@ ต่อปากต่อคำ : รู้จักประเทศไทยให้มาก gap!

ดูเหมือนพี่ท่านจะจ่ายบอลแบบกึ่งยิงกึ่งผ่าน ทำข้าพเจ้าต้องยึกยักเช็คล้ำหน้า ออกตัวมั่วเดี๋ยวโดนเป่า

คอมมูนิสต์นั้นมิพักเอ่ยถึง หัวหน้าใหญ่ล้มตึง ทั้งความตั้งใจคิดโครงสร้างสังคมเยี่ยงนั้นน่ากราบนัก (กล่าวอย่างนี้เมื่อสามสิบปีที่แล้วมีหวังนอนมุ้งสายบัว ดีที่ตอนนั้นฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น)

สังคมนิยมรึ? เผด็จการรึ? มนุษย์ต่างเผ่าต่างกอก็ทดลองกันไป

ประชาธิปไตยก็เถอะ ใช่จะดีเด่ เป็นลัทธิพระเอก (อย่างที่พวกตะวันตกส่งออกโฆษณาชวนเชื่อ) ถึงตอนนี้ประเทศผไทน่าจะรู้ตัวได้แล้วว่าลัทธิการปกครองอย่างนี้ไม่เหมาะกับประเทศนี้ (กล่าวเยี่ยงนี้เสี่ยงโดนบาทา ขอบารมีพี่ทั่นคุ้มครอง) 

เรามั่วมาตั้งแต่เริ่มแล้วนะข้าพเจ้าว่า พวกหัวนอกบางคนไปเรียนไปรู้ไปเห็น ก็คิดนำกลับมาใช้กับประเทศ (เพราะความปรารถนาดี..ด้วยความเคารพ) ทั้งที่รู้กันอยู่ก็ไม่กี่คนว่ามันอะไรกัน 'ประชาธิปไตย' ขณะนั้นคนไทยส่วนใหญ่ทั้งแผ่นดินยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้เสียซ้ำ แล้วมาคิดเอาสิทธิเอาเสียงไปยื่นให้คนละเสียง นี่แนะ! ตาสา เอ็งมีสิทธิเลือกตัวแทนส่งเข้าไปบริหารประเทศ แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของประเทศ ไปใช้สิทธิซะ จากนั้นก็กลับไปปฏิวัติแย่งอำนาจกันให้วุ่น

ถึงตอนนี้ประชาชนอ่านออกเขียนได้กันทั่วหน้าฟ้าใส พ่อข้าพเจ้าจบป.๔ ส่งข้าพเจ้าเรียนจบม.๔ วันเลือกตั้งมีคนเอาเงินมาให้สองร้อย แกก็รับแล้วไปเลือกให้ด้วย พี่ท่านเห็นใช่ไหมขอรับ แกซื่อสัตย์ไม่มีบิดพลิ้ว หากให้ข้าพเจ้าเรอะ เมินเสียเถอะ! การศึกษาที่พ่อแกส่งมาทำให้ข้าพเจ้าคิดอีกสองตลบ แบบว่า..หากเป็นสักหมื่นสองหมื่นแล้วจะพิจารณา (เพราะยามนั้นอาจกำลังมองหาโน้ตบุ๊คตัวใหม่) แต่หากสักแสน จะรีบแจ้นไปลงให้เลย..ขอบอก! (กล่าวอย่างนี้มีหวังโดนเขกกบาล..อย่าเพ่อเทียวนา ฟังต่อ..ฟังต่อ)

ไม่มีอะไรแตกต่างขอรับ อาจต่างกันบ้างก็แค่ค่าตัว (ก็อุตส่าห์เสียทรัพย์เล่าเรียนมานี่นา)

นับประสาอะไรกับร้อยสองร้อยล้านเล่าขะรับ ชี้ซ้ายชี้ขวามาเลย พี่ท่านจึงได้เห็นประชาธิปไตยมั่วอยู่ทุกวันนี้ไง  

พูดอย่างนี้ทำเหมือนรู้ดี 'แล้วการปกครองอย่างไหนเล่าที่เหมาะกับประเทศผไท' ตอบได้เต็มปากเต็มคำ

ไม่ทราบขอรับ!

มนุษย์เสาะหาโครงสร้างสังคมเพื่อจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมานานนักแล้ว แต่ละครั้งของการทดลองกินเวลาหลายชั่วคนกว่าพบว่าโครงสร้างเลิศเลอที่คิดค้นมีจุดพร่อง หลายครั้งสังเวยชีวิตนับไม่ถ้วน (แต่ประชาธิปไตยบ้าบอนี่สังเวยโลกเทียวนะพี่ทั่น อเมริกาประเทศเดียวทำลายโลกซะเกือบเท่าครึ่งของที่เหลือรวมกัน)

เรายังคงทดลองเสาะหากันต่อไป ที่ตายก็ตายไป ที่ถกเถียงก็ถกเถียงกันต่อไป (เอ่อ..ไม่ทราบจะรับ..ที่ยิงก็ยิงกันไปด้วยสักชุดไหม?)

