DiN

อย่ากระนั้นเลยเรามาย้อนไปยุคต้นรัตนโกสินทร์รัชสมัยแผ่นดินสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ กันหน่อยเป็นไร ยุคนั้นเลิศวรรณคดีขุนช้าง-ขุนแผนกำลังถูกรังสรรด้วยเชิงกลอนเอกกวีของแผ่นดิน

กระโดดขึ้นมาเลยขอรับ เราจะไปงานบวชพ่อพลายแก้วที่เรือนนางทองประศรีกัน

กินอยู่อย่างไทยน่ะขอรับเรือนไหนมีงานบุญชาวบ้านก็จะแห่กันมาช่วยงานเต็มลานบ้านเต็มครัว พวกผู้ชายตัดไม้ผ่าฝืน พวกผู้หญิงเข้าครัวเตรียมส่ำสำรับคาวหวาน หากเราเข้าครัวก็จะเห็นคุณนาง ๆ ทั้งหลายนุ่งซิ่นห่มสไบหน้ามันอยู่ข้างเตา ต้มแกงพลางส่งเสียงหยอกล้อพลางลองฟังขอรับ..

'นางทองดีคว้าทัพพีแล้วชี้หน้า
ชะชะช่าอย่ากล่าวหากันเจียวเหวย
เรื่องผัวใครข้าไม่เกี่ยวเดี๋ยวตบเลย
คว้าใบเตยย้ายตูดไปข้างเตา'

ได้ยินใช่ไหมขอรับ..ได้ยินใช่ไหม? นั่นเป็นในครัวที่คนพลุกพล่านเทียวนา ผู้คนยุคนั้นเขาใช้แต่ตูดขอรับ นับเป็นยุคเฟื่องฟูของตูดโดยแท้ ตูดเป็นคำสุภาพอย่างไม่ต้องสงสัย ลองถามหา 'ก้น' ทุกคนจะส่ายหน้าดิก

กลับมายุคของเราขอรับ

มาตรแม้นยุคนี้เจ้าตูดดูเหมือนจะถูกรังเกียจแต่เชื่อว่าวัฏฏะหมุนเวียนเปลี่ยนแปรยังคงเป็นสัจจะสักวันเจ้าตูดจะต้องกลับมามีหน้ามีตาได้รับการยอมรับที่จะสำแดงตนต่อหน้าสาธารณะอย่างภาคภูมิ

เมื่อถึงวันนั้น 'ตูด' จะกลับมาเป็นคำสุภาพและใช้กันทั่วไปทั้งในจอทีวีเสรีและไม่เสรี

สุภาพชนพึงมีความสุจริตจริงใจทั้งภายนอกและภายในไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง เมื่อพิจารณาแล้วคำ 'ก้น' แฝงจริตอมพะนำคล้ายไม่กล่าวเต็มปากเต็มคำลองออกเสียงท่านก็จะรู้สึกได้ ต่างกับคำ 'ตูด' เมื่อออกเสียงจะมีพลังเต็มปากเต็มคำ เต็มด้วยความรู้สึกจริงใจไม่เสแสร้ง นั่นจึงคือคุณสมบัติสุภาพชน

ข้าพเจ้าจึงเห็นว่า 'ตูด' มีความสุภาพกว่า 'ก้น' ด้วยประการฉะนี้ แฮ่!

คารวะ
นายตูดหมึก

ป.ล. กลอนข้างบนนั่นมั่วเองน่ะขอรับ หาได้หยิบยกมาแต่ใดเลย