เกาะลันตา

เรือเฟอร์รี่เข้าเทียบท่า..

เอาล่ะสิ!

รถคันที่มาเยือนเกาะครั้งแรกกลายเป็นคันแรกที่ต้องขึ้นจากเรือ ไม่รู้จะวิ่งไปทางไหน  เลี้ยวตรงไหน  ผมเคลื่อนรถขึ้นฝั่ง  ใจประดักประเดิกจะชลอให้คันหลังแซงดีไหม? ขืนทำอย่างนั้นคันตามมาต้องรู้แน่ว่าผมเป็นกะเหรี่ยงหลงทาง อย่ากระนั้นเลยเพื่อรักษามาดไว้  ขับดูป้ายไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน!

มองกระจกหลังมีรถต่อท้ายขบวนยาวเป็นงูเหลือม  ขับเร็วก็กลัวอ่านป้ายไม่ทัน จะขับช้ารึก็กลัวเสียมาด  บรรยากาศบนเกาะเป็นหมู่บ้านชนบทสองข้างทางล้วนนาข้าว ดูแปลกตาเพราะคาดหมายว่าจะเจอแนวเนินเขาสูง ๆ ต่ำ ๆ อย่างสมุย  ผมขับพลางสายตาสอดส่ายมองหาป้ายอุทยานแห่งชาติ ฯ

มาได้สักพักเจอป้าย "อุทยานฯ เลี้ยวซ้าย"  เหลียวดูเห็นถนนลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อ ผมลังเล แต่วินาทีนั้นต้องตัดสินใจ  ผมเลือกตรงไปคิดว่าอาจเป็นแยกหน้า  พอขับเลยแยกมองกระจกหลัง  รถที่ตามมาทั้งหมดเลี้ยวเข้าถนนลูกรังเส้นนั้นกันเป็นขบวน อา..ผิดทางแน่แล้วเรา..

ผมกลับรถ! 

ที่สุดกะเหรี่ยงหัวแถวก็มาต่อท้ายขบวน

ถนนลูกรังเป็นหลุมบ่ออย่างเหลือเชื่อ! แต่รถประจำถิ่นวิ่งฉิวเหมือนเป็นถนนลาดยาง  ผมค่อยคลานขณะรถมาข้างหลังแซงไปทีละคัน (มันจะรีบไปไหนของมัน--ผมงึมงำ) 

จนสุดทางจึงเข้าใจ

เจอขบวนรถที่มาก่อนหน้าจอดต่อแถวยาวเหยียด  พวกเขาเร่งกันมาลงเรือข้ามฟากอีกลำนี่เอง  หากไม่ทันก็ต้องรอลำถัดไป  ผมเหลือบมองตั๋วที่เหลือ--อย่างนี้นี่เองจึงได้สองใบ

แผนที่ทางหลวงยังไม่รู้เลยว่า  “เกาะลันตามีสองเกาะ!”

ขึ้นจากเรือเฟอร์รี่คันแรกผมเข้าต่อแถวเป็นคันเกือบสุดท้าย  นั่งกระดิกเท้าร้องเพลงของก็อต จักรพรรณรอเวลา ดูแปลกดีที่ต้องลงเรือ ๒ ครั้ง 

“ไม่มีที่ไหนเหมือนอีกแล้ว!”

(มีต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น