๏ นาฏะอักษรานี้พี่ให้เจ้า
ทุกค่ำเช้าครุ่นจิตพิสมัย
เพียรแรมร่อนจรเร่ระเหไป
ควะคว้างในครุวรรณสีทันดร

๏ หวังกอบเก็บเก็จวลีมาพลีให้
แทนดอกไม้ลัดดามาลย์หมั้นสมร
ทุกเช้าค่ำร่ำเร่คเนจร
เพียงอักษรพจนามาจำนรรจ์

๏ แม้นหมายมั่นฉันจิตพิศวาส
อย่านิราศอย่างเคยเลยจอมขวัญ
ไม่เห็นนิดคิดค้อนเป็นค่อนวัน
กระไรกันกรรมหลากหนอยากนาน

๏ แม้นคนดีมีใจให้สักนิด
หมายปลงจิตปรานีไมตรีสมาน
ตอบสาส์นเถิดโปรดเห็นว่าเป็นทาน
อย่าได้รานรักเราให้เศร้าคอย

๏ ณ ราตรีไร้จันทร์นั้นมืดมิด
เหงาเดือนคิดเหน็บหนาวดื่นดาวหงอย
มองดาวคว้างร้างเลือนมาเลื่อนลอย
ใจก็พลอยลอยคว้างเหมือนอย่างดาว

๏ ระยิบยับจับดวงเป็นพวงแก้ว
ระดะแพรวพร่างดวงในห้วงหาว
งามใดเลยเปรียบถึงสักครึ่งคราว
มิอาจกล่าวออกความพองามชม

๏ แต่ยามไร้คู่เรียงมาเคียงใกล้
ต่อให้งามอย่างไรไม่งามสม
ฝากถ้อยคำนำไปด้วยสายลม
มิอาจข่มขื่นตาชมราตรี

๏ จึงขอจบเจียรสาส์นจำนรรจ์สรร
ด้วยอกหวั่นหวิวไหวในวิถี
ทุกเช้าค่ำร่ำรสบทกวี
หวังจะมีสักวันเธอหันมา ฯ

ภาพ : อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น