สวัสดีหญิงสาวจากดาวสีน้ำเงิน

ดาวที่ฉันอยู่เป็นอย่างไร ฉันตอบเธอง่าย ๆ ว่าเป็นดาวที่เต็มด้วยถนนหนทาง บนถนนปูด้วยตัวอักษรละลานตา ทอดยาวจนสุดขอบฟ้า มีผู้คนเดินทางสัญจร มีเพิงพักข้างทางเป็นระยะ เพิงพักเล็ก ๆ แต่หากเดินเข้าภายใน จะพบทุกอย่างที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ บาร์เหล้า กระทั่งสปาสำหรับผ่อนคลายความอ่อนล้าจากการเดินทาง 

บางเพิงพักเต็มด้วยผู้คน บางเพิงก็เปล่าร้าง เพิงที่คนนิยมใช้บริการคือเพิงความรัก มีกุหลาบแดงเสียบไว้ที่ประตูรูปหัวใจเป็นสัญลักษณ์ หลายคนเดินทางด้วยความมุ่งมั่น แต่ครั้นก้าวเข้าในเพิงความรัก มักเงียบหายไป พวกที่กลับออกมาล้วนมีหน้าตาอิดโรย อมทุกข์ อย่าได้ถามฉันเลยว่าภายในนั้นเกิดอะไรขึ้น หรือฉันเคยเข้าไปหรือไม่?

ยังมีเพิงหน้าที่และความรับผิดชอบซึ้งล้วนเป็นคล้ายด่านทดสอบผู้เดินทาง

มีบ้างบางคนไม่สามารถออกจากเพิงพักจำยุติการเดินทางโดยปริยาย

แต่นั่นก็หาใช่ชัยชนะหรือความพ่าย ในโลกของฉันเราไม่มีถ้อยคำเหล่านี้ เราเพียงเลือก เลือกที่จะคิด จะกระทำ และตัดสินใจ

โลกของฉันมีมหาสมุดใหญ่ เป็นมหาสมุดที่เต็มด้วยสมุดและหนังสือ นักเดินทางขณะแล่นเรือสามารถคว้าหยิบขึ้นมาอ่าน บ้างหาความรู้ บ้างหาความบันเทิง

บนท้องฟ้ามีนกกระดาษพิมพ์ใช้แล้ว เมฆกระดาษรูปร่างหน้าตาต่าง ๆ ล่องลอยอยู่ไปมา บางครั้งก็ตกลงมาเป็นตัวอักษรช่วยจุดประกายความคิดใหม่ ๆ ให้เหล่านักอักขระสัญจร

ต้นไม้ของที่นี่มีลำต้นเป็นดินสอปักปลายลงในดิน ข้างใต้นั่นคงเต็มด้วยแร่ธาตุจินตนาการ เพราะผลไม้ที่เราเด็ดกัดกินสองข้างทางให้รสชาติที่วิเศษเป็นเลิศ เหมือนได้ท่องไปยังอีกดินแดนแสนไกล ดินแดนที่ยังไม่เคยมีผู้ใดสำรวจมาก่อน แต่ต้องระมัดระวังจงดี มีบ้างผลไม้บางชนิดทำให้จินตนาการสะดุด ถึงกับคิดอะไรไม่ออก คงเป็นสัจธรรมทุกสิ่งย่อมมีสองด้านในตัวเอง เราเพียงรู้ระมัดระวัง รู้เลือก เลือกอีกแล้วสินะ อาจบางทีสิ่งเดียวที่ผู้คนบนโลกของฉันมีคือ เลือก

เหมือนกับการได้พบกับเธอ

ฉันตระหนักแต่แรกว่าเวลาที่จะต้องสูญเสียเธอเดินทางมาเคาะประตูแล้ว

หากเราคนใดคนหนึ่งเพียงมองอีกคนจากที่ไกลแล้วเดินจากไป การจากย่อมไม่เกิดขึ้นเนื่องเพราะการพบยังไม่อุบัติ การจากที่ไร้ความรู้สึกหรืออารมณ์ใด ๆ แผ้วพาน ย่อมมิใช่การจาก เป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งบนถนนสายชะตา เมื่อเธอสวนทางกับคนแปลกหน้า ณ วินาทีนั้นเธอคงไม่เรียกว่าพบและจาก

