ห นึ่ ง 
ผ่านห้วงเวลาอาณานิคม...
เหนือ “ดินแดนใต้ลม”* ยังลมไหว
เปลี่ยนผลัดศตวรรษ ยังกวัดไกว
อยู่ในศตวรรษปัจจุบัน
“เรา” ล้วนถูกครอบงำ...
โดยขอบฟ้าวาทกรรมที่ขีดคั่น
แบ่งหน่อเนื้อเครือญาติ แยกชาติพันธุ์
ปักปันความทรงจำ คว่ำกะลา
กอดนิยามความจริง คนละชุด
มุ่งยึดหมายย้ายหมุด คนละค่า
จึงดวงตามืดหมองสองคู่ตา
ตัดเครือข่ายความศรัทธา - อารยธรรม
จิตสำนึกจำกัดโดยรัฐชาติ
ผลิตซ้ำอำนาจโดยเถื่อนถ้ำ
ภูมิทัศน์ประวัติศาสตร์ความทรงจำ
ตระหง่านง้ำจากขอบฟ้าอาณานิคม
กว่าศตวรรษ ลมพัดหวน
หอบกระแสแปรปรวนมาห้อมห่ม
ที่ราบสูง ที่ราบต่ำจึงต่ำตม
คล้ายเวิ้งฟ้าอาณานิคมยังห่มคลุม
ส อ ง 
ดูเถิด, ท้องฟ้าเหนือปราสาท
หมู่เมฆวิปลาส หมาดชุ่ม
คลี่ขบวนไหลบ่ามาชุมนุม
เกาะเกี่ยวเกาะกลุ่ม งำชุมชน
ปลุกเงาเก่าแก่ขึ้นแผ่ผืน
เคลื่อนคลื่นไร้ขอบเขต ไร้เหตุผล
ทะเลสาบ ที่ราบต่ำ, ไม่จำนน
ที่ราบสูงเหลือทน, ไร้ต้นทุน
รูปสลักศิลา เทวาลัย
นิ่วหน้าน้ำตาไหล สูญไออุ่น
สันปันน้ำ สันปันลม เสียสมดุล
จึงทุกความเคยคุ้น ไม่คุ้นเคย
ส า ม 
ผ่านห้วงเวลาอาณานิคม...
เหนือ “ดินแดนใต้ลม”* โอ้ลมเอ๋ย
ศตวรรษผลัดผ่าน เถิดผ่านเลย
อย่าเยาะเย้ยหวนพัดมากวัดไกว
ความจริงคนละชุด ที่สุดนั้น
ควรแตกหน่อช่อชั้นแก่วันใหม่
ป่าในอกรกร้าง ถึงอย่างไร
ควรแตกดอกออกใบไหวตะวัน
เป็นประจักษ์พยานกาลเวลา
เขียนขอบฟ้ารุ่มรวยด้วยสีสัน
ปล่อยให้ความทรงจำได้จำนรรจ์
อย่าให้ความทรงจำนั้นปักปัน “เรา” 
(ใต้อำนาจ “ชาติ-รัฐ” ปัจจุบัน
เถิด, อย่าให้อำนาจนั้นขีดคั่น “เรา”!)

ศิริวร แก้วกาญจน์

*ชื่อหนังสือประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เล่ม 1 ของแอนโทนี รีด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น