ความสุขของฉัน
หมุนรอบตัวเอง
มีสัตว์รูปร่างหน้าตาต่าง ๆ
โยกโยนไปมา
มีเด็ก ๆ นั่งเกาะแน่น
บางครั้งอ้าปากหวอ
บางคราสายตาฉงนกังวล
บางทีหัวเราะร่า
เด็ก ๆ ผลัดเปลี่ยนขึ้นลงไปมา
ฉันยังคงหมุนรอบตัวเอง
หมุนไปเรื่อย ๆ อยู่ตรงนี้

9 ความคิดเห็น:

  1. หวัดดีท่านดินที่เคารพ

    โผล่มาแจ้งข่าว ร่อนต้นร่างนิยายฝากเปลวแดดเดือนเมษาฯ ไปแล้ว (อากาศร้อนจริงๆ แทบตับไหล) ข้าเจ้าลองส่งแบบติดแสตมป์ธรรมดาไปไม่แน่ใจจะถึงป่าว ถือโอกาสพิสูจน์การทำงานของไปรษณีย์ไทยด้วย พี่เจ้าหน้าที่รับซองไปแป๊บนึงก็เงยหน้าขึ้นมาดูหน้าข้าเจ้า พร้อมกันนั้นก็อมยิ้มน้อยๆ สงสัยอยู่ตั้งนานว่าพี่แกอมยิ้มอะไร จะมีเขางอกมาบนหัวเรารึก็เปล่า หน้าตาเราตลกหรือ? ก่อนออกจากห้องก็ส่องกระจกดีแล้ว เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าข้าเจ้าใส่ชื่อผู้ส่ง 'ธุลีดาว' ผู้รับ 'ธุลีดิน' สงสัยเพราะเหตุนี้กระมัง

    คารวะ

    ตอบลบ
  2. เออนะ..แค่ชื่อเดียวก็ชวนฉงนใช่หยอก เหล่านายปณ.ระโนดแรกเห็นยังถามซ้ำ "ชื่อเพ่เรอะเนี่ย!?"
    ปะสองชื่ออยู่ด้วยกัลล์คงชวนอมยิ้มแก้มตุ่ย ครานี้เจ้าพวกนายปณ.ก็คงไม่ยกเว้น

    ส่งธรรมดาดีแล้วขอรับ ไม่อยากให้ลงทะเบียนสิ้นเงินสิ้นทองเลย ข้าพเจ้าลองแล้วถึงพร้อมกันโดยสวัสดิภาพ

    ขอบพระคุณท่านมั่ก ๆ

    คารวะ

    ตอบลบ
  3. สวัสดีครับท่านดิน
    ยังจำผมได้อยู่หรือเปล่าหว่า ผม..นายหมูตุ้ยเองครับ
    ไม่ได้มาเยี่ยมเยียนท่านเสียนานเลย ท่านสบายดีนะครับ?
    ท่านยังคงตั้งอกตั้งใจอยู่กับสิ่งที่ท่านเคยบอกผมว่า
    บางทีก็ทำท่านทดท้อกับชีวิต บางทีก็ทำท่านหัวใจพองโต
    ท่านยังคงอยู่กับการเขียน..
    ยินดีด้วยกับรางวัลนะครับ (เห็นตรงหัวบล็อก)
    ไม่รู้ว่านานเท่าไรแล้ว แต่ก็ดีใจด้วยจริงๆ
    แหม้..ไม่ได้เขียนเสียนาน เลยไม่รู้จะเขียนอะไรให้มันสละสลวย
    ก็เอาเป็นว่า ขอแวะมาเยี่ยมเยียนท่านก็แล้วกันครับ

    ก่อนไป ขอฮัมเพลงพี่เบิร์ดให้ฟังซักนิดนะครับ

    จะได้ไม่ลืมกัน โว้ว โวววว...

