๏ ไม่มีบทกวีดอกที่รัก
เราเพียงถักสานทอก่อไยฝัน
เรื่อยอักษรเรียงถ้อยร้อยรำพัน
ผ่านคืนวันเพียงพร่ำประคำกรอง

๏ ไยเรียกว่ากวีเล่าที่รัก
เราประจักษ์โลกเปล่านั้นเศร้าหมอง
เราเติมคำแทนร่ำน้ำตานอง
แปลงเสียงร้องโศกสลดเป็นบทกลอน

๏ ใครเล่าคือกวีนะที่รัก
เขาอุทิศใจภักดิ์ในอักษร
เขายืนยันก้าวย่างหนทางจร
เขาทุกข์ร้อนเมื่อโลกถูกไฟรุม

๏ เราหาใช่กวีดอกที่รัก
เราเพียงนักร่ำระบายคลายอกสุม
ล้าใจหน่อยก็ค่อยค่อยร้อยกลอนกุม
พอกลุ้มกลุ้มก็นั่งก่องท่องคำกลอน ฯ

Technorati Tags:

2 ความคิดเห็น:

  1. โอ้ย ข้าพเจ้าแทบเอาหัวโหม่งโต๊ะ ตอนที่เจ้ากล่องด้านล่างมันแจ้งข้อความว่าโพสต์ไม่ได้แล้ว ถ้าไม่ได้นั่งเม้าท์กับท่านก็คงไม่รู้หรอกนะว่ามันมีลิมิตของมัน ไอ้เราก็นึกว่าเมาท์ได้กระจายเหมือนดีเทคเหมือนวันทูคอล

    ตอนที่โดนตัดการเชื่อมต่อข้าพเจ้านึกถึงอะไรท่านรู้มั้ย ข้าพเจ้านึกถึงเบอร์โทร นึกถึงเอ็ม นั่งนึกว่ารถเมล์สายไหนมันวิ่งผ่านระโนดมั่ง?

    สุดท้ายข้าพเจ้าก็ต้องมานั่งสงบสติอารมณ์ เพราะคิดได้ว่าทั้งหมดนั้นกำลังจะล้ำเส้นเข้าไปทุกที

    ท่านไม่รู้หรอกว่าตั้งแต่ที่ข้าพเจ้าได้รับเมลล์ตอบกลับมา ข้าพเจ้าต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากมาแล้วสองคืน มันไม่ใช่สิ่งยิ่งใหญ่อะไรในชีวิต ข้าพเจ้ารู้ดี แต่ท่านก็รู้นี่ นิยายเรื่องนี้ข้าพเจ้าใช้เวลาอยู่กับมันถึงสองปี เข็นมันไปไม่ถึงปลายทางข้าพเจ้าไม่ยอมเริ่มเรื่องใหม่

    มันจะดีหรือไม่ดีในสายตาใครๆ ก็ตาม แต่ข้าพเจ้ารักมัน

    กับการตัดสินใจในครั้งนี้มันดูเหมือนจะหนักหนาสาหัสสากัลย์เลยนะทั่น ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าคนอื่นยามเมื่อเขาจะส่งนิยายไปตีพิมพ์สักเรื่องเขาต้องคิดอะไรกันมากน้อยแค่ไหน แต่ข้าพเจ้าคิดหมื่นล้านแปดแสนประการ ซึ่งมันก็สลับคละเคล้ากันไปทั้งข้อดีและข้อไม่ดี

    ยิ่งตอนที่กลับไปอ่านทวนแก้ไข ซึ่งข้าพเจ้าทิ้งมันมาสองเดือนกว่าตั้งแต่ที่เขียนจบและอ่านทวนไปรอบสุดท้าย ก็เป็นเรื่องปกติที่ข้าพเจ้าจะพบข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ในรูปประโยคต่างๆ กระจายอยู่ทั่วไป คำถามยิ่งตอกย้ำ สมควรแล้วเหรอที่จะให้มันเป็นรูปเล่มตอนนี้? แล้วไอ้คำว่า ‘โอกาส’ ก็เจ๋อเข้ามาแทรก คำนี้หรือเปล่าที่ใครๆ เขาก็ต้องการ?

    เอาล่ะ ข้าพเจ้าว่าอย่าไปพูดถึงมันเลยเนอะ ตะกี๊ในกล่องด้านล่างเราคุยกันถึงไหนแล้วนะ? เรื่องสหายอ่านงานใช่ป่าว?

    ข้าพเจ้าน่ะ นั่งเขียนนิยายให้จบสักเรื่องยังง่ายกว่าหาคนมาช่วยอ่านช่วยวิจารณ์นิยายที่เขียนแบบจริงๆ จังๆ ซะอีก อย่างที่เขียนไปแล้ว แค่ให้มันอ่านให้จบสักบทสองบท ข้าพเจ้าแทบจะก้มลงกราบงามๆ ติดบาทามันสักทีสองที ค่าที่มันมีน้ำใจสละเวลาให้ถึงเพียงนี้

    ส่วนไอ้แรงยุที่บอกให้ส่งไปนั่นก็บอกแค่ว่า 'ส่งไปเหอะ ฉันบอกว่าดี มันสนุก รับรองต้องได้แน่ๆ' 'แกไม่ส่งตอนนี้แกจะส่งตอนไหนวะ เขียนจบแล้วแกจะเก็บไว้ทำห่-าอะไร' และข้าพเจ้าก็คิดแค่ 'เออ ส่งก็ส่งวะ' แค่นั้น

    คุยกับท่านวันนี้ข้าพเจ้าพอจะได้ตัวช่วยในการติดสินใจมาบ้างแล้ว (หวังว่าคืนนี้คงไม่ต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากอีก) แล้วพรุ่งนี้จะมานั่งอ่านที่คุยกับท่านทวนอีกรอบ เผื่อบางทีอาจมีอะไรรอดหูรอดตาไปบ้าง

    ขอบคุณคำแนะนำและความคิดเห็นเจ้าค่ะ

    ตอบลบ
  2. (โอ..เพิ่งเหลือบเห็น)
    นี่แน่ะทั่นที่รักและเคารพ

    ข้าพเจ้าอุตส่าห์ต่อโต๊ะเก้าอี้ให้ท่านนั่งแหมะความ ยามต้องการอ่านทวนจะได้หาง่าย ไม่ใช่แหมะแล้วหายไปกับเอ็นทรี่ต่าง ๆ ก็แล้วไยท่านจึงไม่ใช่บริการเล่า หือขะรับ?

    คารวะ

    ตอบลบ