รอยแต่ง
ปล่อยอารมณ์ให้ห่มฟ้ามานานเนิ่น วีถีท่านผ่านตาทุกคราค่ำ ฝากถ้อยร้อยวจี…ถึงพี่ท่าน ยังเวียนว่ายหมายมองเหล่าผองเพื่อน ด้วยความเคารพขอรับ คั่นฯ รอยแต้ม ..เขียนถึงท่านคั่นผู้…ผ่านมา ..ห่างไปคงแน่แท้….ทำงาน ..เคียงบ่าเคียงไหล่เร้า..ร่วมเดิน ..ขอบูรพกวีป้อง…...ท่านเทอญ ธุลีดิน
บรรจงเดินทีละย่างอย่างสุขุม
ปลดวิถีที่ร้อนแรงแสงไฟรุม
มาเดินดุ่มทอดกายถึงชายเรือน
จึงน้อมทำมานำจิต,คิดให้เหมือน
ผมมองฟ้าทุกคราคราวดาวแต้มเดือน
มิให้เลือนบทกวี ที่คุ้นคำ
หายไปนานใช่ผ่านลืมเคยดื่มด่ำ
ใช่ห่างหายคลายรสบทเคยพร่ำฯ
เพียงริทำการใหญ่ ให้รู้ดี(นั่น พูดซะเว่อร์ อิอิ)
แต่เพียงเยื่อนแล้วหลบเล้นเผ่นหนี
ไม่ใช่อะไรหรอกครับพี่ดินดี(ขอยืมคำแม่กีฯ หาคำลงไม่ได้ขอรับ)
เพียงผมมีช่วงจำกัด ให้หัดเขียน
ฝากแคร่อักษรา……..ใฝ่เฝ้า
จารอักขระรจนา……..เจียมจิต เจียระไน
นานเนาว์อยู่ค่ำเช้า….เชิงเช่น ประพันธกร ฯ
ไกลห่างก็หาลาน…..ห่อนล้ม
ยังคงผจงจาร……....พจีถ้อย นาท่าน
กายห่างเพียงใจโน้ม…แทบเท้า พจนา ฯ
ฟันฝ่าอุปสรรคเผชิญ…..ต่อสู้
เสพรสวิเศษเพลิน……..เพลิศแพร้ว ภัสมะกวี
สืบใจสืบกายกู้……......กอบเกื้อ กวีสมัย ฯ
จงมุ่งทางจำเริญ…...รุ่งฟ้า
สำเร็จสรรพกิจเชิญ…การใหญ่ กล่าวมา
บำเรอบำรุงหล้า…....เลิศแล้ว หทัยไท ฯ