    ไปละท่าน
    นายหมูตุ้ย

    ตอบลบ
  4. ท่านคุณนายขอรับ

    ในกระบวนสหายหมู่บ้านเวิร์ดเพรสยามนั้นเห็นจะมีก็แต่ลายอักขระท่านที่ส่งเค้านักประพันธ์

    ผู้คนทั่วไปมักคิดอะไรก็เขียนออกมา แค่แปรกระแสไฟฟ้าคลื่นสมองเป็นตัวอักษรก็สาหัสเอาเรื่องแล้ว แต่การทำแค่นั้นเป็นเพียงเขียนหนังสือที่ใคร ๆ ก็ล้วนเขียนได้ แต่ท่านคิดอีกตลบ แทนที่จะกล่าวออกมาโต้ง ๆ ท่านแปลงเป็นเรื่องราว เกิดสีสันของการบอกเล่า ทักษะเช่นนี้ใช่เกิดขึ้นโดยง่ายแต่สำหรับบางท่านเกิดโดยไม่ตั้งใจ คือสิ่งที่ถูกเรียกว่า 'พรสวรรค์'

    ข้าพเจ้าเสียดายที่ท่านหยุดเขียน แต่ก็เข้าใจเต็มหัวใจ ในระหว่างหนทางค้นหาผ่านวัยเวลาชีวิต เรายังต้องจับและวางจับแล้ววางจนกว่าพบตัวตนเที่ยงแท้

    'พรสวรรค์'ของท่านไม่ได้หายไปไหน ยังรอการเติบโตอยู่ในวิธีคิดของท่าน หวังท่านจะใช้ให้เต็มที่ ไม่ว่าด้วยงานใด พัฒนาหน่ออ่อนทักษะตรงนั้นให้กลายเป็นไม้ใหญ่ให้ดอกผลต่อสังคมที่เราอยู่อาศัยนะขอรับ

    ขอบพระคุณที่ยังคิดถึงกัน

    คารวะ

    ตอบลบ
  5. แอบอ่านสมุดบันทึกคนอื่นหน้าไม่อายสวัสดิ์เจ้าค่ะ

    ข้าเจ้าเพิ่งเปิดปากกะตูไว้เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมานี่เอง เมื่อก่อนจำกัดสิทธิ์ผู้เข้าถึงเฉพาะผู้เขียน ถ้าท่านมือซนก่อนหน้านี้สักสิบวันคงไม่ได้ปะ

    ทำไว้ก็ไม่ใช่อะไรหรอกเจ้าค่ะ จะรวบรวมงานตัวเองเก็บไว้ ข้าเจ้ามีสมุดที่เป็นสมุดจริงๆ เก็บรวบรวมกลอนของตัวเองไว้ในนั้น แต่พอเขียนไปมันไม่เพียงแต่กลอนอย่างเดียวที่เราเขียนและอยากเก็บไว้ จึงเป็นที่มาของบันทึกออนไลน์นี่แหละเจ้าค่ะสะดวกดี ไม่ต้องคัดลอกให้เมื่อยตุ้ม ส่วนพวกกลอนก็เก็บไว้ในบันทึกกระดาษด้วย

    เรื่องขอนำฟีดมาลิ้งก์นั่นประชดกันหรือเปล่าเจ้าคะ? ถ้าไม่ประชดกันก็ต้องเหน็บกันแน่ๆ ก็ข้าเจ้านำฟีดท่านไปลิ้งก์อยู่โต้งๆ เอาฟีดมาลิ้งก์กับเอา 'ด.ดินการช่าง'ไปตีแผ่มันไม่เหมือนกันนะเจ้าคะ

    ลิงก์ฟีดตามสบายเลยเจ้าค่ะ

    สงสัย nav.tab คืออะไรอ่า? ไม่รู้จัก

    คารวะ

    ปล.สองวันที่ผ่านมาเขียนนิยายได้ครึ่งหน้า เป็นการเดินทางที่..เฮ้อ..ไม่อยากจะพูด

    ตอบลบ
  6. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  7. ข้าไม่คุ้นเคยเลยท่านดิน บ้านหลังใหม่ของท่าน

