ออกจากลันตาครั้งแรก

ผมใช้โทรฯ ของซีเล็กติดต่อเพื่อนเป็นระยะ  ไป ๆ มา ๆ พวกเปลี่ยนเป็นเชี่ยวหลานทำให้ผมต้องตัดใจออกจากลันตา

เวลาร่วมเดือนที่ผ่านมา..ผมพยามสอบถามวิธีขับรถบนพื้นเนินสูงชันจากเป็ดเจ้าหน้าที่ขับรถอุทยานฯ ได้เรียนรู้ความผิดพลาดต่าง ๆ ตอนขาเข้าของผม  อีกทั้งสังเกตวิธีขับทุกครั้งที่ติดรถเข้าตลาด  แต่ไม่เคยลอง

คราวนี้จะเป็นการทดลองครั้งแรกและสุดท้ายเพราะหากผ่านได้ก็จะออกไปเลยไม่กล้ากลับมาอีก!

เช้าวันนั้นอุทยานฯ เงียบเหงาพวกเจ้าหน้าที่ถูกระดมไปช่วยงานเกาะรอกรวมทั้งซีเล็ก  ผมจำต้องอำลาเพื่อนชาวอุทยานฯ โดยไม่ได้พบหน้าผมฝากซีดีเพลงของคาราวานที่พวกเขาชอบไว้เป็นที่ระลึกกับแม่บ้านร้านค้าซึ่งเป็นภรรยาเป็ด  เก็บเต็นท์ อุปกรณ์หุงต้ม  เคลื่อนรถออกจากอุทยานฯ 

เนินแรกเป็นเนินชันที่สุดหากผ่านไปได้  เนินอื่น ๆ ก็ไม่น่ามีปัญหา

ผมเร่งเครื่องผ่านโค้งขึ้นไป..เนินแรกยังสูงชันขึ้นไปอีก..เสียงเครื่องร้องลั่นที่เกียร์สอง..

ขึ้นไปได้ครึ่งเนิน..

เหมือนเดิม..

เครื่องดับ!

เป็ดเคยบอกไว้ว่าอย่าให้เครื่องดับบนเนินเพราะรถจะหมดแรงส่ง  ผมทำความผิดพลาดซ้ำจนได้!

ลองสตาร์ทซ้ำแล้วซ้ำอีกก็เหมือนเดิม  รถถอยลงเรื่อย ๆ
ผมเข้าเกียร์หนึ่งหยุดรถไว้  นั่งปลงอาลัย..เซ็งตัวเองที่ไม่มีปัญญานำรถขึ้นไปได้  ผมเปิดประตูออกมาดู  ปรากฏล้อหลังคาก้อนหินอีกแค่คืบจะตกลงร่องลึก!

ผมยอมแพ้!

กลับลงไปตามหาเป็ดปรากฏโชคยังดีที่เช้าวันนั้นเป็ดไม่ได้ออกข้างนอก

เป็ดกับวิทย์ช่วยกันจนพารถขึ้นพ้นเนิน  ผมไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรให้สมความรู้สึกติดค้างสำหรับการช่วยเหลือครั้งนั้น  อีกอย่าง..การเรียนรู้วิธีใช้รถบนเส้นทางไหล่เขาสูงชัน รวมกับได้เห็นการช่วยเหลือรถคันอื่นของเป็ดในอีกหลาย ๆ ครั้งต่อมา  ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น..สำหรับผมเป็ดเป็นครูสอนขับออฟโร้ดตัวจริงเสียงจริง 

ผมออกจากเกาะลันตาไปทางสุราษฎร์นัดเจอเพื่อน ๆ ที่ปากทางเข้าเขื่อนก่อนเที่ยง  ผมไปถึงเป็นคันสุดท้าย

เรื่องราว..ความสวยงามธรรมชาติของเขื่อนเชี่ยวหลาน..ความสนุก..ในบรรยากาศของหมู่มิตรคงเป็นอีกบันทึกหนึ่ง

ผมอยู่เชี่ยวหลานสามวันสองคืน  ด้วยความไม่ได้เจอกันนานล่ำลาแล้วแทนที่จะแยกย้าย กลับยกขบวนไปต่อบ้านเพื่อนในตัวเมืองสุราษฎร์ 

ตอนเจอหน้ากันผมโวยเพื่อนเสียยกใหญ่ที่ไม่บอกให้รู้ว่าเส้นทางทุรกันดารอย่างนั้นทำผมเกือบเอาชีวิตไปทิ้ง  มีอยู่คนหนึ่งไม่ยอมเชื่อถือมั่นใจว่าตัวเองสามารถนำรถผ่านไปได้  เจ้าเพื่อนคนนี้ชื่อเซ้ง หน้าตาคล้ายเจเจตรินนิสัยคล้ายเต๋าสมชายต่างกันที่เซ้งมันรักเดียวใจเดียว(หลังปีใหม่ได้ยินว่าจะพาลูกสาวห้าเดือนมาโชว์ตัว) 

เซ้งชวนกลับเข้าลันตา 

ผมหนาว ๆ ร้อน ๆ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง  แต่ก็จำค่อนไปทางเชื่อเพราะเป็นที่รู้กันในกลุ่มเพื่อนว่าผมห่วยแตกที่สุดเรื่องขับรถ  คนอื่น ๆ ล้วนอยู่กับรถมายาวนาน  มีผมคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ชอบขับรถเลี่ยงได้เป็นเลี่ยง  พวกที่เหลือแยกย้ายกันกลับนัดพบอีกครั้งที่ลันตา

ผมกับเซ้งย้อนกลับมาลันตา
การเดินทางเที่ยวใหม่ในพเนจรรสที่มีเพื่อนร่วมทางจึงเริ่มขึ้น

ขอพรคุณพระคุ้มครองท่านสหัทยาให้ทุกอย่างผ่านพ้นด้วยดีแข็งแรงในเร็ววันขอรับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น