from COMICS66 - Thailand Comics Reader Blog 
Ultimate Comics Spider-Man #6:
Ultimate Comics All-New Spider-Man #6 : The Prowler

เรื่อง : Brian Micheal Bendis
ภาพ : Chris Samnee & Justin Ponsor
วางจำหน่าย : 18 มกราคม 2012
สำนักพิมพ์ : Marvel Comics



เด็กนักเรียนนาม ไมล์ส โมราเรส ได้ถูกแมงมุมดัดแปลงพันธุกรรมกัดและทำให้เขาได้รับพลังแมงมุมซึ่งคล้ายคลึงกับสไปเดอร์แมนคนก่อน ไม่นานนักไมล์สก็สามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองและได้รับการยอมรับจากนิค ฟิวรี่ ให้เป็นสไปเดอร์แมนต่อไปได้ อีกด้านหนึ่งลุงแอรอน หรือ เดอะ พราวเร่อร์ ที่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ได้ปรากฎตัวอีกครั้ง!!

เมืองแม็กซิโก

หลังจากที่แอรอนเก็บเข้าของหลบหนีก็ออกเดินทางมาที่ประเทศแม็กซิโก
เขาเข้าพับบาร์แห่งหนึ่งเพื่อมองหาผู้ว่าจ้าง
Aaron : หมอนั่นอยู่ไหนวะ?
บาร์เทนเดอร์ก็สะบัดศรีษะไปอีกทาง เพื่อบอกว่าให้ไปทางนั้น


หลังร้าน

ก็พบชายฉกรรจ์ถือสรรพอาวุธดักรอไว้อยู่ก่อน

Aaron : ขอคุยกับคนคุมที่นี่หน่อยได้ไหมล่ะวะ?

Aaron : ใครพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง? พูดภาษาอังกฤษได้จะช่วยได้เยอะเลยว่ะ

ไม่ทันได้เอ่ยปาก แอรอนก็ถูกคนแปลกหน้ารุมเข้าทำร้าย

??? : ระวังกันหน่อยสิ พวกเอ็ง… ไม่รู้รึไงว่าคนที่พวกเอ็งอัดอยู่นี่เป็นใครกันหือ?


??? : เจ้าหมอนี่เป็น จอมโจรพราวเร่อร์ จอมโจรตัวฉกาจเหาะตรงมาจากประเทศอเมริกาเชียวนะเฟ้ย ถามเอาดีๆก็ได้ แต่เจ้าหมอนี่ใช่คนที่ย่องเข้าไปในออสคอร์บ

แล้วก็ถือซะว่าของทุกอย่างที่ขโมยมาได้ตกเป็นของ ของข้า มั๊ยเอ่ย?

Aaron : ไม่เอาน่า สกอร์เปี้ยน ครั้งแรกเลย ที่แกทำให้กรูต้องบินเดินผ่านตามไรทางจนถึงที่นี่ แล้วยังจะมาลบหลู่อีกรึ?

แอรอน ปล่อยกระแสไฟฟ้า ซ็อตใส่สมาชิกแก็งของสกอร์เปี้ยนจนหมดสติไปหมด

Scorpion : ฮ่า พกลูกเล่นมาด้วย เห็นแล้วล่ะว่า แกไปเยี่ยม เจ้า Tinkerer มาสินะ?


ตัดกลับมาที่เมืองนิวยอร์ก บรูคลิน

หลังจากที่ไมล์สได้รับการยอมรับจากนิค ฟิวรี่ ไมล์สก็สวมชุดใหม่ และออกลาดตระเวน

โอเคเลย ยอมรับเลยว่าชั้นซักจะติดใจแล้วล่ะ… รู้ไหมว่าคิดไรอยู่ ชั้นรักมันมาก!!

ฉันได้เป็นสไปเดอร์แมน ได้เป็นสไปเดอร์แมนจริงๆเชียวนะ!!

ฮ่า!!

ไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองกำลังทำไรอยู่ หรือทำได้ยังไง แต่ เฮ้!

ซักสงสัยแล้วว่าฉันจะไปได้เร็วแค่ไหนกันเชียว

ซักสงสัยแล้วว่าฉันจะโดดได้สูงแค่ไหนกัน….

ระหว่างที่ตระเวนตรวจตรารอบเมือง ไมล์สก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องอย่างเสียงแข็ง

ไม่

“เอาเป๋ามา คุณผู้หญิง!!”

