ทันทีก้าวลงจากบัสปรับอากาศสมุย-หาดใหญ่ ภาพคุ้นตากลิ่นอากาศคุ้นชินก็สัมผัสทักทายด้วยมิตรไมตรี ข้าพเจ้าตลบผ้าคลุมศีรษะป้องละอองฝน บาติกลายบาหลีสะบัดริ้วเย้าสายลมยะเยือกไปตามถนนลูกรังลุ่ม ๆ ดอน ๆ มีน้ำขังต้องไต่ขอบเลาะไปมา บางช่วงสิ้นทางจำย่ำลุยน้ำสีขุ่นปูนสะพายย่ามอวบอ้วนกระเตงกันมารวมระยะทางหลายพันกิโลเมตรมุ่งที่หมายสุดท้าย..อันเป็นจุดเริ่มต้น
หลายคืนวันในแผ่นดินล้านช้างผ่านราวฝันชั่วคืน
ข้าพเจ้ากลับมายืนอยู่ตรงที่เดิม ที่ใช้ชีวิตจำเจซ้ำวันคืนร่วมสามปี สามปีที่ไม่เคยออกเดินทางไกลอีกเลย สามปีที่อุทิศเวลาชีวิตให้กับฝึกฝนอักขระรจนาการด้วยประทีปหวังริบหรี่ว่าจะสามารถขีดเขียนอักษรไทยได้ดังใจหมาย
สิ้นสุดสามปีของการฝึกฝนด้วยออกเดินทาง ปล่อยกระแสสำนึกครุ่นคิดทบทวนถึงวันเวลาผ่านเลยแลไปข้างหน้าพินิจวันเวลาที่ทีละน้อยถมถ้วยแห่งชีวิตค่อย ๆ จมลง (แถมพกด้วยพบปะมิตรสหายที่เคารพผู้อุทิศแล้วซึ่งจิตวิญญาณแด่เทพแห่งอักขระนิรมิต..(ข้าพเจ้าจดได้ว่าปะเหล่าท่านแต่จำไม่ได้จริง ๆ ว่าเสียมรรยาทไปมากน้อยเท่าใด..แฮ่!)..)
คืนวันเหล่านั้นจะกลายเป็นบันทึกการเดินทางซึ่งจะเริ่มวันพรุ่ง ตะกอนครุ่นขุ่นคิดจะกลายเป็นแนวปฏิบัติสำหรับวิถีแห่งนักจารอักขระซอมซ่อในปีพรุ่ง
เหมือนเข็มนาฬิกาหยุดเดินชั่วขณะกลับมากระดิกปลายวนย่ำย้ำรอยเดิมอีกครา
ข้าพเจ้าไขกุญแจน้อยเปิดขนำกล่าวคำทักทาย จากนั้นเคลื่อนกายเข้าในโครงไม้กว้างสามคูณสี่เมตรอันเป็นเหมือนร่างกายคุ้มแดดฝน ความคุ้นเคยเก่า ๆ คืนกลับมา เหมือนวิญญาณออกท่องเที่ยวชั่วครู่จากนั้นกลับคืนร่างดำเนินชีวิตเรียบง่ายเดิม ๆ ทีละวัน..ทีละวันต่อไป
ปัดกวาดขนำไม้เสร็จต่อสายสู่ขนำใยแก้ว ปะเหล่าท่านทิ้งคำทักทายไว้ช่างไม่ต่างใบไม้สายลมละแวกถิ่นที่ยิ้มรับการกลับด้วยสัมผัสละมุนอุ่น ตรงปลายสุดของการเดินทางนั้นเหนื่อยล้านัก ข้าพเจ้าต่อรถครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะรถเที่ยวเดียวถูกจองเต็ม กระทั่งได้รถสมุย-หาดใหญ่สำหรับช่วงสุดท้ายการเดินทางจึงบรรจบจุดเริ่ม ความเหนื่อยล้าอันตรธานทันทีก้าวลงสัมผัสถิ่นอาศัย เช่นเดียวกัน..หัวใจเหน็บหนาวจากระหกระเหินเดินทางสัมผัสอุ่นคำทักทายที่เหล่าท่านทิ้งไว้ก็พลันผ่าวไอ
ผู้น้อยกลับมาแล้ว(ด้วยครบองคาพยพ)
เศษดิน ธุลีเดิม
อ่านช่ออักษรท่านพี่ดินวันนี้แล้วข้าเจ้ารู้สึก
ตอบลบ"อ ย า ก ก ลั บ บ้ า น"
บ้านที่มิใช่มีความหมายเพียงเรือนพักใจ
เพราะถ้าเรือนพักใจข้าเจ้าคงมีหลายหลังเป็นแน่แท้
แต่เป็นบ้านในความหมายที่ว่าเมื่อกลับไปแล้วเจอคนที่รักอยู่พร้อมหน้า
สมัยเรียนมหาลัย เมื่อขึ้นปีสอง
ในวิชาการเขียนงานชิ้นแรกที่อาจารย์ให้เขียนคือเขียนถึงปิดเทอมที่ผ่านมา
ความเรียงชิ้นนั้นของข้าเจ้าชื่อ "กินข้าวพร้อมหน้า"
และนับตั้งแต่วันนั้นข้าเจ้าก็ไม่เคยสัมผัสความรู้สึกอบอุ่นเช่นความเรียงชิ้นนั้นอีกเลย!
แง้............อยากกลับบ้าน ออกไปหาซื้อตั๋วรถกลับบ้านดีกว่า
เหมือนเข็มนาฬิกาหยุดเดินหรือ? ข้าพเจ้าไม่ชอบคำนี้เลย
ตอบลบใช่แน่หรือว่าเข็มนาฬิกาหยุดเดิน?
