ผมล่ะเบื่อ!

เบื่อพวกนักเขียนเรื่องหฤโหดสยองขวัญอะไรพวกนั้น แต่ละคนพยายามบรรยายให้ผู้อ่านประทับใจ เห็นภาพ ได้ยินเสียง ได้กลิ่น กระทั่งคำว่า 'กลิ่นชวนคลื่นเหียน' ก็บอกออกมาโต้ง ๆ อยากรู้นัก ไอ้กลิ่นที่ว่ามันเป็นอย่างไร บรรยายอย่างนั้นเคยได้กลิ่นจริง ๆ บ้างไหม มีสักกี่คนที่เคยพบเหตุการณ์สยดสยองมาจริง ๆ ประสบเหตุฆาตกรรมหรือเคยลงมือทิ่มปลายมีดเข้าไปสำรวจโลกลี้ลับของชีวิตสัมผัสแรงสะท้อนคราปลายคมมีดปะทะลิ่มกระดูกเข้าจริง ๆ นั่นเป็นรสสัมผัสที่นำมาบรรยายกันได้หรืออย่างไร ยิ่งอ่านยิ่งพบว่าพวกนั้นนั่งเทียนเขียนยัดเยียดขยะแขยงให้ผู้อ่านจนกลายเป็นจงใจไปอย่างน่ารำคาญ



จากเรื่อง : เดอะโปรเฟสชั่นนิสต์ ของ : ที.ดี.ซิมเปิล 

รู้ทั้งรู้ว่าพวกกำมะลอ ผมก็ยังอ่าน อ่านอย่างใจจดใจจ่อมันเป็นทั้งความบันเทิงและสนองจิตใต้สำนึกที่คอยร่ำร้องหา

กลิ่นอากาศอับชื้น..เสียงเต้นของหัวใจที่สูบฉีดเลือดไปยังความว่างเปล่าเหมือนปลายท่อน้ำถูกวางทิ้งไว้ในสวน..ระดับอะดรีนาลีนที่แทบทะลัก..กลิ่น..

อา..กลิ่นคาวเลือด..

เลือดเป็นของเล่นใกล้มือที่พวกนั้นนิยมเอามาเล่นบ่อย ๆ หยิบใช้ง่ายได้ผลชะงัด แต่หากวันใดคุณไปพ้นจากความเป็นมือสมัครเล่นเลือดจะไม่มีความหมายกับคุณมากไปกว่าของเหลวหนืด ๆ และกลิ่นคาวเหมือนปลาเน่าค้างคืน ผมลองหลับตาสูดลมหายใจลึก..แล้วควานหาความรู้สึกอะไรสักอย่างข้างใน..

เปล่า..ไม่มีอะไร..

คราบเลือดเลอะถุงมือยางอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก ไม่มีความรู้สึกอะไรมากไปกว่ากลิ่นคาว บนโต๊ะขณะนี้หากปล่อยให้นักเขียนพวกนั้นพบเข้าคงพยายามบรรยายจนผู้อ่านเห็นภาพ ไม่มากไปกว่านั้น ก็เพราะพวกเขาเป็นแค่นักบรรยาย ไม่มีวันเข้าถึงความรู้สึกลึกล้ำพ้นไปจากภาพที่เห็น..มีอะไรมากไปกว่านั้นคุณรู้ดี มีแต่ผู้ลงมือกระทำจึงสัมผัสมัน

มุสโสลินีแห่งวงการสยองขวัญนายสตีเฟ่น คิงก์ หมอนี่เป็นจอมทักษะตาคมเป็นใบมีดโกน มองปราดเดียวก็รู้ว่าควรหยิบจับตรงไหน?แค่ไหน?มาบอกเล่าเพื่อสะกดผู้อ่านไม่เป็นอันตั้งสติสะตังค์ ครั้งหนึ่งหมอเคยสั่งให้ตัวละครกระทืบหมา แค่กระทืบหมา! พ่อก็กระทืบซะจนคุณยายจากฟิลาเดอเฟืยเขียนจดหมายมาต่อว่า 'แกมันสารเลว รังแกสัตว์' นายสตีวี่นั่งขำเอิ๊กอ๊าก ก็รู้อยู่แก่ใจในชีวิตอย่าถึงกระทืบเลยคิดเตะหมาสักป้าบยังไม่เคย..หากเป็นผมล่ะ..ฮึ ฮึ

เมือกเลือดมีความลื่น ลื่นอย่างวายร้าย ผมต้องเกร็งแขนขณะเฉือนใบมีดผ่านแนวผังผืดยืดกล้ามเนื้อ ช่วงนี้ให้ความรู้สึกดีที่สุด ต้องใช้ทักษะที่สุด ผมยังไม่อยากให้มันจบลงอย่างรวดเร็ว นี่เป็นงานศิลปะไม่ใช่งานสั่ว ๆ อย่างพวกนักเขียนพยายามทำให้เป็น

ผมเคยหลงใหลได้ปลื้มไปกับบทบรรยายพวกนั้น กระทั่งวันหนึ่งผมทดลองด้วยมือตัวเองจึงได้พบว่าก้าวพ้นความเป็นมือสมัครเล่น รสชาติได้รับสัมผัสลึกกว่าแค่อ่านบทบรรยายกำมะลอเป็นไหน ๆ ลึกล้ำจนผมอยากเขียนออกมาบ้าง อยากแสดงให้พวกนั้นเห็นว่าสุนทรียะของความสยดสยองที่แท้เป็นอย่างไร

ครั้งที่เมียคนก่อนหายตัวไป ผมเคยลงมือเขียน

พวกตำรวจตรวจค้นทั่วบ้าน (รื้อถังเขลอะกระจุย--นี่สิความคลื่นเหียนที่แท้จริง) แล้วก็พบเล็บนิ้วโป้งในจานอาหารหมาเหมือนจะทิ้งร่อยรอย 'แน่จริงตามมา' พวกตำรวจสันนิษฐานกันไปว่าคนร้ายอาจย่อยร่างหล่อนแล้วเอาให้หมากิน เป็นอันไอ้สจ๊วตดวงซวยถูกล้างท้องขนานใหญ่ แต่ก็ไม่พบหลักฐานใดเพิ่มเติม

ผมน่ะเหรอ?