เหยื่อ : ของพวกนี้เป็นเรี่ยวแรงที่ชั้นอุตส่าห์หามาได้

“อยากหาเรื่องเจ็บตัวขนาดนั้นเชียวรึ?! คุณป้า อยากจะเป็นอย่างงั้นเรอะ”

เหยื่อ : ไมมมม่!!

ไมล์สตามหาต้นเสียงจนเจอและคิดจะลงไปช่วยผู้หญิงคนนั้น

โอเคโอเคโอเค… เอาล่ะนะ….

เหยื่อ : ไม่นะ!! ขอร้องเถอะ ใครก็ได้!!


สไปเดอร์แมนโดดลงมากลางวง แต่กลุ่มแก็งก็ไม่ตกใจเลย ไม่ทันไร สไปเดอร์แมนก็โดนต่อยถึงกับมึนงงจนหมอบลง หนำซ้ำยังโดนดึงหน้ากากออกอีก

Spider-Man : โอเค เลิกรังแกผู้หญิงที่แสนอ่อนแอได้แล้ว พวก

“เอ้ยเอ็ง! บูม!ใช่ไหม?จับหมอนนี่สิวะ!

ซวยแล้ว…ซวยแล้ววววว

“ไหนขอดูหน้าหมอนี่หน่อยซิ!!คิดว่าแต่งตัวเลียนแบบ…


สไปเดอร์แมนรีบดึงหน้ากากกลับเข้าที่ก่อนเตะศอกใส่หน้า

ไม่ว่าน่า พวกนายนี่ก็!!

สไปเดอร์แมนหล่นตัวลงมาจากฟากฟ้าเชียวนะ??

นี่น่าจะทำให้นายหยุดชะงักไปสักอึกใจนึงไม่ใช่เรอะ??

ผู้คนเดี๋ยวนี้ซักร้ายขึ้นแล้ว

สไปเดอร์แมนเริ่มพริ้วไหวตามสัญชาติญาณพร้อมแย่งกระเป๋าสะพายของผู้หญิงคืนได้

โอเคเลยนะ เมื่อตะกี๊ ฉันทำได้ยังไงหว่า??


ไม่นานนักเสียงไซเรนรถตำรวจก็ดังใกล้มาถึงจุดเกิดเหตุ

Spider-Man : เอ้ย นายเริ่มเองนะ ไม่สิเดี๋ยว ถ้าให้พูดตามตรง ฉันเริ่มเองแหละ

สไปเดอร์แมนสังเกตหนึ่งในสมาชิกแก็งกำลังหลบหนีจากที่เกิดเหตุ ก็เลยเหวี่ยงพรรคพวกไปหาเขา และบังเอิญก็กระแทกบนหน้ารถตำรวจพอดี

ตำรวจเข้ามาจับกุมคนกระทำความผิด และกันผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์อยู่

ฉันทำได้! ทำได้จริงๆหรือเนี่ย? ฉันทำสำเร็จ ใช่มั๊ย??เรียบร้อยล่ะ

ผู้หญิงที่ได้รับการช่วยเหลือก็วิ่งเข้ามากอดสไปเดอร์แมนและแสดงความขอบคุณ


ตำรวจเข้ามาล็อคตัว และคิดจะจับตัวปลอมที่แต่งตัวเลียนแบบ

“หมอบลงกลับพื้น”

ผู้หญิงที่ถูกสไปเดอร์แมนช่วย :เดี่ยวสิ!! เขาไม่ได้ทำอะ…

Spider-Man : แต่ผมเป็นคนที่…

“ได้ตัวสวมหน้ากากแล้ว!!”

ซวยแล้ว ปล่อยให้พวกตำรวจจับเข้าตารางไม่ได้หรอกนะ

“ชั้นบอกว่าให้…โว้!! เรามีสถานการณ์ 917 เปลี่ยน!!

