ก
๑๏ แผ่นดินนี้มีข้าวพราวผืนทุ่ง
จากฟ้ารุ่งจวบค่ำฝนพรำสาย
เรื่อยลำคลองไหลนองมาล่องราย
เชื่อมต้นปลายชายเลชวากเวิ้ง๒๏ มีเหล่านกผกโผโล้เงาไม้
ทั้งวันคล้ายเอะอะอยู่มะเทิ่ง
มีไผ่กอทอรำทำเชิงเพิง
นกฟ้าเริง..น้ำปลาว่ายวารี๓๏ มีลำตาลผ่านบ้านไหนล้วนไฟต้ม
เอาไฟรมต้มตาลขมันขมี
ได้น้ำตาลหวานรสกำลังดี
บ้างก็มีวิชชาหมักยาเมา๔๏ พวกชายเลออกเรือเมื่อฟ้าสาง
ล่วงสว่างร้อนแสงแผดแรงเผา
ได้ปูปลาหากินในถิ่นเรา
ผ่านค่ำเช้านานเนาบนคันนาข
๕๏ แล้ววันหนึ่งรู้ข่าวมาฉาวทุ่ง
มาเลี้ยงกุ้งกันซีดีนักหนา
ได้กำไรรวยกันเห็นทันตา
เป็นมหาเศรษฐีมีบ้านโต๖๏ ยุบผืนนายกกั้นเป็นคันบ่อ
แล้วชะลอน้ำเค็มไหลไปไกลโข
ที่ไร้ทุนร้านค้าใหญ่ก็ใจโต
เอาที่วางอย่างโก้อย่ากังวล๗๏ ครบสี่เดือนเคลื่อนผ่านมินานช้า
ได้เวลาเลี้ยงครบประสพผล
มีเงินทองกองใหญ่ไม่ยากจน
คืนหนี้ร้านยังล้นพ้นบัญชี๘๏ พวกลังเลเฮโลพากันเลี้ยง
ค่ำลงเสียงเครื่องตีน้ำย่ำอึงมี่
สว่างโพลนพลุ่งฟ้าชั่วตาปี
ทั้งแสงสีบันเทิงบำเริงบำเรอค
๙๏ เงินสะพัดกวัดไกวไปทั้งทุ่ง
เป็นเถ้าแก่นากุ้งนั่งพุงเผยอ
ดาวน์รถใหม่ป้ายแดงแข่งกันเกลอ
ยามจะเรอเป็นแบ็งค์ร้อยห้อยมาลัย๑๐๏ ธุรกิจธุรกามเร่งตามเปิด
รับการเกิดรวยแน่เถ้าแก่ใหม่
ทำนามาหลายปีไม่มีไร
เลี้ยงกุ้งมิทันไรได้เงินบาน๑๑๏ เปิดบ่อใหม่ใจหวังดึงตังค์ต่อ
ขยายบ่อรอสุขสนุกสนาน
เงินไม่พอก็หาธนาคาร
โฉนดบ้านโฉนดนาพาจำนอง๑๒๏ ใครบ่อเดียวเหี่ยวห่อเหมือนตอกุด
ต้องเร่งขุดผุดบ่อไม่พอสอง
กำเงินน้อยกลัวลูกถูกเพื่อนมอง
อย่างน้อยต้องใบร้อยค่อยไปเรียนฮ
๑๓๏ สูบเลนทิ้งยิ่งไหลไปลามทุ่ง
คูเหม็นคลุ้งข้ามคืนชวนคลื่นเหียน
ส่ำสัตว์พืชพันธุ์พูนก็สูญเตียน
เร่งหมุนเวียนเร่งขย่ำเร่งทำลาย๑๔๏ โรคระบาดก็ระลามตามระเบียบ
กุ้งตายเรียบราวห่าพาฉิบหาย
โทษคนนี้โทษคนนู้นกันวุ่นวาย
สุดท้ายตายไม่เหลือเป็นเบือไป๑๕๏ หนี้ที่ค้างก็ยังไร้ตังค์ส่ง
จะต้องลงกุ้งอีกทีหาที่ไหน
หนี้หลายแสนแค่นหามาอย่างไร
มีแต่ลงกุ้งใหม่เผื่อได้คืน๑๖๏ กุ้งตายซ้ำย้ำโศกโชคไม่เข้า
ต่างหน้าเศร้านั่งเรียงเสียงสะอื้น
รถถูกยึดที่ถูกฟ้องม่องทั้งยืน
จะกล้ำกลืนกัดฟันกันอย่างไร?อาขยาน
๑๗๏ ตาลเอ๋ย..ตาลยอดด้วน
อยู่บนควนแข็งลำต้านลมไหว
สู้แดดฝนทนแสนให้แค้นใจ
มายืนตายตอไหม้..เพราะใจคน ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น