เบี้ยวไม่ได้พบหน้าคุณปิ๊กหลายวันแล้ว ครั้งสุดท้ายเธอบอกว่าจะไปทะเลหัวหินกับครอบครัวสักสองสามวัน เบี้ยวเอนหลังพิงต้นอะไรสักอย่างที่เบี้ยวเองก็ไม่รู้จัก หากเห็นมีลำต้นมีใบเบี้ยวเรียกอยู่ชื่อเดียว..ต้นไม้

ลมบ่ายโชยพัดเย็น เสียงนกร้องจุ๊บจิ๊บจุ๊บจิ๊บ เบี้ยวหลับตาเห็นท้องทะเลสีครามตัดท้องฟ้าสีฟ้าเข้ม (แน่ล่ะท้องฟ้าก็ต้องสีฟ้า หากท้องฟ้าเป็นสีน้ำก็ต้องเรียกท้องน้ำน่ะสิ..เบี้ยวนึกแซวคนเขียน) เมฆขาวลอยฟ่อง หาดทรายขาวสะท้อนแดดเจิดจ้าเบี้ยวขยับแว่นกันแดดพยายามลากขาแว่นให้เสียบร่องหู แต่พอข้างหนึ่งเข้าที่อีกข้างก็หลุด นึกฉงนฉงาย 'ไอ้จูมันใช้แว่นเบอร์อะไรของมัน' กำลังวุ่นกับแว่นก็เห็นเงาร่างอ้อนแอ้นอรชรเดินมาในเงาแดด ผ้าบาติดบางเบาปลิวไสวในสายลม เบี้ยวถอดแว่นเพ่งมอง แล้วต้องใจเต้นตึ้กตั้ก รีบวิ่งฝ่าเปลวแดดไปหา

"คุณปิ๊กครับ" เบี้ยวร้องเรียก

หญิงสาวร่างเล็กสมส่วนหันมองงุนงง สักครู่จึงส่งเสียง "เบี้ยว!" ริมฝีปากบอบบางค่อยเผยอยิ้ม "เบี้ยวมาได้ไงเนี่ย!"

"คงเดินมามังครับ" เบี้ยวกวนตามฟอร์ม

"แหม..ปิ๊กถามแบบทักทายไง เบี้ยวไม่ต้องตอบก็ได้"

เบี้ยวยิ้มกระมิดกระเมี้ยน เข้าใกล้คุณปิ๊กทีไรเหมือนจิ้งเหลนตกกระทะทองแดง อดไม่ได้ต้องบิดไปบิดมา ไม่รู้จะเอามือขวาไปไว้ไหน มือข้างซ้ายก็เกะกะ ขาขวาก็อยู่ไม่สุข ขาซ้ายรึก็ทะลึ่งอยากมาอยู่ข้างขวา เป็นอันว่าพันกันอิลุงตุงนังจนคุณปิ๊กต้องช่วยปลด

"เป็นอะไรของเบี้ยวเนี่ย" คุณปิ๊กพยายามดึงมือข้างขวา (เอ่..รึอาจเป็นข้างซ้าย) ที่เข้าไปสอดรอดอยู่ระหว่างเกลียวขา

"คุณปิ๊กมาถึงหัวหินนานรึยังครับ?" พยายามชวนคุยเรื่องอื่น

"เมื่อวานเองค่ะ" หญิงสาวยกแขนปาดเหงื่อ ออกแรงดึงแขนเจ้ากรรม "เบี้ยวถามทำไมคะ?"

"เอ่อ.." งงสิทีนี้ เพราะตอนถามก็ไม่ได้ตั้งใจ ถามอีกดีกว่า "เอ่อ..ไม่ทราบพักกี่วันครับ?"

"อาจสักอาทิตย์นึง คุณพ่อชอบที่นี่น่ะค่ะ..อึ๊บ!" หญิงสาวกระชากสุดแรง

"โอ้ย!" เบี้ยวร้องลั่น แขนเจ้ากรรมหลุดออกจากเกลียวขา ทั้งหมดกลับเข้าประจำที่

"ขอโทษค่ะ ปิ๊กดึงแรงไปหน่อย"

"ขอบคุณครับ ไม่ได้คุณปิ๊กผมแย่เลย" เบี้ยวสลัดแขนขา "ไปนั่งที่ร้านเถอะครับผมเลี้ยงเอง" เบี้ยวเดินนำเข้าใต้ชายคามุงหญ้าคา หญิงสาวนั่งบนสตูต้นมะพร้าวถอดหมวกฟางวางบนเคาน์เตอร์ไม้ไผ่  

เบี้ยววิ่งอ้อมเข้าภายใน "รับไรดีครับ?"

