อ่อนลมบ่ายสวัสดิ์ขอรับท่านสหัทยา
กินข้าวเช้าล้างหน้าล้างตาเสร็จสรรพข้าพเจ้าบึ่งรถไปตลาด ป่านฉะนี้พัสดุจากท่านสหัทยาคงนั่งคอยท่าอยู่ที่ทำการไปรษณีย์แล้ว ก่อนออกไม่ลืมหยิบหนังสือคืนห้องสมุด
วันนี้เป็นวันนัด ตลาดอำเภอท้องถิ่นจึงคราคร่ำ ที่จอดรถของไปรษณีย์ถูกยึดโดยเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ข้าพเจ้าต้องเลยไปหาจอดไกลอีกหน่อย
คืนหนังสือห้องสมุด (ไม่ลืมหยิบเล่มใหม่ติดมือ) เสร็จ แวะไขตู้ป.ณ. เอาใบแจ้งเข้าไปด้านหลัง พวกพณฯ ท่านนายบุรุษไปรษณีย์ยิ้มแย้มทักทายตามประสาคนคุ้น จากนั้นเดินไปหยิบห่อพัสดุห่อใหญ่เต็มด้วยแสตมป์พระบรมฉาทิสลักษณ์ จ่าหน้าตัวพิมพ์ฟอนท์อักษรไทยแบบเก่าขรึมขลัง
ครั้นข้าพเจ้าบอกว่าเป็นภาพจากสหาย "ขอดูได้มั้ยพี่?" นายไปรษณีย์ถาม "ได้สิ" ข้าพเจ้าตอบ นายป.ณ.จึงบรรจงแกะห่อพัสดุ
"ไม่รู้เป็นไงบ้างเพื่อนกลัวจะแตก" ข้าพเจ้ากังวล
นายไปรษณีย์คลี่ห่อกระดาษลูกฟูกด้านใน "ไม่แตกพี่..ห่อมาดี" ดึงรูปออกมา "ขนาดของผมเองยังแตกเลยพี่" ข้าพเจ้านึกขำอดแซวไม่ได้ "ขนาดใช้เส้นน่ะนั่น!"
"อืมม์ มันฮ่วย!" นายไปรษณีย์ชมกันเอง แล้วนำรูปวางพิงบนโต๊ะ พวกที่เหลือพากันมามุง
ข้าพเจ้ายิ้มตื้น
ไม่มีของฝากใดทรงค่าแก่วณิพกเท่าเงินทานสักเหรียญ แลหามีของขวัญใดต้องใจแก่คนเขียนรูปไปกว่ารูปเขียนสักรูป
รูปสเก็ตช์สีออยล์พาสเทลตวัดเส้นอย่างมั่นคงมั่นใจ บอกให้รู้ถึงความชำนาญของผู้เขียนอยู่ในระดับไม่ธรรมดา ใช้สีเพียงสี่แท่ง สร้างงานที่มีเรื่องราว เก็บบรรยากาศ และองค์ประกอบภาพที่สมบูรณ์ ทั้งเข้ากรอบอย่างรู้ความสัมพันธ์ระหว่างรูปกระดาษ โฟโต้บอร์ด แบบและสีของกรอบ
ล่ำลาเหล่านายไปรษณ๊ย์หอบรูปมาวางเบาะหลังด้วยหัวใจคับพอง
ข้าพเจ้าเป็นเหมือนแกะหลงฝูงหมาป่าหลงทางมาตลอดชีวิต จิตใจใฝ่ฝันอย่างหนึ่งขณะร่างกายกระทำอีกอย่าง จนชีวิตพบแต่ความล้มเหลว วัยเด็กข้าพเจ้าไม่อาจแตะต้องวงการศิลปะด้วยใจอ่อนแอไม่กล้าฝืนผู้ใหญ่ ครั้นล่วงวัยทำงานจึงพลัดอยู่ในสังคมที่ไม่ใช่ตนเอง ผู้คนรอบข้างเป็นคนละอย่าง คิดคนละแบบ ชีวิตข้าพเจ้าเคว้งไปคว้างมาแล้วแต่ชะตาจะเตะไปทางใด
จนลุวัย ภาพชีวิตจึงค่อยแจ่มชัด
