สดับเรื่องราวไขว่คว้าความฝันจากเธอทำให้ฉันต้องกลับมานั่งทวนทบ พบว่าฉันเองก็เคยเป็นเช่นเธอกล่าว เคยวิ่งวนค้นหาอยู่ในสวนฝันละลานตา ดอกฝันเบ่งบานสล้าง ที่นั่นแสงตะวันส่องฉายเต็มด้วยชีวิตชีวา สะพานรุ้งทอดยาวเชื่อมโลกฝันวิจิตร ฉันทุ่มเทกายใจหวังได้ดอกฝันสวยใสไว้ครอบครอง จนวันหนึ่ง..วันที่ฉันเฝ้าคอย ดอกฝันแสนสวยแย้มกลีบละมุนอยู่ในมือ แต่ครั้นไต่ถาม "เจ้าคือความฝันของฉันใช่ไหม?" เสียงตอบกลับเป็น "อืมม์ คงใช่มั้ง!" แฝงความไม่แน่ใจ แล้วฉันก็พบว่าจิตราภรณ์แห่งความไม่แน่ใจล้วนถักทอขึ้นจากเส้นใยไม่ใช่ไปเสียทั้งสิ้น คนดีของฉัน..สุดท้ายฉันได้แต่วางดอกฝันดอกนั้นลง แล้วออกเวียนวนค้นหาต่อไป ราวกับเม็ดทรายบนชายหาด คำปลอบใจมีอยู่มากหลาย อย่างน้อยก็เป็นประสบการณ์ ทุกเรื่องราวล้วนมีคุณค่า ที่ผ่านมาหาได้สูญเปล่า และอีกหลายประโลมวลีสุดแต่จักสรร แต่คำปลอบใจก็คือคำปลอบใจ หาใช่บัญชรเปิดสู่ประทีปแห่งความเข้าใจใด มงกุฎคำปลอบประโลมเพียงมีไว้สวมเหนือใบหน้าอิ่มยิ้ม ดวงใจชื่นมื่น แต่ดวงตามืดบอด ด้วยมานะพยายาม ดอกฝันผลัดเปลี่ยนมาอยู่ในมือแต่แล้วคำตอบเป็น "ไม่ใช่!" ไปเสียทั้งนั้น คำปลอบประโลมถูกนำมาใช้จนไม่มีหลงเหลือ สิ่งหนึ่งที่ทบทวีขึ้นทุกทีแต่ฉันยังแกล้งเมินทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น วันหนึ่งเจ้าสิ่งนั้นเติบใหญ่จนฉันไม่อาจเพิกเฉยอีกต่อไป เป็นอายุขัยที่เพิ่มขึ้นพร้อมริ้วรอยแห่งวัย นั่นคือสิ่งที่ฉันได้มาและสูญเสียไประหว่างการดิ้นรนค้นหา สูญเสียอย่างไม่มีวันเรียกกลับคืน ฉันนั่งกอดเข่าคอตกอยู่ในสวนฝันที่รกเรื้อ หมดสิ้นแรงใจใฝ่ฝัน เหลือแต่ความสับสนสงสัย ทั้งสวนยังเต็มด้วยดอกฝันละลานตา หากแต่ล้วนเป็นความฝันของผู้คน ผู้คนที่ไม่ใช่ฉัน! ดอกฝันสวยใสเหล่านั้นสำหรับฉันไม่มีความหมายอีกต่อไป สายฝนโปรยเม็ด ฉันยังคงนั่งอยู่เช่นนั้น หนาวเย็นจนริมฝีปากสั่นสะท้าน ฉันเงยหน้าขึ้นร้องถาม "ใครส่งฉันเข้ามาในสวนฝันแห่งนี้!? ส่งฉันเข้ามาทำไม!?" ไม่มีเสียงตอบ "หรือต้องให้ฉันไขว่คว้าหาความฝันจนสิ้นอายุขัย!?" มีแต่สายฝนปะทะใบหน้าเจ็บเหมือนปลายเข็มทิ่มแทง น้ำตาฉันพร่าง ไม่รู้แน่ว่ามาจากแอ่งน้ำแห่งความทุกข์ระทมหรือเจ็บปวด มีเสียงย่ำเท้ามาบนโคลนเฉอะแฉะ ฉันหันมอง ชายชรา! เป็นชายชรารูปกายผอมเกร็ง นายช่างแห่งวันเวลาได้สลักริ้วรอยทั่วร่างไว้อย่างเลิศเลอ ร่องลึกยับย่นขับเน้นเด่นชัดจนไม่อาจหาผลงานปฏิมากรเอกคนใดเทียบเปรียบ ผมเผ้าไร้ทรงถูกฝนชะเปียกลีบไล้บนริ้วรอยลึกนั่น แม้ดวงตาหลังม่านผมเปะปะก็ฝ้าฟางไร้แวว แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันจะไม่มีวันลืม.. เป็นรอยยิ้ม! ยิ้มแล้วส่งมือมา ฉันมองด้วยความฉงนใจ..