กิ่งก้านใบเกี่ยวกันขนันขนัด
ซุ้มชาดัดคงจะติดความคิดถึง
ไว้กับทุกก้านใบไหวคำนึง
จึงรัดรึงกันนัวเนียเสียกระนั้น
ม่านบาหลีคลี่สายเป็นลายม่าน
พลิ้วขยับสับสานกระชั้นสั่น
ทำนองลมห่มลานหรือนานครัน
จึงเพรียกหวั่นว่าสะทกเหมือนถูกลืม
แคตตัสล้มเรียงวางกระถางเท
ลงระเนระนาดคราวอาบดาวดื่ม
ผงดินกระจัดกระจายคล้ายแสร้งยืม
การรอคอยที่ถูกลืมมาโรยลาน
พลูด่างดกดาษไต่เต็มใบด่าง
ยังบอบบางอยู่อย่างเคยเกยมุมบ้าน
แค่น้ำค้างก็ประคองผองใบบาน
จะเท่านานคงมิท้อการรอคอย
ไม่เหมือนเฟิร์นต้องอยู่คอยดูแล
จากกันแค่ข้ามวันก็พลันหงอย
เจ้าอ่อนไหวเสียกระนั้นถั่นทยอย
น้อยอกน้อยใจไปตามตาม
จึงพากันทิ้งกระถางลงกลางแล้ง
คราน้ำแห้งขาดคนสนใจท่าม
ระไอลมห่มร้อนมารอนลาม
จึงเจ้างามพากันตรมลงล้มตาย
เสร็จสงครามตามหาสันติภาพ
สุขทุกข์อาบวาบอารมณ์บ่มความหมาย
ชีวิตหนอบอบบางรางระบาย
จะปลิดปลิวหรือละลายมิรู้เลย
กลับมาบ้านผ่านพ้นอีกหนหนึ่ง
สายรำพึงยังรำพันเจ้าขวัญเอ๋ย
ระเกะกะผละผ่านการละเลย
พ้นชั่วลมรำเพยก็เลยลับ

เราสูญเสียบางอย่างระหว่างการได้มา
ลึกแววตาชราวัยไหวสดับ
การแตกช่อกอใหม่ รอยไหม้ยับ
เราแลกกับอะไรเล่าในเงานั้นฯ

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น