เธอนั่งดื่มกาแฟอยู่ในร้านแห่งหนึ่ง โต๊ะชิดบานกระจกมองเห็นถนนหนทางข้างนอกแจ่มชัด ผู้คนสัญจรไปมาบนทางเท้า เลยไปนิดเป็นสี่แยกไฟแดง คนกลุ่มหนึ่งกำลังข้ามถนนมาฝั่งเธอนั่ง

แต่แล้วมีรถเก๋งสปอร์ตแล่นฝ่าไฟแดงโดยเร็ว พุ่งชนชายคนหนึ่งกระเด็นตกบนทางเท้าตรงกับเธอ เลือดไหลเป็นทาง ดวงตาชายคนนั้นเบิกกว้างเมื่อเห็นเธอ เป็นแววตาของความอ้างว้างและรอคอย เขาไม่ขยับ ได้แต่ส่งสายตามองเธอค้างอยู่อย่างนั้น แววตาที่เลื่อนลอย

ส่วนเธอเล่า..เป็นธรรมดาคงต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดตรงหน้า จ้องมองชายแปลกหน้าคนนั้นด้วยความสงสาร และต้องรีบเบือนหลบไม่อาจทนดูสภาพของเขา ภาพยังคงติดตาแม้กลับถึงที่พัก

เมื่อถึงที่พัก เธอเปิดตู้จดหมาย หยิบจดหมายในตู้ ที่พักเป็นบ้านเช่าสีขาวมีสะพานยื่นไปในทะเลสาบ เธอเพิ่งมาเช่าอยู่เพื่อหลีกหนีสังคมผู้คนวุ่นวาย

วันหนึ่งเมื่อเปิดตู้จดหมายพบจดหมายของชายหนุ่มคนที่ย้ายออกจากบ้านหลังนี้ก่อนเธอเข้าอยู่ เธอนึกสนุกเขียนตอบเขาแล้วใส่ไว้ในตู้ วันต่อมา พบจดหมายตอบ จากนั้นเธอทั้งสองก็เขียนจดหมายถึงกัน ทั้งที่อยู่ในเวลาเหลื่อมซ้อน

เธอวางข้าวของ เปิดซองจดหมายออกอ่าน แต่แล้วดวงตาต้องเบิกโพลง เขาบอกว่าจะมาหาเธอที่ร้านกาแฟเธอนั่งประจำ หรือจะเป็นชายคนนั้น เวลาของเขาอยู่ก่อนหน้าเธอ  หากเป็นเช่นนั้น เหตุการณ์นั้นยังไม่เกิดในเวลาของเธอ เธอยังมีเวลาหยุดเขาไม่ให้ข้ามถนน เธอจะต้องรีบไป..

เธอจะหยุดเขาทันหรือไม่?

หากเธอทำไม่สำเร็จ

เมื่อเธอจ้องมองไปที่แววตาคู่นั้น เธอจะไม่เบือนหลบ เธอจะวิ่งไปประคองเขา พาเขาส่งโรงพยาบาล ฉากเรื่องราวจะต้องเปลี่ยนไป หยาดน้ำตาเธอจะอยู่กับเขาจนลมหายใจสุดท้าย

ฉากหลังคือการพรากจาก แต่ฉากแรกคือปรากฏการณ์ของชะตา ฉากแรกเขาคือคนแปลกหน้า แต่ฉากหลังเขาคือคนคุ้นเคยที่เธอต้องการพบเจอ

ทั้งสองเป็นคนเดิม ต่างกันเพียงพบพาน

เมื่อพบพานทั้งรู้ว่าต้องเจอกับโศกเศร้าของการพราก ฉันยังเลือกที่จะพบพาน เลือกที่จะยิ้มรับอาดูรยามพรากจาก เนื่องเพราะในโลกของฉัน สิ่งสูงค่าคือ 'ความทรงจำ' ความทรงจำที่จะเป็นเสมือนน้ำทิพย์หล่อเลี้ยงโลกจินตนาการให้ดำรงคงอยู่ ไม่หลุดเลื่อนลอยไปโดยไร้ทิศทางและจุดหมาย

