By : Khun Aut Jookkru

พิ่งดู “เดี่ยว 9” จบ นึกอะไรออกหลายอย่างที่ไม่ใช่แค่ความช่างสังเกตของโน้ส แต่โน้สยังเป็นนักหยิบ Good Old Day และ Bad Old Day มาเล่าสไตล์ของเขาได้ดีทุกครั้งไป

เดี่ยว 9 ครั้งนี้สังเกตว่าโน้สเล่นกับคนดูมากกว่าทุกครั้ง อ้อ ผมรู้แล้วว่าโน้สแต่งตัวเหมือนใคร ที่สำคัญผมนึกถึงบทความที่เคยเขียนไว้เมื่อเดือนธันวาเมื่อ 4 ปีก่อน มันช่างเข้ากั๊นเข้ากันกับเวลานี้

(ปรับปรุงเล็กน้อย)

a day ฉบับ Sitcom (Situation Comedy) อธิบายไว้ว่า Sitcom คือ ตลกสถานการณ์ … แปลเป็นไทยอีกที คือ ละครที่สร้างสถานการณ์ให้คนดูหัวเราะ

พ่อมดแห่ง Sitcom ตัวจริง คือผู้ชายนายหนึ่งใส่เสื้อฟิตปั๋ง กางเกงตัวโคร่ง สวมหมวก “Battered Derby” ใส่รองเท้าหัวโต เดินควงไม้เท้าที่ทำจากไม้ไผ่ และเขาคนนั้นไว้หนวดจิ๋ม

เขาล่ะ Sir Charles Spencer Chaplin, Jr. หรือ “ชาร์ลี แชปลิน” ที่คนทั่วโลกรู้จัก

แม้ ชาร์ลี แชปลิน จะได้รางวัลมากมาย แต่รางวัลหนึ่งที่ตลกร้ายไม่แพ้เนื้อหาในหนัง นั่นก็คือ ลุงแชปลินแกเพิ่งจะได้มารับรางวัลออสการ์สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจากหนังเรื่อง Limelight ในปี 1973 หลังหนังฉายไปแล้ว 20 ปี!

ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ Limelight ไม่ได้ฉายใน LA ตามกติกาของออสการ์ และสาเหตุที่ไม่ได้ฉายใน LA ก็เพราะลุงแชปลินแกถูกสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์!

และคงเป็นเพราะในหนังขาวดำของลุงแชปลินมีฉากแกล้งตำรวจอยู่บ่อยๆ ฉะนี้นี่เอง ตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศแห่งเสรีภาพนี้ แกจึงโดนเรียกไปสอบปากคำเป็นประจำ!

Limelight ออกฉายได้ไม่นาน ลุงแชปลินแกออกเดินทางไปโปรโมตหนังเรื่องนี้ในประเทศอังกฤษ จังหวะนั้น FBI ฉวยโอกาสตัดสิทธิในการกลับเข้าประเทศเสียฉิบ แกเลยอพยพครอบครัวไปอยู่ในสวิส!

ลุงแชปลินกลับมาอีกทีเพื่อรับรางวัลออสการ์ที่ว่า ทุกคนในฮอลล์ลุกขึ้นมาตบมือให้แก ว่ากันว่านั่นเป็น Standing Ovation ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสการ์เลยทีเดียว

ลุงแชปลินแกบอกว่าแกน่าจะเกิดในกรุงลอนดอน โดยไม่แน่ใจว่าใครคือพ่อ ส่วนแม่เป็นนักแสดงจนๆ ซึ่งต่อมาเสียชีวิตในโรงพยาบาลบ้า ส่วนลุงแกเคยทำงานในคณะละครสัตว์ แกเต้นแท๊ปเก่ง และค่อยๆ สร้างชื่อเสียงขึ้นมาจนโด่งดัง

ลมหายใจของลุงแชปลินหมดลงตรงกับวันคริสต์มาสปี 1977 - 4 ปี หลังรับรางวัลออสการ์ที่ว่า

ไม่กี่ปีมานี้เองศพของแกถูกขโมยไปเรียกค่าไถ่ มีโทรศัพท์มากกว่า 400,000 สายอ้างว่าเป็นคนขโมย แถมก่อนขโมยถูกจับได้ ภรรยาม่ายวัยเกือบ 60 ของแกกลับกลายเป็นผู้ต้องสงสัย!

ถ้าลุงแชปลินยังอยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าแกจะคิดอย่างไร จะเหมือนกับที่แกเคยพูดไว้อย่างนี้ไหม ...

That is why, no matter how desperate the predicament is, I am always very much in earnest about clutching my cane, straightening my derby hat and fixing my tie, even though I have just landed on my head.

“นั่นเป็นเหตุผล ไม่ว่าฉันจะหดหู่ท้อแท้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสักแค่ไหน ฉันยังทุ่มเททำงานแสดง กำไม้เท้า กระชับหมวกเอาไว้ และดึงเนคไทแน่นอยู่เสมอแม้ว่าชีวิตทำฉันมึนสักแค่ไหน”

วันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงนี้ หากชีวิตของคุณไม่มีความสุขนักไม่ว่าจะมีสาเหตุจาก Situation อะไรก็ตาม ลองนั่งนึกถึงลุงแชปลินดู บางทีคุณอาจพบว่าช่องว่างระหว่างความทุกข์ ... จะมีความสุขซ่อนตัวอยู่เสมอ

ขุนอรรถ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น