Hey there, We are Blossom Themes! We are trying to provide you the new way to look and use the blogger templates. Our designers are working hard and pushing the boundaries of possibilities to widen the horizon of the regular templates and provide high quality blogger templates to all hardworking bloggers!
หวัดดีเจ้าค่ะท่านดินที่เคารพ
ตอบลบเริงร่ากับสายฝนอยู่สามสี่วันโดนหวัดรับประทานเลย ตอนนี้เลยนั่งไอค๊อกๆไอกระด๊อกกระแด็กแต่ไม่หอบแค็กๆแค่ไอกระแด็กกระด๊อก อุตส่าห์ดีใจว่าหายเจ็บคอแล้วเชียว แต่ไม่เป็นไรหรอกหวัดกับข้าเจ้าไม่ค่อยหนิดหนมกันเท่าไหร่ เจอกันทักทายกันประโยคสองประโยคเราก็โบกมือบ๊ายบายกันแล้ว
แล้วสุดท้ายข้าพเจ้าก็เหลวไหลจริงๆ เหลวไหลจนเหลวเป๋วเชียวแหละ ไม่เอาแระไม่บ่นดีฝ่า ว่ากันเรื่องอื่นเข้าท่ากว่าตั้งเยอะ ข้าพเจ้าได้เรื่องสั้นอย่างที่ตั้งใจไว้เรื่องนึง แต่มีเรื่องสงสัยอยากเรียนถามนิดหน่อย
เรื่องสั้นกับนิยายนอกจากขนาดความยาวของเรื่องที่ต่างกันแล้วยังมีส่วนไหนที่ต่างกันอีกบ้างไหมเจ้าคะ?
ข้าเจ้ารู้สึกว่าเรื่องสั้นที่เขียนไปน่าจะเหมาะกับนิยายมากกว่า(ถ้าเพิ่มเติมเนื้อหาของเรื่องให้มากขึ้น)
แล้วท่านพอจะทราบไหมเจ้าค่ะว่าบทเลิฟซีนของผู้หญิงกับของผู้ชายต่างกันยังไง?(หมายถึงงานเขียนของผู้หญิงกับของผู้ชายนะเจ้าค่ะ)
มีเรื่องจะเรียนถามเท่านี้แหละเจ้าค่ะ
หวังว่าท่านยังประคองชีวิตอยู่ได้ด้วยความราบรื่นอีกไม่นานแสงทองผ่องอำไพจะมาเรียนแล้วเจ้าค่ะ ประคองชีวิตท่านไว้ให้ดีๆ ให้ได้สัมผัสกับรัศมีแสงทองที่ว่านั้น
ด้วยความเคารพ
อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านสาย
ตอบลบผู้คนมักไม่แยกแยะว่า 'หวัด' หรือ 'ภูมิแพ้' ด้วยความที่สองตัวนี้หนิดหนมทั้งหน้าตาคล้ายยังกะแฝดอิน-จัน ลองดูดี ๆ จะได้ไม่เป็นอีก..อย่าเป็นบ่อยนะขอรับ..ไม่ดี..เพราะมีน้ำมูกไหล..ทำให้ไม่สวย ;)
กล่าวโดยรวบรัด..เรื่องสั้นมีประเด็นเดียว นิยายมีประเด็นหลักประเด็นย่อย หากทรายเม็ดเดียวคือเรื่องสั้น หาดทรายที่มีทั้งเม็ดทราย, เปลือกหอย, ปูเสฉวน, ริ้วคลื่น, กระทั่งรอยเท้าเดียวดายของนักเดินทางสู่ฝัน และ ฯลฯ ก็คือนิยาย
จับที่ 'ประเด็น' ขอรับ
ไม่ว่าเป็นเรื่องราวชีวิตคนหนึ่งคน, หนึ่งเหตุการณ์, หนึ่งจังหวะเวลา, ฟังว่า 'หนึ่ง' แต่อาจมีหลายประเด็น ต้องแม่น 'ประเด็น' จึงไม่พลาดเรื่องสั้น
หากสงกา 'ก็แล้วเจ้าประเด็นเนี่ยหน้าตาเป็นอย่างไรกันเล่า?'
คำกล่าวใด ๆ ไม่อาจแสดงใบหน้าเจ้านี่ให้เด่นชัดเท่าฝึกฝนขอรับ การส่งข้อความไป-มาของเราคือคำตอบ!
