พี่ท่านที่เคารพ

เห็นรูปการ์ตูนข้างล่างแล้วชอบใจจริงพี่ท่าน  หากใส่เสื้อปุ ๆ ปะ ๆ เข้าไปล่ะก็ผู้น้อยอย่างไรอย่างนั้นเลยเทียว  ตรงป้ายก็จะเขียนว่า..เรื่องสั้นสั้นเลหลัง..เรื่องยาวล้างสต็อก..เรื่องไม่ค่อยเป็นเรื่อง--อ่านฟรี! ยินดีรับบริจาคค่าอาหารต่อลมหายใจนักหัดเขียนซอมซ่อ  ถ้าให้ดีเปิดหมวกวางไว้ข้างหน้าด้วย 

อา..ไปวานท่านอัมดีกว่า เผื่อได้โลโกไว้แปะหน้ากระท่อม

อยากนำจับเข่าคุยของพี่ท่านออนแอร์เหลือเกินขะรับ  เพราะน่าจะได้ประโยชน์โภชน์ผลต่อเหล่านักหัดเขียน  แต่หากพี่ท่านไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรข้าพเจ้ารับใต้ดินแล้วร่อนคืนทางเมล์อากาศอย่างนี้ล่ะ  หวังพี่ท่านคงไม่ถือสา 

การเขียนจดหมายคุยคงเป็นปฏิบัติวัตรของเหล่าศิลปิน 

งานเขียนชนิดหนึ่งที่ข้าพเจ้าตั้งใจอ่านเสียอย่างเอาจริงเอาจัง  ไม่ทราบเป็นด้วยนิสัยชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัวผู้คน(โดยเฉพาะคนที่ตนชื่นชอบ แต่เรื่องดาราคนไหนนอนกับคนไหนไม่เกี่ยวนา) หรือด้วยสนใจมุมคิด แง่เขียนของท่านเหล่านั้น  ก็งานในรูปจดหมายนี่ล่ะขะรับ

ล่าสุดที่เพิ่งจบไป Journal of a Novel ของ จอห์น สไตน์เบ็ค เขียนเป็นบันทึกในรูปจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนรักขณะเขียนนิยาย East of Eden บรรยายการทำงานประจำวัน ความรู้สึกอารมณ์ต่าง ๆ ขณะเขียนเรื่อง ทัศนะเกี่ยวกับการเขียนนิยาย ความเป็นอยู่กระทั่งนิยายจบ ใช้เวลาร่วมแปดเดือน  บันทึกสองร้อยกว่าหน้าที่ข้าพเจ้าอ่านไปเรื่อย ๆ โดยหาได้รู้สึกทรมานใจเหมือนถูกแหกตาโดนเนื้อหายืดไส้อย่างพวกอันพุดดาวเนเบิ้ลที่ค่ายดังโปรโมทแล้วโปรโมทอีก  เล่มแล้วเล่มเล่าอ่านแล้วใคร่น้อมปาศีรษะ(เอ่อ--ใครดีล่ะ? อ่า--ไม่ดีกว่า มันไม่สุภาพใช่ไหมพี่ท่าน?)

ครั้งหนึ่งข้าพเจ้านั่งเอนหลังแช่เสียงบรรเลงซีต้าร์แผ่วในร้านสแนคบาร์ที่หน้าทอนสมุย กลางวันยันเย็นซดโค้กไปสองป๋อง (มากกว่านั้นเสียดายตังค์) ท่านเจ้าของร้านสาวเซอร์ซึ่งละทิ้งชีวิตเมืองควบซีอาร์วีออกมาอยู่ทะเลใจดีปล่อยให้นั่งทั้งวัน  อ่านหนังสือที่ทางร้านวางไว้ให้ลูกค้าผ่านมือผ่านตา  เป็นจดหมายของแวนโกะเขียนถึงธีโอน้องชายขอรับ  ข้าพเจ้าเพิ่งรับรู้ว่าแวนโกะเขียนจดหมายมากมายขนาดนั้น  ปกแข็งเล่มใหญ่หนาปึ๊ก!