"เบี้ยวเป็นเจ้าของหรือคะเนี่ย?"

"ครับ" ยิ้มภาคภูมิ "มาเปิดรอคุณปิ๊กหลายวันแล้วล่ะครับ..รับไรดี?"

"ปิ๊กเอา..." หญิงสาวครุ่นคิด "น้ำแตงโมปั่นก็แล้วกันค่ะ"

"ได้ครับ..รอสักครู่" เบี้ยวหันไปสาละวนในร้าน

"ดูทะมัดทะแมงสมเป็นพ่อค้านะคะ"

"ไม่เชิงหรอกครับ กำลังหัดทำ"

"จะมาลงหลักปักฐานที่หัวหินเหรอคะ?"

"ไม่เชิงหรอกครับ" เบี้ยวกดสวิทช์เครื่องปั่น "ที่นี่สงบดี คนเขียนรูปมาอยู่กันเยอะ ผมชอบอยู่ใกล้ ๆ พวกเค้า"

"อย่างนี้ซอยตำแยก็เหงาแย่สิคะ"

"ไม่เชิงหรอกครับ พอคุณปิ๊กกลับผมก็ปิดร้าน"

"อ้าว!" หญิงสาวเลิกคิ้ว "ทำไมอย่างนั้นล่ะคะ"

"เอ่อ.." อยากตบปากตัวเอง พูดไปได้ไงอย่างนั้น หากคุณปิ๊กรู้ว่าแอบตามมาเสียฟอร์มแย่ "นี่ครับ ได้แล้ว" เบี้ยวคว้าแตงโมลูกย่อมวางบนเคาน์เตอร์ หญิงสาวผงะเม้มริมฝีปากบาง

"นี่" เบี้ยววางตะเกียบไว้ข้างแตงโม

"ยังไงคะ?" หญิงสาวยกเอวคอดกิ้ว

"อ้าว..สั่งแตงโมปั่นไม่ใช่หรือครับ?"

"ใช่ค่ะ..แตงโมปั่น" เธอพยักหน้า "แต่นี่.."

"นี่ไงแตงโมปั่น" เบี้ยวฉวยแตงโมขึ้น หันไปหันมาหาตำแหน่งเหมาะเสียบด้ามตะเกียบเข้าไป แล้วปั่นแตงโมหมุนติ้ว 

"นี่ไงแตงโมปั่น"

หญิงสาวกลั้นยิ้มแก้มป่อง แล้วหัวเราะเสียงใส เบี้ยวโชว์จนสมใจจึงหันไปรินน้ำแตงโมในโถปั่นใส่แก้วยื่นวางบนเคาน์เตอร์

"มุกโน้ส จมูกโตน่ะครับ"

หญิงสาวยกแก้วน้ำปั่น "ขอบคุณค่ะ" เสียงยังกลั้วหัวเราะ

"คุณปิ๊กชอบหัวหินตรงไหนครับ?"

"อืมม์..คงเหมือนกับเบี้ยวมังคะ..เงียบ..ไม่พลุกพล่าน..และไม่ไกลกรุงเทพฯ"

"ช่วงปลายปีมีเทศกาลดนตรีแจ๊สคุณปิ๊กมาอีกสิครับ"

"เหรอคะ.."

"มาช่วยกันขายน้ำปั่นก็ได้"

"อืมม์..น่าสนุกดีนะคะ"

"ครับ..น่าสนุกดี..มานะครับ..นะครับ.." เบี้ยวหลับตานึกภาพสองคนนั่งบนพื้นทรายนุ่มเนียน เสียงแซ็กฯ ครวญกระเส่าเคล้าเสียงคลื่นในแสงสีสนธยา  หนุ่มสาวนั่งไหล่ชิดไหล่พริ้มภวังค์ท่ามท่วงทำนองเนิบช้า ในมือถือแตงโมปั่นคนละไม้  

"..หาก..หยุด..เวลา..ไว้..อย่าง..นี้..ตลอด..ไป..ก็..คง..ดี..นะ..ครับ.." เบี้ยวนั่งคอเอียง น้ำลายยืดไหลจากมุมปากเป็นเส้นยาวถึงพื้น

"มาแอบหลับอยู่นี่เอง" เสียงใครหว่า "พี่เบี้ยว!"

"..นะ..ครับ.." เบี้ยวยังปากขมุบขมิบ เสียงเดิมเรียกซ้ำ

"พี่เบี้ยว!!"