สไปเดอร์แมนใช้ช่องว่างทำการหลบหนี ทันทีที่ตำรวจเห็นความสามารถจริงของสไปเดอร์แมนก็ถึงกับงงเต็ก ก่อนหยุดคำสั่งไม่ให้จับกุมเขา

“นะ นั้น สไปเดอร์แมนตัวจริง เสียงจริงรึ ชั้นคิดว่าเขา คิดว่า เขา…”

ทว่าการออกมาช่วยครั้งนี้ก็ถูกอดีตนักข่าวอย่าง Brant บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ตั้งแต่ต้น

Betty Brant : สไปเดอร์แมนโฉมใหม่เอี่ยมงั้นรึ หวังว่าที่อัดไปคงจะมีประโยชน์สำหรับคุณนะ เจ. โจนาห์ แจมสัน??

(Betty Brant โดนไล่ออกเนื่องจากดื้อดึงยังจะสืบข่าวเรื่องนิค ฟิวรี่ [นึก ฟิวรี่ย้ายไปชดใช้กรรมอีกจักรวาลหนึ่งหลังจบ Ultimate Power]ต่อทั้งๆที่เจ้านายสั่งห้ามและเกิดเถียงกัน Ultimate Spider-Man#121)


กลับมายังที่เมืองแม็กซิโก ทั้งสองกำลังเจรจากันอยู่

Aaron : เงินกรูอยู่ไหนฟะ สกอร์เปี้ยน?

Scorpion : แล้วของที่ว่าล่ะอยู่ไหนวะ?

Aaron : ที่แกจะบอกจริงๆแล้วก็คือตัวแกเองไม่มีเงินให้กรูสินะ

Scorpion : ข้ามีอยู่แล้ว ไว้ที่ไหนสักแห่งนี่แหละ

Aaron : ลูกพี่ นี่มันสัญญาอย่างง่ายๆเชียวนะเฟ้ย สิ่งที่แกทำก็เพียงจ่ายค่าตัวกรูมาซะดีๆ

Aaron : หากแกทำสัญญาที่ถือเป็นเรื่องๆง่ายอย่างเนี่ยไม่ได้ล่ะก็… เดี๋ยวกรูจะออกตามหาคนที่แกไม่อยากให้ตาย แล้วกรูก็จะทำได้แกได้แต่มองดูกรูทรมานพวกมัน

จนไม่เหลือสักคน หรือ แกก็ด้วย

หลังจากที่จ้องเขม็งอยู่นาน สกอร์เปี้ยนก็เลิกเล่นตัวและยอมจ่ายแต่โดยดี

Scorpion : เอาเงินแกไป

Aaron : เห็นมั๊ย มันจะยากอะไรกันนักหนาวะ?

Scorpion : ก็ข้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าเล่นเกมกวนส้นเป็นนี่

Aaron : แกก็ได้รู้แล้วว่ะ

Scorpion : โอเค ตามที่อย่างว่า ของของข้าอยู่ไหนวะ?


Aaron : นี่ถือเป็นค่าปรับ ที่แกส่งคนมาจ้วงคอหอยกรูว่ะ

แคร้ง

มีดพกไม่อาจแทงทะลุผิวหนังสกอร์เปี้ยนได้เลย ไม่ระคายผิวด้วยซ้ำ

Scorpion : เจ้าคงเสียใจขึ้นมาแทบจะทันทีสินะ?

แอรอนปล่อยกระแสไฟฟ้าใส่ แค่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย

Scorpion : เจ้า Tinkerer ชาร์จความแรงให้เครื่องเจ้าแค่ไหนกันเชียวนะ? ช่างน่าสนใจจริงเชียว แค่ไปแวะคุยที่ร้านนี่นะ

เมื่อของใช้ไม่ได้ ก็ต้องเล่นลูกไม้คลาสสิก


เมื่อผิดสัญญา แอรอนก็แผ่นหนีเอาตัวรอด

Aaron : แหกกฎตัวเองจนได้ ห้ามเดินทาง ให้เลือกนัดสถานที่ด้วยจตัวเองเสมอ

เมื่อออกจากร้านก็พบตำรวจดักรอไว้อยู่แล้ว

Aaron : ฟังนะ โย่ ฉันเป็นชาวอเมริกันนะ พูดอังกฤษได้ป่ะ?ชาวอเมริกันนะ?

แอรอนแกล้งทำเป็นมอบตัว เมื่อเข้าใกล้ก็ปล่อยพลังสายฟ้า

Aaron : หมดไส้แล้วรึ??