ส่วนประเด็น 'ความต่างของงานเขียนชาย-หญิง' เห็นทีต้องขอประทานโทษที่ต้องหมอบ ด้วยเกินกำลังทักษะข้าพเจ้า ณ ขณะเวลานี้
หากนำหนังสือสักเรื่องมาให้ดูลายอักขระโดยไม่รู้จักผู้แต่งมาก่อน ข้าพเจ้าก็คงเดาไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชาย แต่..เรียนท่านโดยสัตย์ ข้าพเจ้าไม่ได้นึกใส่ใจเลยนะทั่นว่าผู้เขียนเป็นหญิงหรือชาย เพราะตรงนี้ก็เป็นลูกเล่นอย่างหนึ่งของการประพันธ์ หากท่านเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งโดยใช้มุมมองบุรุษที่หนึ่ง (ผม) แล้วนามปากกาท่านเป็นหญิง เปิดหน้าแรกผู้อ่านก็ไม่เชื่อเสียแล้ว คิดให้ผู้อ่านร่วมอารมณ์ไปกับตัวละครเห็นทีจะยาก วิธีง่าย ๆ ก็คือเปลี่ยนนามปากกา
มีหลักกิโลฝึกเขียนที่เรายังต้องไปให้ถึงคือความลึกของตัวละครที่เท่าเทียมกันทั้งสองเพศ
ผู้เขียนฝ่ายชายมักเขียนตัวละครฝ่ายหญิงเบาโหวงเป็นหุ่นยาง อีกฝ่ายก็เช่นกัน คงเป็นไปตามธรรมชาติ หากเราสามารถข้ามขีดจำกัดตรงนั้นไปได้ ทักษะเขียนคงไม่เลว
ยามท่านกรุณาส่งปุจฉาแล้วเณรน้อยดิลล์ทะลึ่งวิสัชนาไปว่า 'บ่ฮู้' ทำท่านอารมณ์ค้างต่องแต่งต๋อกแต๊กโตงเตงมาก็หลายที เยี่ยงนี้เห็นทีผู้น้อยกระดิกหางอึ่งพอบรรเทาอารมณ์ท่าน ได้เห็นหางอึ่งกระดุ๊กกระดิ๊กแล้วอมยิ้มมุมปากก็ยังดี
ลองมองดูข้างบน
ผู้น้อยได้ตอบความเห็นไว้แล้ว หากท่านต้องการให้ผู้อ่านคิดว่า (คิดว่านะ..ย้ำ) ผู้เขียนเป็นชาย ก็เขียนตัวละครฝ่ายหญิงให้เบาโหวง (ไม่ค่อยมีความรู้สึกนึกคิด คิดอะไรก็ตื้น ๆ (อย่าลืมว่าการเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรก็มีความลึกของมันอยู่ เพราะต้องมีที่มาที่ไปของอุปนิสัยนั้น) บรรยายเพียงคร่าว ๆ) อีกฝ่ายก็ในทางกลับกัน
หลังจากนั้นอย่าลืมออกเดินทางต่อ ไปให้ถึงทักษะที่เอาใจใส่พวกเขา (ตัวละคร) โดยเท่าเทียมกัน (เอาใจใส่ในความหมายเข้าไปอยู่ในใจนะขอรับ มิใช่เพียงดูแล) เมื่อถึงตรงนั้น คำเพศจะไม่มีความหมายกับท่านอีกต่อไป ท่านจะหลุดพ้นจากข้อจำกัดปุถุชน บรรลุธรรมเป็นเทพอักษรลอยต่องแต่งบนฟ้า
ถึงตอนนั้น..อย่าลืมเซ็นให้ข้าพเจ้าด้วย
คารวะ
ป.ล. ชีวิตยังร่อแร่ (ไร้ที่อาศัย)กำลังพยายามประคองขอรับ ขอบพระคุณ..ขอบพระคุณ..
ฝนพรำตั้งกะเมื่อคืนป่านฉะนี้ยังไม่หยุดสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านดิลล์ที่เคารพรัก
ตอบลบบรรยากาศดี๊ดีสุขีหรรษาอุราเริงรื่นชื่นฉ่ำกมล จะมีใดสุขกว่านี้หามีไม่อย่าได้อิจฉากันเจียวที่ความสุขนี้เป็นของข้าพเจ้าคนเดียวจุ๊กกรู...จุ๊กกรู...!
อ่านถ้อยแถลงถึงความต่างระหว่างนิยาย VS เรื่องสั้น เข้าใจแจ่มแจ้งเลยเจ้าค่ะ แต่มีข้อสงสัยอีกกะจึ๋ง คือถ้ามีหลายเหตการณ์ หลายจังหวะเวลาแต่ประเด็นเดียวนี่จัดเข้าเรื่องสั้นด้วยป่าว?(น่าจะด้วยเนอะ)
ส่วนบทเลิฟซีนในงานเขียนผู้ชายและผู้หญิงนั้นตอนอ่านงานคนอื่นข้าพเจ้าก็ไม่เคยคิดอะไรมากมายหรอกเจ้าค่ะ ไม่สังเกตเสียด้วยซ้ำผู้ชายเขียนหรือผู้หญิงเขียน,แตกต่างกันยัง(ตอนมานั่งเขียนเองถึงได้เจ็บใจตัวเองไง)
เอางานเรื่องสั้นไปลงไว้ที่สำนักแล้วเจ้าค่ะ หากว่างเวลาคราใดเรียนเชิญแวะไปยกเครื่องมาปรับให้เข้าที่เข้าทางด้วยนะเจ้าคะ แล้วรบกวนช่วยวิจารณ์ด้วยว่าไอ้ที่เขียนไปนั่นประเด็นเดียวหรือหลายประเด็น?(รู้สึกว่าข้าพเจ้ายังต้องงมโข่งกันอีกนานสำหรับคำว่า ‘ประเด็น’)(บางทีบางเรื่องเขียนไปข้าพเจ้าก็ไม่รู้หรอกต้องการสื่อสารอะไร?)
ด้วยความเคารพ