ข้าพเจ้าจึงนั่งลงเขียนรูปยามว่าง เขียนด้วยหัวใจที่สอดคล้องสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับภาพตรงหน้า ซับความสุขที่ได้สัมผัสกับแม่ธรรมชาติ ไม่ใช่ด้วยมือแตะต้อง หรือหูสดับเสียง หรือตาเพ่งมอง แต่ด้วยหัวใจที่หลอมเป็นหนึ่งเดียว ภาวะเช่นนั้นคือการกลับคืนสู่ที่เราจากมา กลับไปหาอ้อมอกแม่ธรรมชาติยิ่งใหญ่ อ้อมอกนั้นอบอุ่นนัก สงบนัก
ครั้นทักษะเขียนรูปมาถึงจุดหนึ่งจึงได้เข้าใจว่า นั่นเป็นคล้ายประตูมิติ ไม่ว่าเราจะฝีมือแค่ไหน เขียนออกมาเช่นไร หาเป็นไรไม่ ยามใดลงมือเขียนยามนั้นประตูจะเปิดออกให้เราได้คืนสู่ภาวะก่อนสั่งสมนิวรณ์ปุถุชน
ประตูมิตินั่นจะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดเวลา เพียงหยิบดินสอออกมาสเก็ตช์ประตูก็จะเปิดออก
ด้วยความที่ดำรงชีวิตหลงฝูง ข้าพเจ้าไม่เคยมีเพื่อนเขียนรูป การได้ของฝากที่เป็นรูปเขียนเช่นนี้สูงค่าต่อข้าพเจ้านัก
ข้าพเจ้าสตาร์ทรถ ฝ่าถนนจอแจของตลาดนัดกลับมากระท่อม คลี่ห่อกระดาษแผ่นโฟมประกบออก นำรูปแขวนข้างฝา กระท่อมโกโลโกโสสว่างสดใสขึ้นทันตา คำขอบคุณคงไม่เพียงพอที่จะทดแทนความรู้สึกข้าพเจ้ายามนี้ ความตั้งใจบรรจงห่อกระทั่งนำส่งนั้นเป็นความกรุณาเหลือข้าพเจ้าจะสรรคำแทนใจ
ที่พอจะกล่าวได้เพียงน้อมเรียนด้วยหัวใจเต็มตื้นว่า..รูปเดินทางมาถึงแลประดิษฐาน ณ กระท่อมซอมซ่อแล้วโดยสมบูรณ์
คารวะ
ธุลีดิน
ถ่ายรูปมาอวดกันหน่อยซี อยากเห็น..
ตอบลบ: )
ด้วยความเคารพ
ตอนคลิกโพสท์ก็ยังลังเลว่าไยไม่ถ่ายรูปลงด้วย ข้าพเจ้าอีกคนตอบว่า 'ขี้เกียจถ่าย' ดูมันจิ
ตอบลบวันพรุ่งจะลองดูขะรับ
คารวะ
ไหนบอกจะเอารูปมาให้ดูไง
ตอบลบรูปถ่ายมันไปแอบอยู่หลังตัวอักษรตัวไหนอ่า?
ให้เวลาสองวันแล้วนะ ชิ!
พี่ชายที่เพิ่งแต่งงานแวะมาพาไปเลี้ยงหมูกะทะ อิ่มตื้อเลย ว่าจะกินมาเผื่อท่านด้วยแต่ไม่มีท้องใส่แล้วไว้มื้อหน้านะทั่นนะ
สองวันที่ผ่าน(เมื่อวานและวันนี้)ไม่ได้ตัวหนังสือสักตัว พรุ่งนี้ก็ยังไม่รู้จะได้สักตัวป่าวพี่ชายจะมารับไปหาน้าก่อนน้ากลับใต้เห็นบอกจะมาเที่ยงๆ ตื่นนอนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จพอดีไม่ทันได้ทำอะไร เดี๋ยวคืนนี้จะลองนั่งเคาะกะโหลกดูเผื่อจะหลุดมาสักบรรทัดสองบรรทัด
คืนนี้หลับฝันดีนะทั่น
ด้วยความเคารพ