@ ธุลีดาว : โอ้..ใจเจ้าเอ๋ย
๏ เรื่อยสายลมรินโรยมาโชยชื่น
เคล้าพรายคลื่นเพรียวไม้ก็ส่ายไหว
ริ้วใบเรียวร่อนราญสะท้านไกว
ประดุจใจไหววอนสะท้อนทรวงลิ่วลอยเลื่อนเคลื่อนคลายสุดปลายหมอก
ล้อระลอกเลื่อมลายคล้ายแหนหวง
เห็นนวลกลีบบุปผาปผกาพวง
จะขอควงปวงภมรก็ร่อนกันล่วงลอยเร่เหว่ว้าหาทิวเมฆ
เยียบวิเวกเยือกใจหม่นใยฝัน
หวังซุกเหงาเงาแห่งแสงตาวัน
ยังมิทันเห็นใจคงไหม้จุณแว่วธารใสไหลยินมารินรื่น
ก็ยิ้มชื่นย่ามใจคงไม่สูญ
ลอยลงแอบธาราด้วยอาดูร
พวกฝูงปลาก็ปูนแต่เกียจกันพบโขดหินเคียงธารยังพาลหวัง
พวกกรวดชังก็ชวนพายวนขัน
หลบเพิงผาพักใจได้รำพัน
ผาก็พลันผลักไสไม่ไยดีล่วงลอยลัดพัดมาจนล้าอ่อน
ตะวันรอนจะพักไหนหนอใจนี่
เหนื่อยล้านักอยากพักลงที่ตรงนี้
นะคนดีขอตัก..อิงพักใจ ฯ
วันพรุ่งจะกลับมาเจ้าค่ะ
ตอบลบนิทราสวัสดิ์
-พระพาย-
zzzzz
ตอบลบ-คล้องใจ-
ตอบลบ๏ เรื่อยสายลมโลมลานมาผ่านแผ่ว
ยินเสียงแว่วขอตัก..อิงพักใจ
จะซบลงตรงนี้ไม่จากไกล
ไม่อาลัยอาวรณ์ถิ่นจรมา
เถิด..จะพักก็พักเสีย
แม้เหนื่อยเพลียจากทางวกของซอกผา
หรืออาดูรสูญสิ้นในธารา
และเจ็บปร่าด้วยรอยแสงแห่งตาวัน
ที่แห่งนี้จะโลมไล้ให้ไออุ่น
จงนอนหนุนหลับตานิทราฝัน
ใต้แสงยวนนวลผ่องละอองจันทร์
อย่าได้หวั่นผองภัยใดใดเลย
ที่แห่งรักภักดีนี้รอเจ้า
มาแนบเนาร่วมเรียงเคียงเขนย
แอบอกอ้อนอิงอุ่นอย่างคุ้นเคย
อย่าปลิวเลยไปสุดห้วง..นะดวงใจ ฯ
-พระพาย-
ปล.ข้าเจ้ายังรู้สึกขัดๆ หากกรุณาช่วยตรวจสอบให้หน่อยนะเจ้าคะ
คารวะ
ที่ท่านรู้สึกขัด ๆ เป็นสองบทแรก (ใช่ไหม?ใช่ไหม?)
ตอบลบสองบทแรกกับสองบทหลังต่างกันราวคนละคนเขียนเลยเทียว
แต่ก็ทำให้การบังอาจตรวจสอบ(หากท่านไม่ปล.ไว้ผู้น้อยย่อมมิอาจ ด้วยการกระทำเยี่ยงนี้เร้าอัตตาเต้นตื่นดีนักแล ทำไปทำมาอาจเผลอลืมตนคิดไปว่าชาญเชิงกลอนเต็มประดานำหางอึ่งกุด ๆ ออกมากระดุ๊กกระดิ๊กให้น่าอายไม่รู้ตัว)(ต่อ)แต่ก็ทำให้การบังอาจตรวจสอบง่ายดายขึ้น
ส่งมือมาขอรับ
หากท่านมองไปข้างหน้าจะเห็นทิวทัศน์ปกติ ดงไม้ ท้องฟ้า ทิวเมฆ
ข้าพเจ้าวาดนิ้วเป็นกรอบสี่เหลี่ยมแทนบานประตูซึ่งลอยอยู่ตรงหน้าท่าน
และ..นี่คือกุญแจ
กุญแจวิเศษที่ท่านจะใช้ไขประตูเข้าสู่อีกอาณาจักรของฉันทลักษณ์นิพนธ์ที่ดำรงคงอยู่มาแต่ครั้งสุโขทัยศรีอยุธยา ฯ
