พระออกบิณฑบาตสวัสดิ์ขอรับท่านอัม

 

ท้องฟ้าฝั่งอ่าวไทยยังหลับกรนอยู่ครั่นครืน พวกจังหรีดกรีดปีกระงม ส่วนกบเขียดที่ประสานเสียงเอี๊ยบโอ๊บเซ็งแซ่เมื่อก่อนข้าพเจ้าจะสลบไสลสงสัยพากันพบคู่สู่สมใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้เงียบเสียงไปเสียทั้งนั้น

งานที่ข้าพเจ้าตรำทำมาร่วมสองอาทิตย์แล้วเสร็จไปย่ำยามสองของค่ำคืน ทั้งร่ายสาส์นขอบคุณการุณยมิตรที่กรุณาสละเวลาแลสายตาช่วยให้งานเขียนที่ยังไม่นับเป็นงานเขียนอันใดได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ใช้เวลาไปอีกค่อนคืน กว่าจะปูเสื่อกางมุ้งกว่าจะได้หลับตาปาเข้ายามสาม แผล็บเดียวดันตื่นเสียนี่ เลยโผล่มาเคาะกระดองหอยทากของท่านนี่ล่ะขะรับ

เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนเลยขอรับระหว่างงานสำเร็จอันข้าพเจ้าขัดเกลาด้วยขี้เลื่อยเฉพาะตนช่างต่างราวข้าวเหนียวสังขยากับปลาร้าส้มตำ (พอจะเห็นภาพไหมขอรับว่าแตกต่างกันเพียงไร? อ้อ! มันคนละเรื่องหรือขอรับ อ่ะนะกล่อมแกล้มไปก่อนนะท่าน คิดคำเปรียบเปรยแอ๊วแบ๊วไม่ออกน่ะขะรับ) แตกต่างอย่างมากมายกับงานที่ผ่านการุณยพิจารย์จากหมู่มวลมิ่งมิตร ช่วงต่างตรงนั้นเป็นจังหวะก้าวกระโดดที่ข้าพเจ้าน้อมรับมาอย่างไม่คาดคิด เรียกได้ว่าหากไม่มีคำชี้แนะจากสหายไม่มีทางไหนเลยที่ข้าพเจ้าจะก้าวพ้นขีดจำกัดตนไปได้

นั่นเป็นอะไรบางอย่างที่สายตาอันใช้โลมไล้เรือนเรียวชะลูดของแม่นางปารีส ฮิลตั้นไม่อาจมองเห็น จะเห็นได้ก็ด้วยหัวใจที่ผ่านไตรสิกขาชำระคราบไคลไปบ้างแล้ว

อะไรที่ว่านั้นหากจะใช้ผัสสะอันโอบรัดจอกเมรัยด้วยแววตาเยิ้มยวนมาแตะก็คงต้องรับไปแต่อวากาศอันเวิ้งว่าง จะแตะได้ก็ด้วยหัวใจที่ไร้แล้วซึ่งอคติมายาคติใด

แม้ไม่มีซุ้มเสียงให้ยิน หามีรูปร่างให้ยล แต่คุณผล (อ่านว่า คุ-นะ-ผล) ได้สำแดงเห็นชัดถนัดใจ

สิ่งนั้นเป็นสัมพันธภาพอันก่อเกิดขึ้นระหว่างผู้คน เป็นสิ่งดีที่คอยช่วยเตือนข้าพเจ้าว่าชีวิตนั้นยังน่ารื่นรมย์ เหมือนอรุณรุ่งที่เฝ้าปลอบประโลมใบหญ้ายามต้องอำลาหยาดน้ำค้าง

เป็นสิ่งที่ผองเรามอบให้กันโดยหามีการร้องขอร้องรับ กลับเป็นไปตามธรรมเฉกเช่นทิวเมฆที่ไม่เคยร้องขอพลิ้วผ่านของสายลม แต่ทั้งสองก็ได้ร่วมสำแดงนาฏกรรมบนท้องฟ้าบำเรอแด่สายตาผู้นิยมระบำรำฟ้อนอย่างวิจิตร

เกือบปีแล้วสิขอรับนับจากวันที่ผู้น้อยโผล่ไปน้อมขอท่านกรุณาอนุญาตให้ประดาลูก ๆ ลายเส้นมีชีวิตของท่านมาวิ่งเล่นที่ก้าวฯ วันที่ท่านตอบรับข้าพเจ้ายินดีเป็นกำลัง เช่นเดียวกับความปีติที่รับการยืนยันว่าจะได้สัมผัสงานเขียนของหมู่มวลสหายอันข้าพเจ้านิยมยกย่อง

ระบำเมฆของผองเราคลี่ม่านสู่สายตาผู้ชมครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างน่านิยม ระหว่างนั้นข้าพเจ้าก็เฝ้าเหลือบมองลีลาเริงรำแห่งท่าน ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ถึงจังหวะที่สม่ำเสมอต่อเนื่อง เรียบง่าย ปล่อยปละแต่ไม่ละเลย ดูเหมือนเล่นแต่เป็นจริงเป็นจัง

นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากท่าน
นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับจากการร่วมก้าวฯของเรา

คิดถึงสหายพี่ท่านกู๊ดดด ข้าพเจ้ารู้สึกว่าท่านผิดหวังกับการเริ่มออกเดินของก้าวฯ แต่อยากเรียนท่านอยู่เสมอว่าเงาสะท้อนแห่งเรานั้นหาใช่เป็นแค่ลายอักษรมอบให้กัน หากแต่ยังมีอีกหลายเหลี่ยมมุมที่แสงเงาของเราสะท้อนกันไปมา กระทั่งเหลือบมุมที่ไม่อาจเห็นด้วยตา ขอเพียงเราก้าวไปด้วยกัน แต่พี่ท่านก็จากไป