ไม่แน่ใจ ชายชราพยักยิ้ม ฉันยื่นมือออก มือผอมเกร็งฉุดฉันลุกขึ้น! ร่างกายผอมแห้งกลับเปี่ยมด้วยพละกำลัง! วินาทีนั้นฉันพบความฝันที่ตามหา เมฆฝนเคลื่อนพ้นผ่าน ท้องฟ้ากลับกระจ่างใส หมู่มวลบุปผาแห่งความฝันแย้มกลีบดอกรับแสงตะวันฉานฉาย มีเด็กน้อยชายหญิงเข้ามาวิ่งเล่นในสวนสะพรั่ง ฉันนั่งยิ้มมองพวกเขา คนดีของฉัน..ฉันหาได้เอ่ยถาม เพียงรำพึง.. "โตขึ้นหนูจงเป็นตัวของหนูเอง เป็นเหมือนตัวหนูในตอนนี้ สดใส เริงร่า และเต็มด้วยชีวิตชีวาเช่นนี้"
"หนูยังไม่รู้หรอกค่ะ ว่าโตขึ้นหนูจะยังคงเป็นหนูน้อยผู้มีชีวิตชีวาอย่างที่คุณปู่บอกได้หรือเปล่า เพราะหนูเองยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจคำที่คุณปู่บอก แต่ยังไงหนูก็จะพยายามทำมันให้ได้นะคะคุณปู่
ตอบลบ"เย้...ดีใจจัง คุณปู่ยิ้มแล้ว แต่เอ ฟันคุณปู่หายไปไหนหมดคะ สงสัยว่าคุณปู่คงจะกินลูกอมเยอะเหมือนหนูแน่ๆเลย ฟันถึงได้เหลือแค่นี้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เอียงหูมาใกล้ๆสิ หนูมีความลับจะบอก หนูเหลือลูกอมอยู่2เม็ด หนูจะแบ่งให้คุณปู่หนึ่งเม็ดก็แล้วกันนะคะ แต่คุณปู่ค้องอย่าทานให้คุณแม่เห็นนะคะ เดี๋ยวถูกดุ...
"คุณแม่ชอบบอกหนูว่า ถ้าหนูกินลูกอมหวานๆเยอะๆฟันหนูจะโดนแมงกิน แต่ทีนมก็หวานเหมือนกัน แม่ยังบังคับให้หนูกินอยู่ได้ แม่ไม่ยุติธรรมเลย อ๋อ หนูจำในทีวีมาน่ะค่ะ ถ้ามีใครคนนึงได้อะไรน้อยกว่าอีกคนนึง คนที่ได้น้อยกว่าจะต้องพูดว่าไม่ยุติธรรมเลย หนูนะไม่ชอบเลย โตขึ้นหนูจะเป็นคนทำลายความไม่ยุติธรรมค่ะ เริ่มจากวันนี้เลยนะคะคุณปู่ หนูจะไม่ยอมกินนม!..."
**********************************
ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่อยเปื่อยน่ะท่านดิน
ขออภัย หากทำให้ท่านหงุดหงิดกับตัวหนังที่ที่จับความไม่ได้เท่าไรของผม ไม่รู้ว่าท่านต้องการให้เม้นท์ต่อหรือไม่ (เพราะในWPท่านมักจะไม่ให้เม้นท์)
ตอนนี้ ผมก็ยังคงกำดอกฝันดอกนั้นอยู่เช่นเดิม
แต่มีหลายอย่างทำให้มันยังไม่สามารถพาดอกฝันติดตัวไปได้ในทุกที่ แต่ผมคงไม่ปล่อยดอกฝันดอกนั้นไปหรอกนะท่าน ผมรักมัน หากมันถึงคราวจะเหี่ยวแห้ง ก็ขอให้มันยังเหี่ยวเฉาคามือผมนี่แหละ
ดอกฝันของผมสวยงามเสมอ
ใครมองไม่เห็นว่าสวย แต่ผมเห็นก็แล้วกัน :]
ฮ่า ฮ่า ท่านคุณนาย ไม่มีหงุดหงิดดอกขอรับ อยากขอบคุณล่ะไม่ว่า
ตอบลบข้าพเจ้านับถือใคร่ทิ้งเข่าลงโขกศีรษะคารวะคอมเม้นท์ที่มาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวสักสามโป๊ก!