ข้าพเจ้ายังมีความหวังขอรับ ไม่ใช่แนวลัทธิมองโลกในแง่ดีอันใดดอก แต่หวังไว้ว่าสักวันมนุษย์จะสามารถล้วงสายดีเอ็นเอออกมาถอดโน่นใส่นี่ ถึงวันนั้นคงสามารถจัดการเอายีน เห็นแก่ตัว ก้าวร้าวชวนตี คอรับชั่น เล่นพรรคแบ่งพวก ลับ ลวง พราง ฟอกเงิน ปั่นหุ้น โอ้ย! สารพัด! ออกให้หมด เหลือแต่ยีน ธรรมะ ธรรมโม พุทโธสังโฆ เป็นห่วงช่วยเหลือเผื่อแผ่กันและกันอย่างเห็นสรรพสิ่งล้วนเป็นองคาพยพของโลก ตระหนักว่าเกิดมาไม่นานก็ตายแล้วอย่าไปทำให้ใครเขาเดือดร้อนเลย..

อืมม์...

ถึงวันนั้นก็คงมีคนอุตริ เอายีนบ้าบออะไรไม่รู้ใส่เพิ่ม เร่งความวุ่นวายให้เลวร้ายไปกว่าเก่า โอล่ะหนอ..

คารวะ

3 ความคิดเห็น:

  1. ท่านดิลล์ … ทั่นพี่ที่เคารพ !

    สำหรับผม หากถามว่า ระบบอะไรดีที่สุด … คำตอบที่ถูกต้อง คือ ง. (ถูกทุกข้อ)

    ทั่นพี่ก็รู้ว่าผมไม่ได้กวนบาทา ระบบนั้นจะเขียนว่าอะไรก็เถอะ เพียงขอให้เราทั้งผองอยู่ร่วมกันได้ เพราะประชาธิปไตยอยู่ที่ใจ(คน) หาใช่ในกฎหมายสองสามร้อยมาตรานั่น

    ตั้งแต่ ๒๔๗๕ พวกเรา(หรือไม่ก็พวกนักกฎหมายหลายท่าน)บ้าแก้กติกามาตลอด … เปรียบเทียบดีกว่า จะได้เห็นกันชัดๆ

    หากเปรียบโลกเหมือนการแข่งขันฟุตบอล บ้านเราเอาแต่แก้ไขกฎกติกา อย่างนั้นไม่เหมาะกับคนไทย เสาประตูกว้างไป บอลขนาดใหญ่นั่นสำหรับฝรั่ง เวลา ๔๕ นาทีจะดีไหม ตั้งกรรมการวิสามัญ(ฆาตกรรม)มาศึกษา ฯลฯ ตีความกันเข้าไป เขียนกฏหมายแล้วก็ตีความกันอีก (กรรม)

    ปาไป ๘๐ ปีแล้ว ไม่มีใครสนใจพัฒนานักฟุตบอลเอาเลยยยยย … พี่น้อง

    พัฒนาตั้งแต่เกิดมาเลย ให้เป็นนักฟุตบอลที่ดี ลงทุนปีละ ๕๐ คน คนละสักเท่าไหร่เชียว (กินข้าวน้อยกว่าช้างเป็นไหนๆ ทีช้าง ควานยังดูแลได้ จริงไหม) ใน ๕๐ คน เผื่อเลว เผื่อตาย เหลือมาทำทีมได้ ตั้งสองทีม

    ถามจริง มีนักกวนเมืองคนไหนบ้าง คิดเรื่องพัฒนาคนจริงๆ จังๆ … ไม่เคยเห็น

    … ไม่มี๊ ไม่้ว่าพรรคไหน ไม่ว่าสีอะไร

    ตอบลบ
  2. อ่านจดหมายจากพี่ถึงน้อง(อย่างถ้วนถี่)อีกครั้ง ถึงกับถอนหายใจยาวเชียวพี่ทั่น ยีเนติกไทยๆ ที่ท่านพี่ว่า ไม่ได้เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญ

    มันปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมอันเขียวชอุ่ม ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว เรามีแสงแดดสวยที่สุดในโลก พี่ทั่นรู้ไหม รุ้งที่ไหนจะสวยเท่ารุ้งไทย คำนวณได้ทั้งจากปริมาณและคุณภาพ

    อนิจจา ... ไม่อยาก แต่เป็นอย่างเขาว่า พระเจ้ากรุณาประทานให้เราทุกอย่าง ป่าไม้ทึบเขียว ภูเขาลดเลี้ยวตระหง่าน แม่น้ำลำธารแสนสดชื่น ... แต่

    ท่านประทานยีเนติกแบบนี้มาด้วยทำไม

    ตอบหน่อยท่านพี่ เศร้าโคตร

    ตอบลบ
  3. อรุณสวัสดิ์พี่ทั่น

    อันที่จริงมิพักรบกวนพี่ท่านสตาร์ทเครื่องบึ่งปลายนิ้วออกจากชาเล่ท์แก็ป ข้าพเจ้าตามฟีดทั้งโพสท์และคอมเม้นท์ ทุกคอมเม้นท์ที่แก็ปล้วนโผล่ในฟีดรีดเดอร์แหมะคราใดปะในบัดใจ