    ไม่รู้ว่าข้าจะเจรจากับท่านได้หรือเปล่า

    แต่ให้ท่านดินธ์ไปงอลไว้ที่บ้านพี่แตะ

    เลยอดที่จะตามมาไม่ได้ ตอนนี้บ้านข้าได้ปัดกวาดอยู่เรื่อยๆ

    ถ้าท่านพอจะมีเวลาพอก็แวะไปทานน้ำได้น่ะครับ

    ชายกลาง

    ตอบลบ
  8. อย่าว่าแต่ทั่นเลยท่านชาย ข้าพเจ้าเองยังเดินเตะโน่นสะดุดนี่หน้าคะมำวันละไม่รู้กี่ที แล้วจะแวะดื่มน้ำบ้านท่าน กาแฟบ้านท่านแตะ โอยัวะบ้านพี่ทั่นขุลล์ ขนมจีนบ้านท่านเอี้ยง..(พุงกางกลับขนำไม่ถูกกันพอดี)

    ได้เห็นเหล่าท่านครึกครื้นขีดเขียนกันเป็นที่สำเริงสำราญบานหทัยก็ให้ยินดี ขอบพระคุณที่แวะเยี่ยมเยียนขอรับท่านชาย

    -ชายน้อย-

    ท่านคุณพระที่เคารพรัก

    ไม่ได้ประชดนะเจ้าคะ (แค่ประชันนิดหน่อย) ครั้งเจอท่านจินนี่เราคุยกันเรื่องบล็อก ท่านจินนี่ไม่เห็นความจำเป็นที่จะเปิดบล็อก 'คิดเหมือนท่านสายเลยแฮะ' ข้าพเจ้าคิด ฟังเหตุผลท่านจินนี่แล้วก็ไม่เห็นความจำเป็นจริง ๆ นั่นแหละ ข้าพเจ้านั่งฟังพลางพลิกตำรา ๓๖ กลยุทธซุนวูพลาง 'จะงัดไม้ไหนดีน้อ..' นั่งฟังโดยสงบเสงี่ยมไม่ได้งัดค้านท่านจินนี่แม้คำ (ขืนทำก็ผิดกระบวนยุทธ์นะสิ) แต่ในใจนั้นจ้องหาไม้คานเป็นระวิง

    รอจนท่านจินนี่กล่าวจบนั่นแหละ ข้าพเจ้าจึงลองเสนอ

    "เขียนใส่กระดาษใส่สมุดเสร็จก็ต้องเก็บในลิ้นชักใช่ไหมขอรับ?" ท่านจินี่พยักหน้าหงึก (แถมอมยิ้มแก้มป่อง)ข้าพเจ้าแย็บต่อ "ทำไมไม่คิดเสียว่าบล็อกเป็นลิ้นชักบ้านหนอนล่ะขอรับ เป็นที่เก็บงานของเราโดยเฉพาะ เราพึ่งค้นคำของบอร์ดหนอนไม่ได้ แสดงผลไม่ครบ ทำให้บางครั้งหางานเก่า ๆ ของเราไม่เจอ ก็แล้วทำไมเราไม่สร้างห้องเก็บงานของเราเองขึ้นมา คิดเสียว่า บอร์ดหนอนเป็นห้องโถงแปะงานแลกเปลี่ยนกันอ่าน บล็อกเป็นห้องส่วนตัวของแต่ละคน ใช้เก็บงานแยกประเภทเป็นสัดเป็นส่วนง่ายต่อการค้นหา ใครอยากติดตามงานของผู้ใดก็เปิดประตูเข้าไปส่ายตาดู หากวันใดท่านเจ้าสำนักเปิดพื้นที่ให้คนละห้อง เราก็แค่ย้ายข้าวของเข้าไปก็เรียบร้อย" ข้าพเจ้าร่ายยาวเลย ท่านจินนี่ยังนั่งอมยิ้มพยักหน้าหงึก ๆ ตามสไตล์ใจเย็น เห็นท่านจินนี่ไม่ทักท้วงข้าพเจ้าเลยโม้ต่อ (อยากรู้ถามท่านจินนี่เองละกัลล์ คร้านพิมพ์แระ)