ก็ด้วยการเขียนคอมเม้นท์เช่นนี้ล่ะขอรับที่ข้าพเจ้าเริ่มต้นฝึกโยงเรื่อง เรียบเรียงความคิด จับประเด็น ปิดประเด็น และต้องกระทำให้เสร็จสิ้นในเวลาจำกัด
สำหรับท่านที่หาได้ใฝ่ใจวิชาเขียนไทย จึ่งเพียงกล่าว เออดี..ชอบ..ชอบนะ ก็เพียงพอแล้วที่จะสื่อความปราถนาดีถึงกัน
แต่ข้าพเจ้าคิดว่า กับเหล่าเราที่มีใจรักในทางรจนาการ หากทำเช่นนั้นเท่ากับว่าทิ้งโอกาสในการฝึกฝนไปอย่างน่าเสียดาย
หากสามารถใช้กล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นี้ให้เกิดประโยชน์โภชน์ผลในทางพัฒนาทักษะการเขียน จึงเป็นเรื่องน่ายินดี
ทุกวันนี้ข้าพเจ้ายังคงสรรเวลาวันละครึ่งชั่วโมงแวะบ้านสหาย ก็เพื่อฝึกฝนสิ่งเหล่านี้ล่ะขะรับท่านคุณนายที่เคารพ
คารวะ
"คุณปู่ขา คุณปู่สบายดีมั้ยคะ คุณปู่ยังดูแข็งแรงอยู่เลยนะคะ
ตอบลบ"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ คุณปู่จำหนูไม่ได้เหรอ แต่มันก็นานแล้วนี่เนอะ หนูก็คือเด็กน้อยฟันหลอผู้รักความยุติธรรมยังไงล่ะคะคุณปู่
"นั่นแน่ ยิ้มอย่างนี้แสดงว่าจำหนูได้แล้วใช่ม้า.. หนูเรียนจบแล้วล่ะค่ะคุณปู่ แต่หนูไม่ได้เป็นผู้ผดุงความยุติธรรมหรอกนะคะ ตอนนี้หนูเป็นพยาบาลค่ะ เดือนหน้าหนูก็จะได้ย้ายกลับมาอยู่ประจำที่โรงพยาบาลบ้านเราแล้วนะคะ ทีนี้พอคุณปู่ไม่สบายก็ไม่ต้องจ้างใครดูแลแล้วล่ะค่ะ
"ทำไมคุณปู่รู้ล่ะคะว่าหนูกำลังไม่สบายใจ อืม..คุณปู่ยังจำสวนฝันของคุณปู่ได้มั้ยคะ ก่อนไปเรียนมหา'ลัยหนูแอบเด็ดดอกฝันในสวนของคุณปู่ไปสองสามต้น กะเอาไว้ว่าจะเอาไปปลูกที่หอ แต่พอเอาเข้าจริงๆหนูกลับไม่มีเวลาดูแลมัน จนหนูเรียนจบก็เหลือเพียงต้นเดียวเท่านั้นเองที่ยังคงออกดอกให้หนูได้ชื่นชมอยู่เรื่อยๆ
"เมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องแปลกมากเลยค่ะ ต้นฝันออกดอกบานสะพรั่งเต็มต้นเลย หนูรู้สึกมีความสุขมากจริงๆนะคะคุณปู่ เชื่อมั้ยคะว่าว่างเป็นไม่ได้ต้องแอบกลับไปที่หอเพื่อไปนั่งมองดอกฝันอยู่ได้เป็นวันๆเลยล่ะ แถมยังเที่ยวเอาดอกฝันไปอวดใครต่อใครทั่วไปหมด แหะๆ ก็คนมันดีใจนี่นา...
"แต่ดอกฝันเหล่านั้นบานอยู่ได้ไม่กี่วันก็เริ่มเฉา เริ่มแห้ง สุดท้ายก็ไม่เหลือดอกฝันติดอยู่ที่ต้นฝันเลยสักดอกเดียว ทำไมช่วงเวลาแห่งความสุขมันผ่านไปเร็วจังเลยล่ะคะคุณปู่.. หนูพอเข้าใจค่ะ แต่ก็อดที่จะอาลัยอาวรณ์ไม่ได้
"หนูมากวนคุณปู่นานเกินไปละ หนูคงต้องขอตัวไปทำเรื่องขอย้ายที่โรงพยาบาลก่อนนะคะ คุณปู่พักผ่อนต่อก็แล้วกัน อ้อ แล้วไม่ต้องห่วงนะคะ ต้นฝันต้นนั้นหนูจะดูแลมันอย่างดีที่สุดค่ะ"
:]