ผู้คนอาจเข้าใจไปว่ากลอนคือการเชื่อมร้อยคำด้วยสัมผัส นั่นเป็นความจริงเพียงเสี้ยว ยังมีส่วนเหลือของวงจันทร์ที่ซ่อนเงา หากไม่อาจเผยส่วนนั้นไหนเลยสามารถยลเพ็ญโสมกระจ่างจันทร์
การนำถ้อยคำมาเรียงร้อยด้วยสัมผัสนอก-ในได้บทกลอนก็จริงแต่ใช่จะได้ความไพเราะเสมอไป ส่วนหนึ่ง (แค่ส่วนหนึ่งนะขอรับ)ของความไพเราะอยู่ที่ 'เสียง'
หากเป็นท่านอาจารย์ภาษาไทยก็จะกล่าวถึงเสียงสูงกลางต่ำ เอกโทตรีจัตวา ตรงนี้ต้องลงด้วยเสียงกลางตรงนั้นต้องเสียงสูง สัมผัสที่เท่านั้นของวรรคนี้เป็นเสียงสูง ห้ามนำระดับเสียงเดิมสัมผัสกันเองจะขาดความไพเราะ กล่าวเยี่ยงนี้ทำข้าพเจ้าหัวปั่นมาแล้ว
เอาล่ะ..นี่คือกุญแจ
เสียงของกลอนเป็นทำนองเพลงขอรับ
ทุกกลอนเป็นทำนองเดียว
ขอท่านลองท่องกลอนที่ชื่นชอบสักบท
..
..
..
..
ท่องยัง? เอ้า! ท่องสิได้โปรด
แล้วลองท่องอีกบท
เมื่อเทียบเสียงท่านจะพบว่าตั้งแต่เริ่มจนจบล้วนทำนองเดียวกัน
ผลดีของการท่องจำอยู่ตรงนี้เองขอรับ เมื่อเราท่องกลอนเพราะ ๆ ขึ้นใจทำนองจะถูกบันทึกไว้ในฮาร์ดดีสโดยอัตโนมัติ(เขียนไงอ่า?)
ครั้นเรานั่งลงเรียงร้อยสร้อยมาลัยอักษรเราก็เพียงร้อยตามทำนองที่แว่วอยู่ในใจ รักษาเสียงสูงต่ำของทำนองไว้เป็นพอ
ลองดูตัวอย่างขอรับ
๏ เรื่อยสายลมโลมลานมาผ่านแผ่ว
ยินเสียงแว่วขอตัก..อิงพักใจ
จะซบลงตรงนี้ไม่จากไกล
ท่านจะรู้สึกขัด ๆ เพราะลงวรรคสองพลาดทำนอง ทำให้ลงวรรคสามถูกสัมผัสก็จริงแต่ขาดความไพเราะเพราะซ้ำเสียง หากลองเปลี่ยน'อิงพักใจ' เป็น 'พักอาศัย' ท่านจะเห็นว่าลงทำนอง
ท่านเองก็มีทำนองนี้อยู่ในฮาร์ดดิสดังจะเห็นได้จากสองบทล่าง (สี่วรรคเนี่ยเขาเรียกว่าบาทหรือบทอ่าท่าน?)
ติดตามเสียงนั้นไปโดยมิพักกังวลจดจำกฏข้อบังคับใดที่จะพลอยทอนอรรถารมณ์ยามนั่งลงเริงร้อยรสบทกลอนเสียเปล่าปลี้
ใช้กุญแจดอกนี้ผลักบานประตูก้าวเข้าไปเลยขอรับ อาณาจักรแห่งนั้นหาได้เงียบเหงามีนักกลอนอยู่มากมาย หากท่านส่ายตาหน่อยก็จะปะสหายท่านคั่นนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ตรงนั้น
แล้วอย่าลืมขากลับนำกลอนมาฝากผู้น้อยสักบทสองบทนะขอรับ
คารวะ
ปล. เจ้าอิล่อยฝากขอบคุณมา ท่าทางจะดีใจเอามากที่ท่านจำมันได้
ขออนุญาตลองปรับแก้
-ครึ้มใจ-
๏ เรื่อยสายลมโลมลานมาผ่านแผ่ว