    พยายามชักชวนท่านจินนี่เปิดบล็อก ก็คล้ายกับอารมณ์อยากเห็นท่านเปิดบล็อกนั่นแหละขอรับ อารมณ์เจอคนคิดคล้ายกัน ผู้คนเขียนบล็อกด้วยเหตุผลร้อยแปด มีคนประเภทหนึ่งเขียนบล็อกเพราะเขียนหนังสือ ใครจะมาจะไปไม่เกี่ยวฉันเขียนของฉันลูกเดียว (แบบว่ามาก็ขอบคุณ ไม่มาฉันก็ยังเขียน) ข้าพเจ้าปะคนประเภทนี้ก็พี่ท่านประทีปะที่เคารพนี่แหละ จึงได้ฉุกคิดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา พบว่าเออหนอ..เราก็เป็นเช่นนี้

    ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าคิดถึงงานเก่าของสหายหนอนท่านอ้ายพุ่มที่เคารพรัก แต่ค้นบอร์ดหนอนเท่าไรก็หาไม่เจอ เมล์ถามเจ้าตัวยิ่งซ้ำร้าย แกบอก "โยนทิ้งไปแล้ว" จากวันนั้นข้าพเจ้าจึงเห็นผลดี(ต่อตัวข้าพเจ้าเอง)ของการที่สหายเก็บงานไว้เป็นที่เป็นทาง เพราะท่านอ้ายพุ่มเนี่ยแกไม่ธรรมดา ฝึกฝนอีกชั่วอึดลมหายใจ (หากไม่คอพับเสียก่อน)รับรองเทียบชั้นยอดยุทธ์ ข้าพเจ้ายุให้ตะแกเปิดบล็อก แกก็เปิดจริง ๆ นะ แต่เอาจริงอยู่พักเดียวก็เงียบหาย วันหลังยังมีหน้ามากระซิบ 'เปิดเอาใจข้าพเจ้า' จากวันนั้นหักใจไม่คิดยุใครเปิดบล็อกอีกแล้ว (ใช้วิธีชักแม่น้ำทั้งห้าแทน)

    ข้าพเจ้าลองจับยามสามตา เช็คฮวงจุ้ยโหงวเฮ้งดูแล้ว ท่านก็น่าจะราศีใกล้เคียง หากแหมะลงบอร์ดหนอนนานเข้า งานจะมากขึ้นทุกที (และรับรองว่าค้นงานเก่าไม่ครบแน่) จะเป็นการดี(ต่อข้าพเจ้า)เพียงไรหากจัดเก็บให้เป็นระบบระเบียบเสียแต่แรก

    ปะสมุดบันทึกท่าน ความยินดีนั้นมิเป็นที่ต้องกล่าวถึง จะไม่ให้ยินดีได้กระไร ยังไม่ทันออกแรงชักสักแม่น้ำ สมุดบันทึกเล่มงามก็วางแหมะเข้ารูปเรียงเล่มชวนอ่านเป็นที่เรียบร้อย

    เห็นทีต้องแสดงความยินดีกับข้าพเจ้าสิบจอกรวด..คว่ำจอก!

    คารวะ

    ป.ล.๑ ต้องมีวันเขียนไม่ออกบ้างสิทั่น หากขืนเขียนพรวด ๆ วันละสิบหน้า ท่านก็รวยเละนะสิ

    ป.ล.๒ ท่านทำข้าพเจ้างง(อีกแระ)nav.bar ก็คือเจ้าแถบของ Blogger ที่อยู่หัวบล็อกนั่นไง คนไม่รู้โค้ดเอามันออกไม่ได้ดอกเจ้าค่ะ แล้วนี่ท่านเอาออกได้ไงโดยไม่รู้จักมันน่ะฮึขะรับ?

    ตอบลบ
  9. ทำให้แตะคิดถึงวัยเด็ก..ที่ยังไม่รู้จักจำว่าทุกข์
    มีแต่ความสุข..ทั้งสุขน้อยๆ สุขมากๆ มีแต่ความสุขหมุนรอบตัวเรา
    ^^

    ตอบลบ