เมื่อเวลาพรากมาเยือน ขอเพียงมั่นใจว่า..ได้ผ่านช่วงเวลาพบพานมาโดยงดงาม เท่านี้ฉันคงหลั่งน้ำตาพรากด้วยความสุขใจ

คิดถึงและรัก
นักเดินทางบนดาวสีดิน
ปลายร้อน ๒๕๕๒

Character from 'ilmaley' Korea Movie.

@ จดหมายจากดาวสีน้ำเงิน: ถึงเธอเพื่อนใหม่

6 ความคิดเห็น:

  1. ฮัลโหล เทสต์..เทสต์..

    ท่านเจ้าของบ้านที่เคารพช่างดิลล์อยู่ป่าว? ฝากท่านบอกช่างดิลล์ด้วยนะเจ้าค่ะหากช่างดิลล์พอจะมีเวลาว่างสักเล็กน้อยรบกวนเรียนเชิญที่สำนักสักนิดเถิด ไปดูกล่อมกลอนให้ที

    ด้วยความเคารพ

    ป.ล.๑ เห็นจดหมายที่สอดไว้ในบันทึกแระ เดี๋ยวใจไปนั่งอ่าน ไม่รู้เพื่อนใหม่จะตอบมาว่าไงมั้งน้า..

    ป.ล.๒ ข้าเจ้าว่ากล่อมกลอนอันก่อน อ่านกี่ทีกี่ทีมันก็ดูขัดทุกทีเลยนะทั่น เดี๋ยวจะรื้อเขียนใหม่

    ป.ล.๓ เมื่อวานประมาณบ่ายสองบ่ายสามแวะเข้าไปดูไชยาตัวอักษรโอเคแล้วเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าท่านปรับใหม่ หรือคอมฯที่ข้าเจ้าใช้มันลักกะปิดลักกะเปิดกันแน่

    ขอท่านสำเริงใจในบรรยากาศการเขียนนะเจ้าคะ

    ตอบลบ
  2. สายสวัสดิ์ท่านดิลล์

    ตกลงว่าท่านย้ายกระท่อมอีกแล้วหรือ?
    กระท่อมหลังใหม่ หน้าตาน่ารักน่าอยู่มิใช่น้อย
    และยินดีด้วยนะขอรับกับรางวัล (ทางจิตใจ)

    อีกไม่นานนัก กระผมคงได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างที่ปรารถนาอีกครา ที่บ้านไร่เชิงดอย
    ...ใกล้เต็มแก่แล้วกับการบรรลุภารกิจเบื้องต้น
    แหม่ แค่คิดก็ใจเต้นระรัวแล้ว 555

    หวังว่าปลายปีนี้ ที่บ้านเล็กหลังนั้น คงจะได้เปิดต้อนรับเหล่ามิตรสหายที่ใคร่สัมผัสลมหนาวตามวิถีของฤดูและชีวิตบ้านนอก ด้วยความยินดี

    คารวะด้วยความคิดถึง
    สหายชายรั้วทิศเหนือ :)

    ตอบลบ
  3. อ้าว..ทั่น ข้าพเจ้าเลยเปลี่ยนธีมซะละ ไม่คอยชอบใจธีมเพราะตัวหนังสือไม่สวย แต่ไม่มีให้เลือก (ข้อจำกัดของ WP น่าเบื่อตรงนี้ล่ะขะรับ) อย่างไร..ข้าพเจ้าจะเปลี่ยนกลับ เพราะตัวหนังสือของธีมเก่า (ตอนไม่เป็นตัวเล็ก)ขนาดสวยงามดี

    รบกวนแจ้งผลอีกทีนะขอรับ

    ส่วนกล่อมกลอน ขออย่าได้วิตกกังวล งดงามดีแล้วจริง ๆ ลายกลอนท่านยามนี้ไม่ต่างเรือลงจากอู่ ชักใบออกทะเลเป็นที่เรียบร้อย จะตั้งเข็มไปทิศทางใดขึ้นอยู่กับต้นหนแล้วล่ะขะรับ