เบี้ยวสะดุ้ง ลืมตา รีบซู้ดน้ำลายคืนปาก ไอ้จูเกลอซี้สวมแว่นกันแดดอันจิ๋วยืนท้าวสะเอวค้ำหัวเพื่อนรุ่นพี่

"หมดกัน" เบี้ยวยกแขนป้ายมุมปาก "มีธุระสำคัญอะไรล่ะก็..ค่อยมาใหม่ได้มั้ย?" เบี้ยวขยับก้นตั้งท่าจะหลับต่อ

"ธ่อ..เพ่..ฝันกลางวันล่ะสิ..พี่เคยได้ยินเปล่า 'อย่าฝันกลางวัน' แม่ว่าผมหยั่งงี้ประจำ"

เบี้ยวส่ายหน้าระอิดระอา ไอ้จูยืนจังก้าอยู่อย่างนี้จะต่อฝันได้อย่างไรกัน

"นั่นน่ะหมายถึงฝันจะทำโน่นเป็นนี่แล้วไม่เอาจริงสักที นายไม่รู้ไร นักวิจัยเขาบอกว่าฝันกลางวันช่วยให้สมองใช้จินตนาการ ฝันบ่อย ๆ ทำให้เป็นคนมีจินตนาการสูง"

"เอาเหอะ..ผมไม่เถียงพี่หรอก" ไอ้จูขยับแว่น "ไปร้านแปะกันผมจะเลี้ยงโอเลี้ยงพี่สักแก้ว"

ได้เวลานั่งร้านแปะแล้ว เบี้ยวขยับลุก

"ยืมแว่นหน่อยสิจู"

"พี่จะเอาไปทำไร?"

"เราจะไปหัวหิน"

ไอ้จูหันขวับ "แน่...ไปหาคุณปิ๊กล่ะสิ"

"นา..ยืมแว่นก่อนละกัน"

สองคนเดินตรงไปร้านแปะ เบี้ยวศรัทธาความฝัน ทั้งรู้ว่าความฝันก็คือความฝัน ไม่มีวันเป็นความจริงไปได้ แต่ไม่ใช่เพราะความฝันหรอกหรือโลกเมื่อครู่จึงสวยงาม อบอุ่น นวลนุ่ม น่าทะนุถนอมไว้ให้นาน ๆ ไม่ใช่เพราะความฝันหรอกหรือมนุษย์จึงมีกำลังใจมุ่งมั่นสู่อนาคต ความฝันของเบี้ยวอยู่ที่หัวหิน..ใกล้ ๆ นี่เอง เบี้ยวจะไปตามฝัน..

"ทำไมแว่นนายอันจิ๊วเดีย" รับแว่นจากไอ้จูมาลองสวม

"ของไอ้จ้อย" ไอ้จ้อยเจ้าพ่อประจำบ้านไอ้จู ขี่จักรยานซาเล้งยังไม่หย่านม

"อย่างงี้นี่เอง.." เบี้ยวรำพึง

OOO
Picture :
www.smerwinartist.com

1 ความคิดเห็น:

  1. รถติดยาวเป็นถั่วฝักยาวสวัสดิ์ ขอรับ "ท่านดิลล์"

    ชีวิตยามเย็นจนค่อนจะเลยค่ำ กระผมกำลังทดลองเล่นของ (ใหม่อยู่) กับเจ้า flickr ซึ่งบางคน เขาเล่นกันจนเบื่อไปแล้วมั้ง...

    มัวนั่งงงกับภาษาปะกิด (ที่บางคำต้องจนเกล้า) นานโขกว่าจะอัพภาพได้ ก็เลยทดลองหาสหายสักคนรับรู้ถึงความยากเย็นนั้น ว่าผลเป็นที่น่าพอใจเยี่ยงใด?

    อีกประการหนึ่งคิด (เอาเอง) ว่า ท่านดิลล์น่าจะชื่นชอบภาพขาวดำ ดังนั้นท่านสามารถโหลดเอาไปใช้งานได้ในอนาคต (ถ้าต้องการ) ภาพนี้จึงเป็นภาพแรกที่ทดลอง รอให้กลับบ้านไร่ และเซ็ตระบบอินเตอร์เน็ตได้สมบูรณ์ ก็คิดว่าจะย้ายภาพมารวมไว้ทั้งหมด เผื่อมิตรสหายท่านใด จะใคร่ต้องการภาพประกอบสำหรับทำสื่อ ก็คงพอจะทำยาได้บ้างกระมัง 555

    รบกวนท่านดิลล์เข้าไปทดลอง ใช้หน่อยนะขอรับ
    ที่ http://www.flickr.com/photos/imaimgreen
    ตอนนี้ระบุไว้ที่ 4.4 mb ดูก่อน

    ขอบพระคุณล่วงหน้า สหายลองยา 55

    โอ๋ อิ่มเอม :)

    ตอบลบ