ท่านคงหมายถึงเฉพาะนาฬิกาเรือนของท่าน คล้ายๆ หลงเข้าสู่แดนสนทยาหรือเปล่า แต่ท่านน่าจะบอกกันก่อนว่าเลยไปท่องแดนสนทยาด้วยข้าเจ้าจะได้ฝากจดหมายไปถึง"จักราช"สักฉบับ
ยินดีที่กลับมาค่ะ
สายลม
'จักราช'เนี่ย..ใครอ่า?
ตอบลบมะ ขยับเข้ามาใกล้ๆ จะท้าวความถึงนาม "จักราช" ให้ฟัง
ตอบลบจักราชนี่คือ'คนรักเก่า'ของข้าเจ้าเองแหละ เราครองรักกันอย่างหวานชื่นแสนดูดดื่มได้พักนึงเขาก็หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ข้าเจ้าควานตามหากันให้ควัก เดินทางจบร้อยเอ็ดเจ็ดย่านสมุทร เพียงหวังจะได้เขากลับมาครองคู่ตุนาหงันกันอีกครั้ง มารู้ตอนหลังว่าเขาดันไปหลงเสน่ห์หญิงงามแห่งเมืองลับแล ผู้มีนามว่า "เมยานี"
หลังจากหยุดโศกศัลย์อาดูรข้าเจ้าหยุดตามหา แต่ไม่ได้หมายความว่าหยุดรักเขาไปด้วยหรอกนะ ข้าเจ้ายังรักเขาเสมอไม่เสื่อมคลาย แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อหัวใจเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้วไซร้ จะฉุดจะรั้งยังไงก็ไร้ความหมาย
รู้ข่าวว่าเขามีความสุขดีก็ดีใจด้วย
จดหมายที่จะส่งไปก็แค่จะบอกว่า
ไม่ต้องห่วงทางนี้ ขอให้เขามีความสุขมากๆ
ไงทั่น ตำนานรักข้าเจ้าซาบซึ้งมั้ย?
ครึครึครึ
:)
สายลม
อ๊ะ!เอาบ๊วยเค็มไปเม็ดนึงเป็นรางวัล
ตอบลบความรักหญิงสาวมักเป็นเช่นนี้ เมื่อร่วมเรือนแล้วต่อให้พบฝ่ายชายต่ำช้าเพียงไรยังรักไม่เสื่อมคลาย ต่างฝ่ายชายต่อให้หญิงสาวในดวงใจแสนงามเพียงไรยังคงเสาะหาแม่งามคนใหม่ร่ำไป
เจ้า 'จักรราช'เนี่ยร้ายนัก เห็นทีต้องปล่อยให้ท่านจัดการ ส่วนแม่งามเมืองลับแลตะละแม่ 'เมยานี'นั้น นามนางช่างคล้องคลึงยอดดวงตาขวัญใจข้าพเจ้าแม่ลูกเกดเมทินีนัก เพื่อเห็นแก่มิตรภาพของเราข้าพเจ้าเห็นควรเก็บนางเสียเพื่อมิให้เป็นเสี้ยนหนามหัวใจท่านต่อไป
ฟังความในจดหมายท่าน..การยอมสละรักเพียงหวังเห็นผู้ที่เรารักเป็นสุขนั้น..ท่านคงสวมบทนางเอกในท้องเรื่องเสียเป็นแท้
ไม่ทราบชื่อเรื่องหรือฉายช่องใดหรือเป็นท่านรจนาด้วยปลายขมองอันคมกริบแห่งท่านเอง เพียงข้าพเจ้าขอจองบท 'โจรไพร'ไว้ก่อน ด้วยเพราะร้อยทั้งร้อย โจรไพรไม่แคล้ว..คริ..คริ..คริ..
;)
แม่หญิงพระพาย ผมลองนั่งนับนิ้ว ท่านตกคนที่สิบพอดิบพอดี
ตอบลบอุแหม่! ไหงสาว ๆ ที่ผมรู้จักดันหลงรักแต่เจ้า 'แงซาย'ไปเสียหมดไม่รู้
ส่วนผมชอบยอดพรานไพรนายรพินทร์ ไพรวัลย์ มากกว่า
เฉพาะหมวกที่สวมนี่ก็กินขาด!
อุอุ
อา..จากเรื่องเพชรพระอุมาเองรึ!
ตอบลบขอสมา..ขอสมา..
ผู้น้อยนั้นอ่อนอ่านนัก รู้อยู่ว่าหนังสือในโลกนี้ยังมีอีกมากมายเสียเหลือเกินมิวายยังเพลินอยู่แต่โดราเอม่อน อิกคิวซัง ปะท่านพายยิงมุกล้วงกึ๋นนักอ่านฉะนี้ผู้น้อยจึงบ๊องแบ๊วบ๋อแบ๋ไม่เป็นท่าหวังว่าท่านจะอำไพ
ขอบพระคุณพี่สองจอมไพรที่ช่วยแหกขี้ตาให้สว่างจ้าแจ้งใจ (พี่สองใช่ไหม? ชื่อเชิ่งไม่ยอมลงไว้)
(ว่าแต่นายรพินทร์เนี่ยอดอยากอะไรปานนั้น! หมวกเหมิ่งยังไม่ละเว้น)
สวัสดีวันสิ้นปีขะรับ
แฮ่ ๆ
ตอบลบกระผมเองครับพี่ท่าน
ลืมลงชื่อ
มะคั่นฯ
ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