บางทีอาจเป็นเพราะจดหมายทำให้เรา(คิดว่า)ได้สัมผัสตัวตนแท้จริงของผู้เขียน เพราะนั่นเป็นบันทึกเวลาชีวิตส่วนตัวของเขา  เราอาจทำความเข้าใจวิธีคิดวิถีชีวิตของเขาลึกลงอีกระดับนอกจากงานหลักอันได้สำแดงต่อสาธารณะชน  จดหมายจึงชวนอ่าน ยิ่งเป็นจดหมายของนักประพันธ์ด้วยแล้ว  ยิ่งกลมกล่อมหัวใจกระไรปานนั้น 

การได้เขียนจดหมายถึงสหายว่าด้วยเรื่องงานเขียนจึงเป็นสิ่งเย้ายวนใจชนิดหนึ่ง

ทางหนึ่งได้ระบายเรียบเรียงความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวเนื่องด้วยงานเขียน ชีวิตขีดเขียนอันหล่อเลี้ยงจิตใจอยู่ประจำยาม (แลหาได้เลี้ยงปากท้องประจำวัน) ทางหนึ่งก็ด้วยตระหนักว่าประพันธกรนามอุโฆษทั้งหลายเมื่อเขียนจดหมายนั้น  ท่านเขียนได้อย่างสละสลวยน่าอ่านนัก  จึงเห็นควรนักหัดเขียนเตาะแตะพึงฝึกไว้เป็นวัตรปฏิบัติ            

เจอร่ายยาวปราณีตบรรจงของท่านเข้า(ตั้งแต่หมายเหตุปิดเล่มก้าวฯแล้ว) ข้าพเจ้าให้ละอายใจนัก  ได้แต่เพลิดอ่านไม่อาจเพลินตอบ  ก็เพราะนั่งงงอยู่ว่าคนเขียนหนังสือเขาเอาอะไรของเขามาเขียนกันนักกันหนาล่ะเนี่ย  ผู้น้อยเคาะไปสี่ห้าบรรทัดเป็นอันหมดขี้เลื่อยในศีรษะ  (กรณีเช่นนี้ยังมีป๋าสองพี่สามท่านอ้ายฯที่พระคุณดูเหมือนนั่งลงแล้วร่ายยาวได้เป็นวรรคเป็นเวร)

จนปัจจุบันที่คล้าย ๆ จะแว่วจากท่านย่าป้าโคว่าข้าพเจ้า(ก็ค่อนข้างจะ)ขี้โม้น้ำไหลไฟดับ  ความงุนงงสงสัยกลับหาได้ลดทอนลงแม้สักน้อยนิด  รู้แต่ว่าต้องฝึกจับประเด็น ฝึกขยายประเด็นแล้วเรียบเรียง  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องปอกบานานาที่จะกระทำอย่างเป็นธรรมชาติดังเช่นเหล่าสหาย 

ฝึกฝนจึงเป็นคำตอบเที่ยงแท้สำหรับข้าพเจ้า 

คงได้แต่ฝึกฝนจนเขียนโดยไม่ต้องรอพี่ป้าน้ารมณ์หรืออารมณ์ใด ๆ เขียนออกโดยธรรมชาติเหมือนโมฮัมหมัด อาลีปล่อยหมัดแย็บ--แย็บไปเรื่อย ๆ แย็บจนโจ ฟลาเซียหน้าปูดตาบวมเป็นลูกมะกรูด

ค่อย ๆ ดูไปขอรับ ดูไปว่าระหว่างเรา ใครเป็นโจ ฟลาเซีย ใครจะเป็นมูฮัมหมัด อาลี?

คารวะ

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 ธันวาคม 2550 เวลา 20:39

    สวัสดียามค่ำขอรับ

    ระยะนี้พยายามไม่เข้าระบบระหว่างงาน เนื่องจากโดนจับตามองจากเจ้า อันความสะดวกใจกระผมเลยกลับมาใช้งานที่บ้านดีกว่า

    อันว่าจ.ม.นั้น ก็ไม่ต่างไปจากบันทึก

    บันชอบบันทึกในลักษณะที่คนอื่นอ่านได้ ไม่อาย ไม่หวง จะมีประโยชน์อันใด หากเก็บไว้อ่านเพียงผู้เดียว...

    ผมจึงเขียน

    การเขียนนี้ มันออกมาจากใจ แรกเริ่มเดิมทีวัดไม่ได้หรอกว่า มันเข้าข่ายงานเขียนของพวกศิลปินทั้งหลายหรือไม่

    ตราบจนเริ่มอ่าน เริ่มเขียนจริงจัง

    การถ่ายทอดออกมาเป็นจดหมาย หรือบันทึกมันก็ออกมาในรูปแบบนั้น

    แน่ละ นอกจากเรียงความได้ตามความประสงค์ สิ่งหนึ่งยังคงที คือ ความจริงจากใจจริง

    หากจดหมายจับเข่า ซดเบียร์ จะเป็นประโยชน์ ก็ยินดีขอรับ

    บางครั้ง กำลังใจดี ๆ อาจเป็นพลังให้ "เรา" ตั้งใจสู้ต่อไป...

    ด้วยจิตคารวะ

    จิต จิตติ

    ตอบลบ