ยินเสียงแว่วขอตักพักอาศัย
จะซบลงตรงนี้ไม่หนีไกล
สิ้นอาลัยอาวรณ์ถิ่นจรมา
เถิด..จะพักก็พักเสีย
หากเหนื่อยเพลียล้าอ่อนร้อนเพิงผา
หรืออาดูรร้าวรานธารธารา
และเจ็บปร่าด้วยรอยแรงแสงตะวัน
(สองท่อนนี้ดีนัก)
ที่แห่งนี้จะโลมไล้ให้ไออุ่น
จงนอนหนุนหลับตานิทราฝัน
ใต้แสงนวลอวลผ่องละอองจันทร์
อย่าได้หวั่นผองภัยใดใดเลย
ที่แห่งรักภักดีนี้รอเจ้า
มาแนบเนาร่วมเรียงเคียงเขนย
แอบอกอ้อนอิงอุ่นอย่างคุ้นเคย
อย่าปลิวเลยไปสุดห้วง..นะดวงใจ ฯ
ฮ่าๆๆๆ ราวกับคนละคนเขียนเลยหรือทั่น ข้าเจ้าก็งี้แหละ บทไหนเขียนดีก็ดีไป บทไหนเขียนห่วยก็ห่วยได้ใจ
ตอบลบได้รับคำแนะนำจากท่านเยี่ยงนี้ก็คงได้แต่กล่าวว่า "แซงคิวๆ" แปลเป็นไทยว่า "ขอบพระคุณหลายๆ"
อย่างที่ท่านว่านั่นแหละเจ้าค่ะ ตอนอ่านทวนรู้สึกขัดในสองบทแรก แต่ไม่อยากเป็นการชี้นำจนเกินไป เผื่อบางทีปรมาจารย์เชิงกลอนอย่างท่านอาจเจอข้อบกพร่องในสองบทหลังด้วย ข้าเจ้าก็ได้โชว์ห่างอึ่งกันเท่านั้น เลยอาศัยประโยคเหวี่ยงแหคลุมมันเสียทั้งสี่บท ให้ท่านหาเอาเองว่ามันขัดบทไหน
ยิ่งได้กุญแจจากท่านมาไขประตูดูความลับ ยิ่งมั่นใจว่าที่แท้ข้าเจ้าวางกับดักตัวเอง
ก็ในวรรคที่สองนั้น ข้าเจ้าตั้งใจลง "ขอตัก..อิงพักใจ" เพื่อให้ต่อกับบทของท่าน ทั้งๆ ที่รู้ว่าวรรคนี้มันไม่เข้ากัน มันน่าจะใช้คำที่ให้เสียงสูงกว่านี้
แต่ก็นะ คนมันดันทุรัง
เรื่องบทเรื่องบาทของกลอนข้าเจ้าลืมไปตั้งแต่จบ ม.ต้นแล้วล่ะ พอจะนึกขึ้นมาทีไร ก็จะมีประโยคนำมาก่อนว่า "เหมือนจะคลับคล้ายคลับคลา" เหมือนจะคลับคล้ายคลับคลาอย่างนั้น เหมือนจะคลับคล้ายคลับคลาอย่างนี้ แต่ไม่แม่นสักอย่าง
อันนี้ก็เหมือนกัน "เหมือนจะคลับคล้ายคลับคลาว่า หนึ่งบทมีสองบาท"
แต่ตะกี๊ลองแอบเสิร์ชดูแล้วเจ้าค่ะ บทหนึ่งมีสองบาทจริงๆ (เรียกบาทเอก บาทโท)บาทหนึ่งมี 2 วรรค
แต่หนึ่ง"บาท"ตามหลักวิชาการ ข้าเจ้าเรียก"บท"เสียจนชินปากแล้วล่ะ
คารวะ
เพื่อเป็นการขอบคุณที่ปรับแก้ใหม่ให้ เอากลอนบทนี้ไปอ่านก่อนเลย
-ดอกไม้ให้เธอ-
เก็บดอกไม้มาฝาก
เก็บมาจากที่มีรัก
เก็บมาให้คนรู้จัก
มอบด้วยรักหมดทั้งใจ
...
...
...
...
ปล.ชิ้นนี้ข้าเจ้าตั้งใจแต่งไปกำนัลสหายในสำนักตอนปีใหม่น่ะเจ้าค่ะ ขี้เกียจคิดใหม่เลยเอามากำนัลท่านก่อนละกัลล์ ฮ่าๆๆ ได้สองงานเลยวุ้ย!