เมื่อของที่ได้จาก Tinkerer ใช้การต่อไม่ได้ แอรอนไม่มีทางหนีจึงจำยอมขอมอบตัวแต่โดยดี

Aaron : สองครั้งแล้วก็หมดไส้?? สลัดเอ๊ย Tinkerer


บ้านตึกแถวในเมืองนิวยอร์ก ย่านบรูคลิน บ้านของไมล์ส

Miles : แม่ฮะ??!!

Miles : แม่ครับ??

ออกไปล้มคน สองคนสามคนมา แล้วแผ่นหนีจากตำรวจอีก

แม่ Miles : ไงจ้ะ ลูกแม่ แม่ไม่ชอบชีวิตนี้เลยจริงเมื่อลูกไม่พักนอนอยู่กับบ้าน

Miles : ก็แค่ 5 วัน เองนี่ฮะ

แม่ Miles : แม่คิดถึงลูกมาก!!

Miles : พระเจ้า นี่วันศุกร์แล้วฮะ แม่นี่ก็ มีเวลาทั้งวันหยุดสุดสัปดาห์กอดรักผมได้ตามใจชอบก่อนผมจะกลับไปรายงานตัวที่โรงเรียนต่อนี่ฮะ

แม่ Miles : มานี่ม๊ะ

Miles : ตามหลักแล้ว ผมเขยิบเข้าไปใกล้กว่านี้อีกไม่ได้แล้วฮะ

แม่ Miles : แม่คิดถึงลูกมาก…แทบจะบ้าตายเลยนะลูก

Miles : พ่อล่ะฮะ?

แม่ Miles : พ่อเค้ายังอยู่ที่ทำงานจ้ะ แล้วที่โรงเรียนเป็นไงบ้านล่ะจ้ะ แม่อยากได้ฟังจากลูกมาก

Miles : ก็นะ…


Miles : มันก็เหมือนโรงเรียนตามปกติทั่วไปเว้นแต่เรียนเต็มวันและคนที่ไปเรียนก็สามารถจดจ่อครุ่นคิดได้โดยไม่มีใครเหวี่ยงไรใส่ หรือ โพร่งมุขฝืดออกมา หรือ…

แม่ Miles : ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นมากเลยจ๊ะ!

และผมก็โดนแมงมุมกัด และตอนนี้ผมก็ได้เป็นสไปเดอร์แมนครับ

Miles : อ่า มันดีฮะ ที่ได้มีเวลาอ่านหนังสือ

แม่ Miles : เยี่ยมเลยจ๊ะลูก เยี่ยมไปเลย

ผมไปล้มอิเล็กโตรมาและได้พบกับนิค ฟิวรี่ฮะ

แม่ Miles มื้อเย็นนี้ลูกอยากทานอะไรหรือเปล่าจ๊ะ? แม่มีเวลาได้แค่สามชั่วโมง ก่อนแม่ต้องออกไปที่โรงพยาบาล

Miles : ไม่ต้องก็ได้ฮะ

ผมเกาะติดกับกำแพงได้ครับแม่

แม่ Miles : งั้น เราควรนั่งคุยกันต่อสินะ หือ?

Miles : มั้ง ครับ

แม่ Miles : ไม่มีคำว่า มั้ง ครับ นะ

พูดเรื่องของคุณพ่อสิ

แม่ Miles : พ่อลูกบอกแม่แล้วว่า เค้ากับลูกคุยกันแล้ว เล่าถึงอดีตลุงแอรอนให้ฟังแล้ว

Miles : ใช่ฮะ มันแบบว่า เอ่อ พึลึกฮะ

แม่ Miles : ไม่เป็นอะไรรึใช่ไหม ลูกรับเรื่องนี้ได้ไหวรึ?

Miles : พ่อเคยเป็นคนเลวด้วยหรือฮะ?

แม่ Miles : เคยจ้ะ ก็ไม่เชิงว่าเลวหรอกนะจ๊ะ เหมือนเป็นช่วงวัยเยาว์มากกว่า งี่เง่าแบบเนี่ย

Miles : แม่รู้จักพ่อตอนที่พ่อออกไปทำเรื่องที่ไม่สมควรที่จะทำรึเปล่าฮะ?

