บทนำ :  

ผมใช้สมุดสเก็ตช์ปกแข็งเป็นสมุดบันทึก   ข้างในเป็นกระดาษปอนด์เนื้อหนา  ใช้ดินสอเขียนเพราะความที่ชอบโทนหนักเบาของเส้นสาย  นอกจากใช้ขีดเขียนตัวอักษรแล้วยังได้เขียนรูปลงสีน้ำ  ปกที่แข็งแรงทำให้ทนทานกับทุกสภาวะ  เนื้อกระดาษเรียบลื่น สะอาด นุ่มนวล ให้ความรู้สึกเหมือนสัมผัสของหญิงสาวที่คุ้นเคย

สมุดบันทึกพลิกหน้าไปพร้อมวันเวลาของชีวิต  เรื่องราวต่าง ๆ ผ่านเข้ามาทักทาย สุขบ้างทุกข์บ้าง ผู้คน บทเรียนชีวิต แง่คิดมุมมองต่าง ๆ ถูกหยิบยกมาพูดคุยผ่านการเขียน จนเหมือนเราทั้งสองรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี 

ทุกครั้งที่สมุดบันทึกเดินทางถึงหน้าสุดท้าย

ใจหาย!

ความรู้สึกสิ้นสุดกลับมาเยือน กลับมาย้ำเตือน 'ทุกเริ่มต้นล้วนกำเนิดจากการสิ้นสุด' ใจนั้นเล่ายังอาลัยพันผูก  เราผ่านเปลวแดด ฝ่าสายฝนมาด้วยกันแรมเดือนแรมปี  หน้ากระดาษเหล่านั้นเก็บอะไรต่อมิอะไรที่ความทรงจำของผมทำตกหล่นไว้มากมาย  ความสิ้นสุดไม่เคยผัดผ่อน..แม้พลิกกลับมองหาพื้นที่ว่างเพื่อจะได้สอดแทรกตัวอักษรลงอีก..ที่สุดก็เต็ม..ไม่มีหน้าต่อไปให้พลิก!

เราจำต้องล่ำลา  ในความอาลัยทุกครั้งยังเต็มด้วยความอิ่มเอมใจว่าวันเวลาไม่ได้สูญหาย...สมุดบันทึกที่บัดนี้อยู่ในสภาพทรุดโทรมทำหน้าที่เก็บความทรงจำไว้ให้...เสมอมา

ผ่านมากี่ปีแล้วนะ..ที่ผมไปเยือนเกาะลันตา?

ผมหยิบสมุดบันทึกเล่มเก่ามาพลิกดู  วันนี้ของปีนั้นผมอยู่ที่นั่น  เรื่องราวผุดขึ้นเหมือนพรายฟองรำลึกลอยจากก้นบึงอดีตกาล...ใบหน้าผู้คนยังแจ่มชัด  น้ำใจไมตรีที่ได้รับยังคงอยู่ 

ปีนี้ผมไม่ได้ไปเยือนพวกเขาอย่างที่ตั้งใจ  ได้แต่ส่งบันทึกความทรงจำมาทักทาย...ด้วยใจระลึกถึง...

“ลันตา..ในเงาความทรงจำ”

 (มีต่อ) 

1 ความคิดเห็น:

  1. ตีหนึ่งเศษสวัสดิ์ขอรับพี่ท่าน

    สำเร็จขอรับสำเร็จ!

    ใจหงายใจคว่ำคิดไปต่างๆนานา

    ขอบพระคุณพี่ท่านมากขอรับ ถ้าผมงมแก้เองสงสัยคงไม่ได้โพสกันละทีนี้

    ปล.สองบทความล่าสุดขอยกยอดไปอ่านวันพรุ่งนะขอรับ สายตัวกำลังจะขาด

    ปล.กะงานหรือขอรับ อย่าให้พูดเลย เห้อ เห้อ เห้อ ฯลฯ

    ด้วยความเคารพขอรับ

    คั่น

    ตอบลบ