189

อินเดียน่าโจนส์ เดอะลาสต์ครูเสสจบด้วยฉากเฮนรี่ โจนส์ โบรดี้ อินเดียน่าและผู้ช่วยขี่ม้ามุ่งยังดวงอาทิตย์อัสดง

เงาม้าควบทะยานโดยมีแสงสีสนธยาเป็นฉากหลัง ภาพนี้เราล้วนเคยเห็นจากหนังคาวบอยหลายเรื่อง เป็นฉากประทับใจผู้ชมเสมอไม่ว่ายุคใด

ท่วงท่าโจนทะยานของม้าเปี่ยมพลัง จังหวะโยกตัวของผู้ควบขี่สะท้อนความผูกพันกับพาหนะคู่ใจซึ่งโลดแล่นตัดข้ามท้องทุ่งกันดาร แนวป่า ลำห้วยมาด้วยกันไม่รู้กี่วันคืนกี่ร้อยพันไมล์ ความผูกพันชนิดนี้สะท้อนอะไรบางอย่างของมนุษย์ยุคหนึ่ง อะไรซึ่งมนุษย์ยุคเราลืมเลือนไปนานแล้ว

ภาพควบขี่ม้าในแสงสีสนธยาชวนให้คิดถึงอินเดียนแดง คิดถึงวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติ น้อมเคารพสรรพสิ่งรอบตัว ตระหนักรู้ถึงความสืบเนื่องเกี่ยวโยงหากันประดุจญาติพี่น้อง ตั้งแต่ฝุ่นดิน ก้อนหิน จนถึงปุยเมฆบนท้องฟ้า

หัวหน้าซีแอตเติลเคยกล่าวไว้เมื่อคนขาวบีบบังคับให้เซ็นสัญญาซื้อ-ขายแผ่นดินซึ่งตนและบรรพบุรุษเคยอยู่อาศัย

'..ท้องฟ้าและความอบอุ่นของแผ่นดินนั้น เขาซื้อขายกันได้อย่างไร ความคิดเช่นนี้เป็นสิ่งแปลกประหลาดสำหรับพวกเรา หากความสดชื่นของอากาศและความใสสะอาดของธารน้ำนั้นมิได้เป็นทรัพย์สมบัติส่วนตัวของเราแล้ว ท่านจะซื้อสิ่งเหล่านี้ไปจากเราได้อย่างไร..'

น่าแปลกที่วิธีคิดความเชื่อเช่นนี้ถูกไล่ต้อนหดเล็กลงทุกที ขณะวิธีคิดแบบคนขาวกลับขยายวงครอบคลุมไปทั่วโลกกลายเป็นเรื่องสามัญ เป็นที่ยอมรับของมนุษย์ พร้อมใจกันแย่งชิงซื้อ-ขายเอาทุกสิ่งทุกอย่างมาเป็นของตน (เชื่อว่าอีกไม่นานแม้อากาศมนุษย์ยังต้องจ่ายเพื่อใช้หายใจ)

ขณะวิธีคิดแบ่งปันกันใช้ ช่วยกันดูแล หดเล็กลงทุกที
มนุษย์รุ่นต่อไปยังถูกปลูกฝังให้แย่งกันเรียนแย่งกันสอบ พัฒนาไปจนถึงแย่งมวลชน ชิงอำนาจฮุบผลประโยชน์ส่วนรวม ใครสามารถพัฒนาวิธีการได้ซับซ้อนกว่าก็จะเป็นผู้มีชัย เอาความเห็นชอบของคนส่วนใหญ่ไปและคนพวกนั้นก็ร่วมแรงใจปลูกฝังวิธีคิดให้ลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไป

จนถึงวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกตีราคาค่างวด (ไม่เว้นกระทั่งสำนึกผิดชอบชั่วดี)

เราพัฒนาวิธีคิดแบบคนขาวมาจนกู่ไม่กลับเสียแล้ว ทั้งรู้ว่าบั้นปลายผลจะเป็นอย่างไร เรายังมุ่งหน้าไป

อินเดียน่าโจนส์ เดอะลาสต์ครูเสสจบด้วยฉากเฮนรี่ โจนส์ โบรดี้ อินเดียน่าและผู้ช่วยขี้ม้ามุ่งยังดวงอาทิตย์อัสดง

เงาม้าควบทะยานในแสงสีสนธยา

ข้าพเจ้าไม่อาจสัมผัสความรู้สึกผู้ควบขี่ เนื่องเพราะเกิดมาในยุคมนุษย์ใช้เครื่องยนต์กลไกและน้ำมัน แต่ทุกครั้งที่เห็นภาพนี้อดไม่ได้นึกสะกิดใจว่าภาพเงาดำที่ผู้ควบขี่ผสานเป็นร่างเดียวกับพาหนะโยนตัวขึ้นลงบนฉากแสงสีสนธยานี้บอกอะไรกับคนรุ่นหลัง

แม้จะไม่แน่ใจอะไรนัก แต่ก็รู้แน่ว่าการเดินทางของพวกเขาจะทอดยาวและนานด้วยลมหายใจต่อลมหายใจ เนื่องเพราะพวกเขาเดินทางพร้อมสำนึกเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับสรรพสิ่งรอบกาย ขณะเดินทาง ทุกสิ่งทุกอย่างหาได้แยกออกจากกัน แนวป่า ทุ่งหญ้า ลำธาร ม้า คน ทั้งหมดเดินทางไปด้วยกันพร้อมการหมุนของโลก

ต่างการเดินทางด้วยเครื่องยนต์กลไก ข้าพเจ้ารู้แน่ว่าไปแค่สักพักน้ำมันก็จะหมด ●

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น