    หากต้องการปรับแก้ ข้าพเจ้าย้ำความเห็นเดิม ขอท่านละเอียดละออกับสัมผัสในเพิ่มขึ้นอีก หากใช้ทุกวรรคได้ยิ่งเป็นการดี (มองในแง่ฝึกฝน) หลังจากอยู่มือแล้ว เราย่อมเลือกได้เองว่าตำแหน่งใดจะเจตนาละสัมผัส

    จากนี้ไปนายช่างดิลล์ไม่ต้องซ่อมบทกลอนแล้ว สำเภากลอนท่านท่องทะเลเป็นที่เรียบร้อย ที่เหลือก็ได้แต่ติดตามท่านไปแล้วล่ะขะรับ

    ท่านอิ่มสหายริมรั้ว! ต้องมีสักวันข้าพเจ้าจะไปอาศัยบ้านท่านนอนเขียนหนังสือ ต้องมีสักวัน..ต้องมีสักวัน..

    คารวะ

    ตอบลบ
  4. อ่านแล้วใจหาย ทั่นจะให้ข้าเจ้าบินเดี่ยวแล้วเหรอ? ชั่วโมงบินข้าเจ้าเพิ่งจะแค่จี๊ดเดียว เกิดพลาดท่าเสียทีตกลงมาปีกหักนาทั่น ไม่เป็นห่วงกันบ้างเหรอ?

    แต่เอาเถอะ ในเมื่อเค้าตัดสินใจจะทิ้งเราได้ลงคอ เราคงไม่อ้อนวอนอะไรมากมาย นอกจากก้มหน้าก้มตา เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า...ฮือ..ฮือ.. ลาแล้วหนาบ้านเก่า...ฮือ..ฮือ..

    คารวะ

    ปล.ตัวอักษรในไชยา แจ่มแหว่มแล้วเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  5. ธ่อ..ก็บอกแล้วไงว่าจะติดตาม ท่านจะเก็บกระเป๋ายัดใส่เสื้อผ้าไปหนาย..

    แท็งค์กิ้วสำหรับแจ้งผลไชยาขะรับ

    คารวะ

    ตอบลบ
  6. สวัสดีเพื่อนใหม่ผู้อยู่ไกลถึงดาวสีดิน

    ไม่นึกไม่ฝันว่าฉันจะได้รับจดหมายจากเธอ มันพิสูจน์ให้เห็นว่าระยะทางไม่มีผลต่อความตั้งใจของเรา

    เรื่องราวบนดาวของเธอน่าสนใจจัง ฉันตื่นเต้นมากมายเชียวล่ะ ตัวอักษรของเธอทำให้จินตนาการของฉันโบยบินไปไกลจนนึกอยากเห็นนกกระดาษบินว่อนเต็มท้องฟ้า อยากคว้าเมฆกระดาษที่ลอยฟ่องเหล่านั้นมาปั้นฝันรูปร่างตามใจปรารถนา อยากท่องไปในมหาสมุดใหญ่โตที่เธอกล่าวถึงมองดูหลากหลายความฝันของนักเดินทางคนอื่น ไม่แน่ อาจมีสักความฝันในหลายหลากฝันเหล่านั้นช่วยจุดประกายไฟฝันของฉันให้คุโชน หรืออย่างน้อยก็ช่วยหล่อเลี้ยงไฟฝันของฉันให้ส่องแสงอยู่ต่อไปแม้เพียงริบหรี่อย่าเพิ่งมอดดับไปขณะที่ฉันยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย

    ฉันอยากเห็นถนนหนทางที่ปูด้วยตัวอักษรละลานตา เดินย่ำเท้าไปเรื่อยๆ และถ้ามีแรงพอทำได้ฉันจะเดินไปให้สุดขอบฟ้า