    ยังต้องขอบพระคุณสำหรับบทเรียน 'ถอยคนละก้าว'

    ด้วยความที่คิดได้แค่คืบศอกวาไม่พ้นฝ่ามือของตัวเอง ก่อนนี้ข้าพเจ้าคิดถึงแต่ 'ลบลูกเดียว' เจอะบทเรียนครั้งนี้จึงคิดได้ ท่าทีอะลุ่มอะล่วยเยี่ยงนี้งดงามกว่านัก

    ข้าพเจ้าคุ้นเคยอยู่กับแผ่นดินภาคใต้ ส่วนอื่นของประเทศไม่อาจทราบ แต่ตรงส่วนนี้ พี่ทั่นขะรับ เป็นดังพี่ทั่นกล่าว พระเจ้าช่างสรรประทาน ไม่ว่าโยนเมล็ดอะไรลงบนดินเป็นขึ้นต้นไปเสียหมด (ง่ายปานนั้น) แค่อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจ กินอะไรก็โยนไว้รอบขนำ สี่ห้าปีผ่าน ต้นมะละกอ กล้วย มะขาม ขนุน มะม่วง ฝรั่ง พริก กระเพรา มะเขือเทศ โผล่ขึ้นมาดกดื่น ยังไม่รวมผลงานของพวกนก ที่นำกระถิน มะขามเทศ กระทั่งทับทิม ไทร มาฝาก

    ได้ผลไว้กิน ที่เหลือนำไปวางขาย (ตอนนี้ขายกล้วยหวีละ ๑๐-๑๕ บาท ได้ทุกวัน) เราอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ก็แล้วใครที่ไหนมาล้างสมองบอกว่าเราด้อยพัฒนา เราขาด ทำเอาไอ้พจน์ลูกลุงเพิ่ม ไอ้แตงโมลูกน้าคลี่ เผ่นหนีบ้านไปหางานทำในเมือง ว่าง ๆ มันยังคิดยุให้พ่อขายที่ เพราะอยากได้กระบะ

    เหลียวมองไปทางฝั่งตะวันตก หน้าหนาวพืชพันธุ์ไม้ตายเกลี้ยง ไม่ก็ปลิดใบรอฤดู พวกชาวบ้านถึงย้ายหนีหนาว

    แต่เราสบายตลอดปี (มีพายุกรรโชกดินถล่มบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ยังถือว่าจิ๊บ ๆ)น้ำท่าสมบูรณ์ พี่ทั่น!คงมิต้องสงกา อีกไม่กี่ชั่วคนข้างหน้าพวกตะวันตกยึดหมดแน่

    มิเป็นไรขอรับ เราเพียงอาศัยเกิดชั่วคราว หาได้เป็นเจ้าของผืนแผ่นดินแท้ดังที่พยายามฝังหัวกันมา แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ทรัพยากรโลก คนตะวันตกรุกรานมาก ๆ เข้าไม่นานก็ยึดสิทธิเป็นเจ้าของพื้นดิน คนพื้นถิ่นแปรสภาพเป็นแรงงาน ก็คงเป็นตามการเคลื่อนไหลของชนเผ่ามนุษย์ เรื่องนั้นปล่อยเป็นเรืองของอนาคต

    เอาแค่ขณะมีชีวิตชั่วคราวอยู่นี้ ข้าพเจ้าจะถนอมแผ่นดินน้อย ปลูกทุกอย่างรอบบ้าน มีผักมีผลไม้ไว้กินจากต้น ที่เหลือนำไปขายพอเป็นรายได้ไว้ใช้จ่ายคราจำเป็น ยินเสียงวิเคราะห์แว่ว ๆ มันขี้เกียจ ไม่คิดทำมาหากินหาเงินหาทอง

    เฮ้ออ..พี่ทั่น บางทีข้าพเจ้าก็คิดว่า เป็นคนไทยสมควรขี้เกียจไว้มากมากนะพี่ทั่นว่าไหม?

    คารวะ

    ป.ล.เห็นทีต้องถามพี่ทั่นต่อว่า 'พัฒนาคน' เนี่ยเขาพัฒนากันอย่างไร?

    ข้าพเจ้าเห็นพวกผู้ปกครองครั้งอดีตพยายามพัฒนาโดยเอาโรงเรียนมาฝาก ทำเอายิ่งเรียนยิ่งโง่มาจนทุกวัน (ระบบโรงเรียนมันจับหมูใส่เล้าดี ๆ นี่เอง ชะช่าคิดเปลี่ยนเราเป็นหมู) ทั้งที่การบวชเรียนอยู่วัดของเราแนบแน่นสอดคล้องวิถีชีวิตดีอยู่แล้ว (กลับไม่คิดพัฒนาตรงนั้น)

    ไม่ทราบเกิดจากพยายามดิ้นรนให้พวกตะวันตกเห็นว่าเราเจริญ โดยการเอาอย่างพวกเขาหรือเปล่าพี่ทั่น เราจึงใส่เสื้อนอกสวมชฎา(โทรม ๆ)จนทุกวันนี้

    ตอบลบ