พ้นเจ้ามะพร้าวเฝ้าทาง ก็จะเห็นขนำในดงไม้ ขวามือเป็นบ่อน้ำ ขาว ๆ นั่นเสื้อยืดซักตากเมื่อเช้า เข้าไปดูใกล้ ๆ กัลล์
ขนำร้าย ๆ ปลายนา เมื่อแรกมาอยู่เจ้าต้นมะขามเทศทั้งสองข้างกุดเหลือแต่ตอ มันงอกงามขึ้นเรื่อย ๆ จนเดี๋ยวนี้ให้ร่มเงาชวนนั่งชวนนอน เชิญนั่งขะรับ เชิญนั่ง
นั่งแล้วมองกลับออกไปก็จะเห็นบ่อน้ำ พุ่มไม้ ป่าหญ้า ท้องฟ้าหยั่งงี้ (กระบอกนั่นถือเสียว่าเป็นน้ำตาลต้อนรับแขกก็แล้วกัลล์นะขะรับ)
ขยับถอยมาหน่อยก็จะเห็นชานที่เรานั่ง จักรยานขวามือใช้ออกไปหาของกิน
หากเหลียวขวาก็จะเห็นกระตูขนำ มองทะลุบานหับ ด้านหลังเป็นที่อาบน้ำ (ไม่พาไปดูล่ะ..อาย) หม้อหุงข้าวซ่กมก (ซ้ายล่าง) นั่นอยู่กับข้าพเจ้าเกือบสิบปีเข้าให้แล้ว ยังอุ่นร้อนควันฉุย ข้าวไม่เคยเสีย กรอบสี่เหลี่ยมเป็นรูปเขียนสีพาสเทลลายเส้นฉวัดเฉวียนกำนัลจากท่านสหัทยา
ด้านซ้ายเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ
ผู้น้อยใช้หน้าต่างบานซ้ายโผล่หน้าออกมาพบเหล่าท่าน บานขวานั่งมองเจ้าพังพอน กางเขน กระปูด อีโก้งมาเยี่ยม
นั่งที่ชานหากเหลียวหลังก็จะเห็นค้างถั่วพู ตั้งแต่ฝนลายังไม่ได้ตัดแต่งเอาก้านใบแห้งออก ตอนนี้จำเป็นต้องฟื้นสุขภาพตัวเอง ต้นไม้เอาไว้ก่อน
นี่ล่ะ..อาหารข้าพเจ้า ตอนที่ฝนตกหนัก ๆ ก็ได้เจ้าถั่วพูนี่แหละกินกับแม็กกี้ที่สหายทั่นป้าส่งมาให้
มะละกอเพาะเองจากเมล็ด สูงถึงหลังคาแระ พวกยังไม่ยอมติดลูกสักลูก
แหงล่ะ..ใบมะละกอ
เจ้ากล้วยไม้ พบผุดยอดอ่อนอยู่ในซอกไม้ เลยเอามาผูกไว้กับต้นมะพร้าวหลังขนำ ดูเหมือนจะเริ่มโตเป็นสาวแระ
โคนมะพร้าวต้นเดียวกัน เจ้าตำลึงจอมเลี้อยกำลังทอดยอดโอบกอด (สงสัยรักมั่ก)
มองจากในบ่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น