แม่ Miles : ไม่ใช่จ๊ะ แม่รู้จักเขาจากทางอื่นน่ะ หากเขาไม่เป็นอ่ย่างงั้น พ่อกับแม่คงไม่ได้มานั่งในที่แบบนี้ ลูกก็คงไม่ได้เกิด และเขาก็จะกลายเป็นคน แบบว่า ใครจะไปรู้

เรื่องมันก็นานมากแล้ว แม่บอกลูกได้เลยว่าพ่อลูกเป็นคนที่ปรับตัวได้ พ่อลูกเป็นคนดี และได้เรียนรู้บทเรียนมาแล้ว

Miles : แต่ไม่ใช่กับลุงแอรอน…


แม่ Miles : ลุงแอรอนเค้า แม่อยากจะบอกเรื่องนี้ตอนที่ลูกโตพอ…จะให้พูดยังไงดี ลุงเค้าเป็นคนเลวโดยกำเนิด

Miles : มันยากฮะที่จะจินตนาการถึงตอนที่คุณพ่อออกไปปล้นของ ผมนึกภาพนั้นไม่ออกเลยฮะ

แม่ Miles : ลูกไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ก็ได้จ้ะ

Miles : ผมไม่ได้กังวลเรื่องนี้ฮะ

แม่ Miles : งั้นลูกกังวลเรื่องอะไรล่ะลูกแม่?

ไมล์ส กำมือแน่น

แม่ Miles : อะไรหรือจ้ะ?


Miles : ก็มันพึลึกฮะ พึลึกที่ว่าเมื่อลองคิดแล้วมันมีอะไรนักหนาที่ดลบัลดาลให้คนไปปล้นหรือทำผิดกฎหมายไว้ ก็แค่…

Miles : ทำตัวงี่เง่า

Miles : มันพึลึกฮะที่คิดว่าเรื่องนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในตัวผมด้วยเหมือนกัน

แม่ Miles : ลูกพูดแบบนั้นทำไมหรือจ้ะลูก?

Miles : พะ พะ เพราะว่า ในทุกวินาทีที่ผมยังอยู่ แม่บอกผมเองนะฮะ เรื่องน่าขบขันพรรค์นี้ ว่าผมได้ส่วนหนึ่งมาจากคุณแม่ และอีกส่วนหนึ่งมาจากคุณพ่อ

นั้นก็หมายความว่าในส่วนนั้นก็ถือเป็นส่วนของผมฮะ

แม่ Miles : ฟังนะ… ลูก ลูก ลูกก็คือตัวของลูกเอง และ และ

Miles : แม่ฮะ หยุดเถอะ ก็มีบางอย่างที่ผมต้องนั่งคิดนี่ฮะ แม่กับพ่อ อมเรื่องนี้ไว้ไม่ให้ผมรับรู้ แล้วตอนนี้ผมเลยต้องมานั่งทำใจยอมรับอีก

แม่ Miles : ไม่ได้อมซะหน่อย

Miles : แม่ลองถามผมสิว่าผมคิดอะไรอยู่ นี่คือสิ่งที่ผมคิด แม่ไม่ต้องมาฮึกเหิมพูดกับผมได้

ระหว่างการเปิดอกแม่ลูก Ganke เพื่อนสนิทไปก็เปิดประตูพรวดเข้ามาขัดจังหวะ


แม่ Miles : เห็นแล้วล่ะว่า เค้าไม่ได้สอนเรื่อง “การค็อกประตู” ที่โรงเรียนใหม่เลย

Ganke : โอ้ เรื่องนั้น ผมคิดว่า เค้าสอนไว้เทอมหน้าครับ ผมขอตัวคุยกับไมล์สหน่อยนะครับ

แม่ Miles : เราอยู่ในระหว่างการเปิดใจกันอยู่นะ เกร็ก

Ganke : ก็เรื่องมันสำคัญนี่ครับ

แม่ Miles : เธอสองคนก็ได้นอนอยู่ห้องเดียวกันแล้วนี่

Ganke : ก็เรื่องมันสำคัญนี่ครับ

แม่ Miles : แล้วเรื่องอะไรล่ะ ?

Ganke : เอ่อ ก็เรื่องที่มันสำคัญไงครับ

Miles : แม่ ขอตัวสัก…

แม่ Miles : ไปเหอะจ้ะ

Miles : เราคุยต่อได้หลังจากที่ผม…

แม่ Miles : เอาเหอะ

Miles : นายเป็นอะไรของนาย ?


Ganke : นายเพิ่งได้ออกทีวีแน่ะ

Miles : ฉันนี่นะ?

