๕.

จี๊ปซาฮาร่าเลี้ยวจอดในแค้มป์  ทหารพราน ๒-๓ คนวิ่งเข้ามา “หัวหน้า ผู้พันเรียกตลอดเลยครับ”

“ปล่อยให้เรียกไปเถอะ" ชายหนุ่มก้าวลงจากรถ "ชุดอุปกรณ์ลาดตระเวนชุดใหญ่  น้ำมันเต็มถัง น้ำมันสำรองสอง ด่วน!”

“ครับผม!”  พวกทหารพรานแยกย้ายกันจัดการ

หัวหน้ามุดเข้าในเต็นท์พักแรม  หญิงสาวชุดดำกวาดตามองด้วยความสงสัย  เป็นแค้มป์ทหารที่คล้ายเตรียมทำสงคราม  มีรถลำเลียงพล จี๊ปติดปืนกลจอดเรียงเป็นระเบียบ  ยังมีรถแบ็คโฮขนาดใหญ่เป็นเงาตะคุ่มคล้ายหุ่นยนต์ยักษ์อีกหลายคัน  ครู่เดียว...หัวหน้ากลับออกมา

ทหารพรานที่กำลังเติมน้ำมันร้องขึ้น

“อย่างนี้สิครับ หัวหน้าตัวจริง ชุดเมื่อกี้ไม่เหมาะกับหัวหน้าเลย...ครับผม!”

หญิงสาวเบือนหน้ามอง

ชายหนุ่มอยู่ในชุดคอมแบทเสื้อยืดสีเข้มสกรีนอักษร PARK RANGER ขาวตัวใหญ่เต็มอก แขนยาวรัดรูป เห็นมัดกล้ามจากไหล่ตลอดแขนเป็นเงาจากแสงไฟในเต็นท์  เขาวางปืนอาการ์ไว้ในรถ

“ยังไม่เสร็จอีกเรอะ?”

“โธ่หัวหน้า" ทหารพรานส่งเสียงอ่อย "ผมเร่งหัวจ่ายน้ำมันได้ที่ไหน  ส่วนชุดอุปกรณ์เดินป่าชุดใหญ่ อาหารแห้ง น้ำมันสำรอง  พร้อมแล้ว...ครับผม!” มือหนึ่งถือหัวจ่าย...อีกมือป้องปากกระซิบ

“หัวหน้าจะพาสาวไปไหน?...ผู้พันถามผมจะได้รายงาน”

“บอกผู้พันว่า ผมไปเที่ยวป่า ๒-๓ วัน” หัวหน้าส่งเสียงหัวเราะร่วน  

"ครับผม!" ทหารพรานดึงหัวจ่ายปิดฝาครอบอย่างรวดเร็ว  “เรียบร้อยครับผม!”

จี๊ปซาฮาร่าแล่นออกจากแค้มป์  ฝ่าไปในความมืดของค่ำคืนแรม

หญิงสาวนั่งกระสับกระส่ายด้วยความกังวล  แม้ตองลีจะชำนาญเส้นทางเดินป่าแต่จะเร็วกว่ารถได้อย่างไร? 

พวกมันตามไปแล้ว  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านยังไม่ปลอดภัย ตองลีกำลังอยู่ใน...อันตราย!

ก่อนออกเดินทาง  ทุกคนปฏิญาณยอมสละชีวิต  ไม่มีใครคิดกลับหมู่บ้านหากไม่ได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คืนมา..แต่เมื่อรู้ว่าตองลีตกอยู่ในอันตรายเธออดกังวลไม่ได้

“เราจะไปดักคอยที่แม่น้ำ" ชายหนุ่มบอก "มีช่วงน้ำตื้นพอเดินข้ามได้อยู่ ๒-๓ จุด หากโชคดีเดาถูกเราจะพบเพื่อนเธอที่นั่น...ยกเว้น โชคร้าย...” เขาหยุด

เธอหันมอง  เขาดูแข็งแรง บึกบึน ร่างกายใหญ่โตกว่าพวกหนุ่ม ๆ ที่หมู่บ้าน  ดูเป็นคนอารมณ์ดีหัวเราะง่าย  เธอไว้ใจให้เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องสำคัญของหมู่บ้านได้อย่างไร..? เขาช่วยชีวิตเธอ...ไม่งั้นเธอก็คงมอดไหม้ไปแล้ว...สิ่งศักดิ์สิทธิ์...ยังกลับไม่ถึงหมู่บ้าน...ที่สุดเธอเอ่ยถาม

“ท่านเป็นใคร ทำไมคนพวกนั้นเรียกท่านหัวหน้า?”

ชายหนุ่มหันมองแล้วยิ้ม “ผมเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ...ที่เรียกหัวหน้าก็เพราะผมเป็นหัวหน้า” เขาฮัมเพลงเคาะมือบนพวงมาลัย

“ปู่ส่างคำบอกว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นมิตรกับเรา”

“แหงล่ะ! เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เป็นมิตรกับทุกคนที่รักธรรมชาติ รักษาป่า ไหน ว่าไงนะ! ลุงส่างคำเหรอ...” เขาหันมองเธอ “เธอเป็นอะไรกับลุงส่างคำ?”

“ข้าเป็นหลาน”

“ฮา ฮา ดีจริง หลานลุงส่างคำโตเป็นสาวแล้วหรือนี่...ฮา ฮา” เขากวาดตาสำรวจเธอ หญิงสาวขยับกายกระอักกระอ่วน “พักผ่อนก่อนเถอะ  เราคงไปถึงฝั่งแม่น้ำตอนเช้าตรู่ เธอคงฟกช้ำน่าดูเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็รู้ นอนเถอะ...อ้อ!” เขาเอื้อมมือปรับเบาะให้  

“ท่านรู้เส้นทางแน่หรือ?” เธอกังวล

“โอ้ย! นอนไปเถอะ!” เขาไม่สนใจตอบคำถามขับรถเคาะพวงมาลัยพลางฮัมเพลงอะไรสักอย่างที่เธอฟังไม่เข้าใจ แต่แล้วคล้ายคิดขึ้นได้หันมาจ้องเธอเขม็ง "เกิดอะไรขึ้นที่หมู่บ้าน?" เขาถาม

หญิงสาวขบริมฝีปากเพ่งมองเขาแน่วนิ่ง

"บ๊ะ!" เขากระชากเสียง "ลุงส่างคำมีบุญคุณกับผม! ผมต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!"  

เรื่องราวจึงพรูจากปากหญิงสาว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น