอยฯ

เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐสุริยวงศ์
อยุธยาตอนปลาย

ท่านเองอาจเคยสดับ นี่คือ 'เพลงยาวเจ้าฟ้ากุ้ง'

อย่างที่ได้เรียนบั้นต้น สุนทรียะรสนั้นไม่อาจบอกกล่าวเป็นภาษา ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านเองก็ได้รับรสนั่น

หลายครั้งที่เราเขียนกลอนเสร็จอ่านจบกลับรู้สึกยังขาด ๆ เกิน ๆ ก็เพราะสุนทรียะรสขาดหาย รู้ว่ามีบางอย่างขาด แต่ไม่ทราบเป็นอะไรก็เพราะทักษะเรายังไปไม่ถึง

การจักไปให้ถึงตรงนั้นก็เหมือนครั้งท่องอาขยาน

มีแต่อ่านบทกลอนอันถือแล้วว่าเป็นเลิศซ้ำครั้ง ฝังเมล็ดพันธุ์ลายอักขระลงในจิตไร้สำนึกกระทั่งรสคำเหล่านั้นเลื่อนไหลออกจากใจมิต่างสายน้ำหลั่งริน

การนำบทกลอนมาจำแนกแจกแจง วิเคราะห์ปรับเปรียบถือเป็นทำลายวรรณรสเสียหาย

สิ่งข้าพเจ้ากระทำย่อมเป็นความบังอาจอย่างไม่น่าอภัย แต่หากผลของการอันจาบจ้วงบรมครูผู้เป็นที่เคารพครั้งนี้จะสามารถแผ้วทางให้สหายผู้มีใจใฝ่มรรคแห่งฉันทลักษณ์นิพนธ์ได้ดำเนินไปในทางที่จำเริญทักษะยิ่งขึ้น ย่อมเป็นสิ่งสหายต่ำต้อยของท่านพึงกระทำ

(มีต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น