    ฉันอยากเห็นเพิงพักเรียงราย ทั้งเพิงความรัก เพิงความหวัง เพิงกำลังใจ เพิงโชคชะตา ฉันจะเข้าไปเยี่ยมชมให้ครบทุกเพิงเชียวล่ะ แต่แย่ตรงที่ฉันเกลียดเพิงหน้าที่และความรับผิดชอบ ถ้านี่คือด่านทดสอบจริงๆ เห็นทีฉันคงซี๋แหงแก๋ตั้งแต่หน้าประตูโดยไม่มีโอกาสยื่นฎีกาขออุทธรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ฉันเคยพยายามฝึกฝนตัวเอง ใช้ทั้งวิริยะและอุตสาหะ แต่ล้มเหลวไม่เป็นท่า ถึงทุกวันนี้ฉันก็ไม่เคยทำสำเร็จ

    อ้อ ฉันอยากเห็นต้นดินสอปักปลายลงดินด้วยล่ะ ไส้ดินสอต้องทำหน้าที่เป็นรากแก้วแน่ๆ พูดแล้วก็อยากกัดกินผลไม้รสเลิศจากต้นดินสอขึ้นมาแล้วสิ หลังจากนั้นเราค่อยจูงมือท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ด้วยกัน ว่าแต่เธอแน่ใจนะว่าผลไม้ที่ว่านั่นกินเข้าไปแล้วจะพาเราท่องไปในดินแดนที่ยังไม่มีใครสำรวจจริงๆ หรืออย่างร้ายเพียงแค่ทำให้จินตนาการสะดุด ฉันเกรงแต่จะมีผลไม้ต้องคำสาปเหมือนสวนอีเดนหลงอยู่ด้วยน่ะสิ ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันไม่เอาด้วยนะ ฉันยังไม่พร้อมเป็นอีฟ

    สุดท้ายฉันก็อยากเห็นทุกอย่างที่เธอเขียนถึงนั่นแหละ

    เธอยกตัวอย่างเรื่องการพบพานและปรากฏการณ์โชคชะตาทำให้ฉันนึกสงสัย เธอจัดความสัมพันธ์ของเราไว้ในประเภทไหน? พบพานผูกพันหรือเพียงปรากฏการณ์โชคชะตาธรรมดาที่บังเอิญเธอได้รับจดหมายจากฉันและนึกสนุกตอบกลับ คิดอีกทีเราก็เหมือนตัวละครในเรื่องที่เธอเล่า(เธอตั้งใจหรือเปล่า?) เพียงแต่กลับกันที่ฉันเป็นฝ่ายสุ่มเสี่ยงส่งจดหมายมาหาเธอก่อน แทนที่จะเป็นเธอซึ่งถ้าเปรียบกับตัวละครในเรื่องก็คงรับบทเป็นพระเอก

    ฉันไม่น่าถามอะไรโง่ๆ เลยนะ ในเมื่อเธออุตส่าห์ตั้งใจเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังเธอก็ต้องให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของเราอยู่แล้วล่ะ แม้จะเพียงเริ่มต้น ฉันจะไม่สงสัยอะไรสำหรับเรื่องนี้อีก

    ฉันชอบประโยคนึงจังเลย ‘หยาดน้ำตาเธอจะอยู่กับเขาจนลมหายใจสุดท้าย’ นั่นสิ เมื่อความผูกพันผูกมัดเราไว้กับใครคนหนึ่งสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือเหนี่ยวรั้งเค้าไว้ให้อยู่กับเรานานเท่านาน นานเท่าที่ความสามารถจะมี ...เราก็ทำได้ดีที่สุดเพียงเท่านี้

    เมื่อเวลาพรากมาเยือน ยิ่งได้ผ่านช่วงเวลาพบพานมาอย่างงดงาม ฉันยิ่งไม่มั่นใจเลยว่าจะทำใจยอมรับมันได้?

    ขอบคุณที่ตอบจดหมายกลับ มันทำให้ทุกตัวอักษรของฉันมีความหมาย


    ปรารถนาให้เธอมีความสุขทุกวัน
    เพื่อนของเธอ
    ฤดูร้อนอันยาวนาน ๒๕๕๒

    ตอบลบ