๏ พักเถิดเจ้าพักใจในลายจำหลัก
นิ่มเงารักแนบตักเขนยหนุน
ลมพัดชายเฉื่อยโชยโรยละมุน
หอมกรุ่นกรุ่นกรรณิการ์ภาษากลอน๏ โลกความจริงนิ่งล้าระอานัก
จักเอารักจำเรียงเอียงฉะอ้อน
นอนเถิดเจ้าหลับตาอย่าอาวรณ์
แผ่วเพลงกลอนประคำกรองจะร้องครวญ๏ ว่านกน้อยเจ้าร่อนลงดงอักษร
ปีกเจ้าอ่อนอกสั่นหวั่นใจหวน
เงาจันทร์ฉายพรายเคล้าคอยเย้ายวน
คะนึงชวนขวัญสะทกวิหกไพร๏ จะหันไหนหาใครในไพรกว้าง
แรมเดือนจางรางแลชะแง้ไหว
แฝงคาคบหลบเงายิ่งเหงาใจ
โอ้กระไรหนอวิหคเจ้านกจร๏ วะหวิวแว่วเสียงไพรก็ใจหวำ
มาอ้างว้างกลางค่ำน้ำค้างว่อน
เคยอุ่นอังรังเรียงอยู่เคียงคอน
เจ้าร้างรังแรมร่อนตะลอนมา๏ พักเถิดเจ้าในพนาวนารัก
ลายจำหลักจะจำเรียงเพียงภาษา
ระรื่นเรื่อยหลากรสพจนา
ต่างสังคีตคีตาลดาวัลย์๏ ดอกน้ำค้างพร่างโพยลงโปรยหว่าน
ขอแค่ผ่านค่ำคืนชั่วตื่นฝัน
อุ่นอุไรฉายฟ้านภาพลัน
กระจ่างแจ้งแสงสันกระจะตา๏ จงลืมตาแผ่วผจงเถิดนงลักษณ์
จะตระหนักในแรมเร่แสนเหว่ว้า
เหลียวทางไหนไร้หลักให้พักพา
มีชายคาสาสน์จำหลักให้พักใจ๏ จะเป็นคืนเปลี่ยวเหงาในเงาค่ำ
ฤๅรุ่งเช้าผ่าวร่ำอุษาสมัย
เพลงกลอนนี้จะกล่อมนำอยู่ร่ำไป
สถิตในหัวใจรักอักษรา ๚๛
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น