Ganke : ดูสิ

Miles : ว้าว เจ๋งแฮะ

Ganke : นายเพิ่งไปทำมารึ?

Miles : ช่ายแล้ว ประมาณ ครึ่งชั่วโมงก่อน

Ganke : เพื่อนเอ๊ย

Miles : ชั้นรู้น่า

Ganke : แต่ เพื่อนเอ๊ย มองดูตัวเองนี่สิ นายต้องได้รับการฝึกนะ

Miles : รู้น่า

Ganke : ฉันช่วยเรื่องนี้ได้นะ

Miles : ช่วยได้เรอะ?

Ganke : ปีที่แล้ว สตูดิโอรายใหญ่ได้ถ่ายทำหนังเรื่องสไปดี้ตัวปลอม แล้วก็มีสไปดี้ตัวจริงปรากฏตัวออกมาเข้าสู้กับอ๊อกโตพุซ ด็อกเตอร์อ็อกโตพุซ

Ganke : แล้วพวกเขาก็พังทุกอย่างเป็นราบกอง แต่ตากล้องได้ถ่ายไว้ได้ แล้วพวกเต้าก็เปลี่ยนได้เปลี่ยนจากหนังสมจริงบรรจุลงแผ่นดีวีดี

Miles : งั้นก็ของจริงรึ

Ganke เปิดแผ่นในเครื่องเน็ตบุ๊กที่เค้าพกติดตัวมาให้ดู


Ganke : นี่เป็นคลิปของจริง* ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ผู้ที่ใช้ชื่อสไปเดอร์แมนตัวจริงมาอย่างยาวนาน

Ganke : นายต้องเรียนรู้ไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองโดนฆ่าตอนออกไปสู้ นายต้องศึกษาไว้ นายต้องมองปีเตอร์ ปาร์ค เป็นเหมือนปรมาจารย์มิยากิ นาย นายต้องเป็นปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ให้ได้

และเป็นให้ดียิ่งกว่าอีกขั้น

Ganke : เพราะปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ถูกฆ่าเนื่องจากเป็นสไปเดอร์แมน นายต้องเรียนรู้ทุกอย่างจากเขา และต้องเรียนรู้อีกมากมายก่ายกอง

[*อ่านเหตุการณ์เต็มๆได้ใน Ultimate Spider-Man Volume 10. Hollywood]


ตัดมาที่ Daily Bugle Enterprises สำนักข่าวออนไลน์ชื่อดัง

เบ็ตตี้นำวิดีโอที่อัดมาได้โชว์ให้ แจมสันดู

Betty Brant : มีสไปเดอร์แมนคนใหม่ออกมาด้วยแน่ะ

Jonah Jameson : เธอได้มันมาจากไหนล่ะ นางแบร์ท?

Betty Brant : ฉันเป็นนักข่าวนะ โจนาห์

Jonah Jameson : เคยเป็นต่างหาก

Betty Brant : ให้งานเก่าคืนมาก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะมอบที่อัดไปให้คุณเอง

Jonah Jameson : ไม่ล่ะ เธอนำสไปเดอร์แมนมาหาฉันดีกว่า

Betty Brant : งั้นก็ให้งานชั่วคราวมาก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะไปลากเขามาส่งถึงที่เลยนะ

Jonah Jameson : สไปเดอร์แมนคนใหม่รึ ไม่ว่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตามแต่… คนๆนี้จะได้โด่งดังแล้วล่ะ


เรือนจำแห่งหนึ่งในเมืองแม็กซิโก

ระหว่างที่ลุงแอรอนนั่งชดใช้กรรมในคุก ผู้คุมก็ได้ส่งมื้อเช้าและหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนี้มาให้

ระหว่างที่ลุงแอรอนอ่านอยู่นั้น ก็ได้เห็นรูปสไปเดอร์แมนอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์

Aaron : เฮ้ย กลับมาก่อนนะ ไอ้อักษรนี่บอกว่ามีสไปเดอร์แมนคนใหม่ใช่มั๊ย? ใช่มั๊ยวะ? ช่วยอ่านให้กรูฟังหน่อยจะได้มั๊ย?? โว้ยยยย!! กรูอ่านภาษาแม็กซิกันไม่ออกนะโว้ยยย


โปรดติดตามตอนต่อไป

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น