อีกเรื่องที่คิดคราใดก็กระดากใจเสียทุกครา ก็ความนึกคิดแรกที่ไปนั่งคุยกับท่านยังบ้านบล็อกแก็งค์นั้น ข้าพเจ้าคาดหวังว่าได้งานท่านครบปีวันใด คงมีเนื้องานมากพอที่จะนำไปเสนอนิตยสารบนแผงสักเล่ม หากท่านไม่ยอมเสนอข้าพเจ้าจะจัดการให้ด้วยความที่มั่นใจว่านาม 'อัมโปะ' จะต้องได้รับการจารึกไว้ในสยามประเทศฐานะการ์ตูนนิสต์แนวหน้า

ครั้นเวลาผ่านได้ซึมซับมุมคิดแห่งท่าน ความตั้งใจที่ว่าค่อยหดหายไปด้วยตระหนักแล้วว่าท่านล่วงภาวะวิสัยเหล่านั้น อีกทั้งลูก ๆ ของท่านก็พ้นแล้วจากจังหวะก้าวเช่นนั้น อยู่ที่ว่าท่านจะยินยอมยืนตรงนั้นหรือไม่แค่นั้น คิดคราใดให้กระดากใจเสียทุกทีไป (เอ้า! แถมอีก นั้น!)

และที่ต้องโผล่มาขอประทานโทษ ด้วยว่าข้าพเจ้ากวักมือชักชวนท่านมาด้วยวรรณนาวาลำนี้ก็แล้วเหตุไฉนข้าพเจ้าดันกระโดดแผล็วลงทะเลไปเสียราวกับว่าอากาศร้อน หรือใคร่จะออกกำลังว่ายน้ำเล่นเสียเต็มประดา

ช่วงหลังมานี่ข้าพเจ้าละอายใจที่ไม่ได้ปันหัวใจให้ก้าวฯเหมือนดังก่อนมา

เรียนท่านตามสัตย์ ด้วยความที่ข้าพเจ้าชื่นชมเหล่าสหายมากมายนัก มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องก้าวย่างไปบนอักขระวิถีได้อย่างสาสมใจ ข้าพเจ้ายิ่งดิ่งจมลงในห้วงสมุทรแห่งพิลาสนิมิตหมาย  อยากเห็นก้าวฯ รุดหน้าทั้งรูปแบบ เนื้อหา ช่องทางเผยแพร่ ยิ่งคิดก็ยิ่งคันไม้คันมือ

อารมณ์นั้นถวิลหวนถึงครั้งเรียนอยู่ปีสาม ข้าพเจ้าบ้าบอทำสะดวกสารชมรมฯ ล่าต้นฉบับเอง เขียนเอง พิมพ์เอง เป็นที่สนุกสนาน ผลของมันหรือขอรับ? ข้าพเจ้าตกรวดเพราะนิสัยทำอะไรได้ทีละอย่าง!

ถึงวันนี้นิสัยที่ว่ายังคงเกาะหลังข้าพเจ้าอย่างเหนียวแน่นไม่ต่างจากนายเห็บอ้วนพีในซอกขนเจ้าโทนี่ดัลเมเชียลพันทางที่ได้สายพันธุ์มาแค่ปลายหางนีดส์เดียว

ครั้นเริ่มคิดเลยเถิดเรื่องก้าวฯ ก็ให้สะดุ้งใจ ท่าจะเอาอีกแล้วล่ะสิดินเอ๋ย ตั้งใจจะเขียนนิยายแต่นี่เหตุไฉนในสมองเอ็งกำลังวนเวียนคิดแต่จะเห็นก้าวฯ เป็นบล็อกกาซีนผงาดขึ้นในสยามไซเบอร์สเปส (ก็ด้วยความที่ชื่นชมบรรดาสหายเสียเป็นกำลังนี่ล่ะขะรับ อยากสะกิดให้โลกรู้ว่า "นี่..เพื่อนโผ้ม!")

คิดได้เช่นนั้นพลันต้องดึงใจกลับหาเป้าหมายอันมาดมั่นไว้แต่แรก ไม่เช่นนั้นผลคงไม่ต่างจากครั้งเรียนปีสามสักเท่าไร เมื่อไม่สามารถเทใจก็ได้แต่ละอายใจตนอยู่มิวาย

ไม่มีทางชะล้างคราบละอายที่ว่านอกเสียจากถอยออกมา (เป็นความงี่เง่าเฉพาะบุคคลน่ะขะรับ อายุต่ำกว่าสิบแปดปีกรุณาอ่านโดยวิจารณญาณ ห้ามอ่านเกินวันละสองบรรทัด ผู้หญิงและสตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนอ่าน)

อา..โม้มาเสียยาว ที่แท้จะบอกท่าานแค่นี้เอง หลายสิบบรรทัดก่อนหน้าไม่ต้องอ่านนะขอรับ เอาแค่สามสี่บรรทัดข้างบน (ที่เหลือโม้นอกเรื่องทั้งน้าน แหะ แหะ)

ยังชื่นชมหัวใจที่เปิดกว้างปล่อยวางของท่านเหมียลล์เดิม

คารวะ
สหายดิลล์

1 ความคิดเห็น:

  1. วานท่านอ่านสาร์นจากข้าน้อย

    ที่ gmail สักนิขอรับ

    ตอบลบ