9:00 น.

จานตรงหน้าว่างเปล่า ช้อนสแตนเลสนอนบิดขี้เกียจหลังสวาปามข้าวสวยแนมปลาแห้งแตงกวาเข้าไปเต็มคราบ ผมควรนำทั้งคู่ไปอาบน้ำ แต่ยังก่อน รอข้าวเรียงเม็ดสักหน่อยปะไร

เหลือบมองจอโน้ตบุ๊กบนโต๊ะ  มีชายชราแปลกหน้าอยู่ในจอนั่น

หนังตาตก ดวงตาไร้ประกายคล้ายมีต้อกระจกต้อหินต้อเนื้อเคลือบคลุมสามชั้น เส้นรอยย่นตัดร่องแก้มจากเหนือแป้นจมูกผ่านมุมปากยาวราววงแหวนรอบนอกราชพฤกษ์ตัดพุทธมณฑล แววกระตือรือล้น ก้าวร้าว อวดรู้ ถือดีของวัยหนุ่มสูญหายหมดแล้ว

ผมยิ้มทัก ชายชราในเงาจอภาพยิ้มตอบ

ไม่น่าดู

รอยย่นบนใบหน้าเพิ่มจำนวนคล้ายอมีบาแบ่งเซลล์ ดวงตาพยายามฉายแววไร้เดียงสาของทารกแต่ไม่สำเร็จ รอบจัด เจ้าเล่ห์ เชื่อไม่ได้ ผมรู้ดี!

ผมคงอคติ ช่วยไม่ได้! เราไม่อาจอ่านหนังสือหมดทั้งร้าน คงต้องเลือกจากปกกันบ้าง ดูปกแล้วรู้สึกอย่างไรจะเอื้อมหยิบมั้ย? วินาทีนั้นต้องตัดสินใจ ผมยังฉับไว ใจเร็วด่วนได้ เชื่อมั่น ยืนยันความคิดตน ผมยังหนุ่ม ผมพอใจ

คงต้องเอาเจ้าสองตัวนั่นไปอาบน้ำล่ะ

ผิวน้ำในบ่อโล้เล่นคลื่นลมเป็นระลอก พวกปลามาคอยเศษอาหาร (มันรู้เวลา) โชคดีหรือร้ายไม่รู้สิ ระลอกคลื่นน้ำคงรั้งไว้ ตาแก่นั่นไม่ตามมา ผมเห็นแต่ปลา พวกมันก็คงเห็นผม แต่เชื่อเถอะ ที่มันเห็นไม่ใช่ผม ในสายตาพวกมันผมอาจเป็นปลาประหลาดไม่มีครีบ ไม่มีหาง เป็นปลาไม่น่าคบ ป่วยการปรับความเข้าใจ เอาเจ้าสองตัวอาบน้ำเสร็จผมก็จะไปแล้ว

ปล่อยปลาอยู่ส่วนปลา ผมก็ไปตามทาง อย่างที่คุณเรียก..อะไรนะ?..ครรลอง
เราล้วนสัมผัสสัมพันธ์กันด้วยมุมแสงของตนเอง และต้องไม่ลืม..แสงหักเหเสมอ

ออกญาดิลล์


@ เส้นรุ้ง*: ขุลล์อรรถ

1 ความคิดเห็น: