นทางดินสายเก่ามีเงาหม่น
ของชายคนเดินทางหว่างทุ่งฝัน
แสงพลบสาดเงาค่ำอาบอำพัน
เวิ้งตะวันเปล่าว่างบางเบา
โชยสายลมเฉื่อยฉิวมาพลิ้วอ่อน
รอนรอนคีตากาลคลี่ม่านเหงา
เรไรเริ่มกรีดปีกเหมือนเป็นเพื่อนเนา
ยอดหญ้าทอดเงาลงราวทาง
ภาพจำฉายฉากหลังบนทางเปลี่ยว
ลดเลี้ยวเลือนคล้อยรอยย่ำย่าง
ฝุ่นดินยักย้ายสายจางจาง
หญ้าข้างทางขยับไหวเหลียวไปดู
กางเขนน้อยกางปีกฉีกขาด
อนาจก้มประคองเจ้าร้องกู่
แววตาขลับจับจ้องมองดู
ไร้กำลังสู้แรงจะแข็งบิน
ปีกชุ่มชโลมเลือดเริ่มเหือดแห้ง
กรังเกรอะขืนแข็งสุดแรงดิ้น
ตีนเปรอะเปื้อนฝุ่นดิน
ขนปีกขาดวิ่นขยับวน
เขาประคองแผ่วเบาเอาน้ำล้าง
รื้อยาทาบางบางหว่างร่องขน
เจ้าเงียบเสียงนิ่งงำยอมจำนน
จ้องฉงนคงฉงายคล้ายจำใจ
จากวันนั้นทุ่งฝันพลันกระจ่าง
เริงร้องท่องทุ่งกว้างกลางฟ้าใส
คนเดินทางเพลินบนหนทางไกล
มีสหายเกาะไหล่ไปด้วยกัน
กางเขนน้อยร้อยเรียงสำเนียงแจ้ว
เขาร้องคลอเสียงแว่ววลีฝัน
เป็นโคลงกลอนหลากรสบทประพันธ์
เล่าเรื่องราวเรียงรันละมุนละไม
เล่าถึงดวงดาวสีชมพู
เป็นที่อยู่คู่ลิขิตพิศมัย
มีแท่งหินแห่งรักสลักไว้
เป็นรูปสองดวงใจเคียงใกล้กัน
เล่าว่ามีหญิงสาวคอยเขาอยู่
ท่ามสายลมฤดูกาลกลายผัน
เขาจะเดินทางไกลไปที่นั่น
เก็บดอกฝันหลายหลากไปฝากเธอ
ทั้งสองท่องไปในทุ่งกว้าง
คนเดินทางลืมว่าแสงเปลี่ยนแปลงเสมอ
เผลอเพลินเพลงฝันรำพันเพ้อ
คล้ายละเมอชั่วคืนพลันตื่นตา
วันที่ปีกฉีกขาดเคยบาดเจ็บ
ผ่านมานานหายเหน็บหายเจ็บปร่า
วันนี้คืนกำลังวังชา
กางเขนน้อยก็ถลาบินลาไป  
คนเดินทางยืนเหงาในเงาสนธยา
นกน้อยจะกลับมาก็หาไม่
เขากลืนก้มข่มน้ำตาว้าเหว่ใจ
เดินฝ่าความมืดไปในราตรี ฯ

Image : http://www.icollector.com/G-R-Boulanger-Print-Man-with-Bird_i7453290