ปล2.หากเจองานเขียนข้าเจ้าชิ้นไหนที่ท่านพอจะชี้แนะได้ โปรดกระทำเถิดท่านไม่ต้องเกรงใจ ข้าเจ้ายินดีปรับปรุงเพื่อพัฒนาฯ
สุขสันต์วันพ่อเจ้าค่ะ
พระพาย
แถมอีก ปล.ไม่รู้ช่วงนี้ท่านเข้าไปสำนักบ้างหรือเปล่า ในสำนักกำลังคึกคักด้วยเรียงความวันพ่อ มีนักเรียนนำการบ้านมาส่งคุณครูกันหลายฉบับ ท่านไม่คิดจะเขียนบ้างสักฉบับหรือ หมดเขตวันนี้แล้วนา
โอ้...ใจเจ้าเอ๋ย
ตอบลบมิรู้เลยน้ำตามาจากไหน
ยิ่งยืดเยื้อยิ่งไร้ซึ่งเยื่อใย
ทนหายใจ-ใจหาย-สูดหายใจ
ความเศร้าคลี่เงาเราแหว่งวิ่น
น้ำตารินดื่มกินวิญญาณไหว
ฉันหนาว ฉันหวาด ความฝันใฝ่
ลุกล่าไล่เข่นฆ่า โอ้...ความจริง
...
สวัสดีท่านดิน
และไปนอนก่อนล่ะ เหล้าปั่นวางยาให้ง่วงแล้วล่ะ
ปิ๊งป่อง! ปิ๊งป่อง!
ตอบลบท่านดินอยู่บ้านไหม? ข้าเจ้าแวะมาอารมณ์ดีสวัสดิ์
อดชาเย็นมาหลายวัน วันนี้ได้กินสมใจ แวะซื้อแหนมย่างมาฝากด้วยแน่ะเจ้าค่ะ มะ มากินด้วยกัน
อาทิตย์สุขสันต์
อาทิตย์สวัสดิ์ครับพี่ท่าน
ตอบลบเฮ้อ.. หายไปเสียนาน ที่ถอนหายใจนี่ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ รู้สึกโหวง ๆ ยังไงไม่รู้ กลับมาจากบ้านทีไรไอ้อาการแบบนี้ผุดขึ้นมาเสียทุกทีสิหน่า (ทำท่าจะบ่นอีกแล้วไหมละ เปลี่ยนโหมดดีกว่า)
พี่ท่านสบายดีนะครับ อยากแวะเข้ามาทักทายหลายวันแล้ว แต่ก็ติดโน่นติดนี่ไม่ได้แวะสักที ปะเหมาะวันนี้รู้สึกหัวโล่ง ๆ ขอแวะมาดื่มน้ำสักขัน
อ้า.. ชื่นใจ
ไปละ
คั่นฯ
หรีดหริ่งร่ำร้องหลังริ้วฝนสวัสดิ์ขอรับ
ตอบลบท่านเพลง, พี่ท่านประทีปะ, พี่ท่านขุลล์ อ่านฟีดเหล่าท่านแล้วคันไม้คันมือแต่กลั้นใจไม่ฝืนพิมพ์ หวังว่าอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น ได้กลับมาใช้เวลาตามความคุ้นเคยเก่า ๆ
ท่านคุณพระ--ขอบพระคุณสำหรับแจ้งผลรับชมขะรับ แหนมย่างน่ะของโปรดเทียวนะทั่น แต่เขาคงใส่สารอะไรสักอย่างเร่งปฏิกริยาภูมิแพ้น่าดู ข้าพเจ้าจึงจำงด (เห็นทีไรอดมองค้อนไม่ได้สักที) ปะท่านยิ้มร่วนที่สำนักหนอนก็พลอยบานใจ มีความสุขดีนะทั่น
ท่านคั่น--ทักทายสัปดาห์ละหนนับว่าพอดีแล้วล่ะทั่น เอาเวลาที่เหลือ(ทั้งที่เหนื่อยจากงานประจำแทบตาย)ไปคิดเขียนเรื่องให้จบกัลล์
มีเรี่ยวแรงจัดการงานสัปดาห์ต่อไปขะรับทุกท่าน
คารวะ
เข้ามาแจ้งข่าวเจ้าค่ะ
ตอบลบเย็นนี้จะกลับบ้าน คงไม่ได้เข้ามานั่งเจ๊าะแจ๊ะเจรจาที่ชานขนำทั่นสักสี่ซ้าห้าวัน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร วันเสาร์คงได้เห็นข้าเจ้ามานั่งหน้าแฉล้มอยู่บนชานเรือน
ขอท่านสุขสันต์กับงานเขียน
ปล.ไม่ต้องคิดถึงข้าเจ้านะ
ปล2.แม่นางธุลีดาวเขาฝากถามมา เกี้ยวกันไม่กี่ทีมีลูกกันแล้วหรือ?(ฮา)
พายอาร์
ฝนสนธยาสวัสดิ์ขอรับท่านคุณพระ
ตอบลบเดินทางโดยสวัสดิภาพขะรับ ฝากสวัสดีทางบ้านด้วย สุดสัปดาห์เจอกัลล์
คารวะ
ปล.สมัยนี้ชักช้าไม่ได้ดอกขะรับ เน็ตมันไวไฟ!