บีบน้ำตาไปหลายกะละมัง จะว่าไป..หล่อนหายจากโลกเสียได้ล่ะดี ขี้บ่น เอาแต่ใจก็ปานนั้น พาลหาเรื่องไม่เว้นวันจนผมแทบหาเวลาสงบอารมณ์ไม่ได้ใกล้บ้าเข้าทุกที

ตำรวจบังเอิญค้นเจองานเขียนชิ้นแรกในชีวิตของผมเข้าเลยถูกสอบสวนมาราธอน ผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ที่สุดก็ยอมปล่อยตัว เพื่อหมดปัญหาผมตัดใจทิ้งงานเขียนระดับมาสเตอร์พิซ ขายบ้านแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ 

ดวงตากลมใสจ้องผมแน่วนิ่งเหมือนตั้งคำถาม ผมให้คำตอบด้วยการส่งคมมีดบางกริบผ่านกระดูกข้อต่อต้นคอแยกส่วนหัวออกมาวางตรงหน้า ดวงตาเบิกกว้างยังจ้องผมไม่กะพริบ..แน่ล่ะ..ไม่กะพริบ!

เป็นโสดอยู่ไม่นานผมก็พบคนถูกใจ เพียบพร้อมรูปร่างหน้าตา อุปนิสัยใจคอ เซ็กส์ที่ร้อนแรง ข้อสำคัญหล่อนไม่ได้โวยวายที่วัน ๆ ผมไม่ออกไปทำงานทำการเอาแต่นั่งอ่านนิยายสยองขวัญ

แต่คุณเอ๊ย..ผู้หญิงก็คือผู้หญิงวันยังค่ำ

อยู่กันนาน ๆ เริ่มออกลาย     

ยินเสียงก๊อกแก๊กผมสะดุ้งหันมอง ประตูถูกผลักผลัวะ!  เอมเมลีนหอบข้าวของเต็มแขนเดินเข้ามา "อี๊..กลิ่นอะไรน่ะ?" ปล่อยของลงบนโต๊ะ

"เมนูดินเนอร์สเต็กเซลม่อน" ผมรู้ว่าเป็นเมนูโปรด

"ว้าว..คุณได้เซลม่อนมาจากไหน?"

"คุณคิดว่าจากไหนล่ะ?"

"สดแน่นะ!"

"ปลาจะสดต้องดูที่ตา" ผมว่า

เอมเมลีนตรงเข้าห้อง "ช่วยเก็บของที่ซื้อมาให้ด้วย..วันนี้เหนื่อยจัง คุณช่วยเอาดรายเป่าผมไปคืนเจนที อ้อ..เอาผ้าไปร้านซักให้ด้วยนะคะ ยังมี..ตะกี้เจอพวกชิทเตอร์เดนพวกเขาบอกว่าสจ๊วตมันไปขี้ทิ้งไว้ที่สนามหญ้าของพวกเขาแน่ะคุณช่วยไปดูให้ที"

หนังสยองขวัญยุคต้นปีเก้าศูนย์นิยมจบแบบให้ตัวเอกโผเข้ากอดกันหลังผ่านเรื่องราวสยดสยองและคนอื่น ๆ ตายหมดแล้ว ภาพจะซูมใบหน้าตัวเอกที่รอดชีวิตและรอยยิ้มชั่วร้าย

ผมคิดว่าจะจบแบบนั้นล่ะ

9 ความคิดเห็น:

  1. แหม ท่านพี่ เล่าเหมือนเจอกับตัวเองเลย อิอิ

    ..

    "มุสโสลินี" แปลว่าอะไรหรือขอรับ ผู้ต้อยต่ำเรียนถามเพื่อประดับความรู้ :)

    ตอบลบ
  2. เพิ่งเคยอ่านงานแนวนี้ของท่านดิน
    มีกลิ่นธุลีดินแล้วนะท่าน
    กลิ่นเดียวกับงานเขียนที่ฮาๆ น่ะ
    ช่างประชด เสียดสี เหน็บแนม

    แต่...ไม่รู้สิ "ฝากไปกับสายลม" ตรึงความรู้สึกได้มากกว่า
    ว่าแต่ว่าท่านส่งหรือยังคะ ใกล้หมดเขตแล้วนา

    แม่เพลง

    ตอบลบ
  3. โป๊ก! โป๊ก! โป๊ก!

    ท่านดินอยู่ในขนำหรือเปล่า หรือว่าออกไปเตล็ดแต็ดแต๋ข้างนอก?

    ข้าพเจ้าเอาออร์เดิฟเรียกน้ำย่อยไปแปะไว้ที่สำนักแล้วนะเจ้าคะ

    หากกลับเข้าขนำเมื่อไหร่ ลองไถลไปที่สำนักแล้วช่วยดูให้หน่อยแบบนั้นพอจะเรียก "วรรณกรรมเยาวชน" ได้ไหม?


    ขอมีความสุขกับงานเขียนเจ้าค่ะ
    พระพาย

    ตอบลบ
  4. มุสโสลินี (Mussolini) เป็นใคร?
    ... ตามอ่านได้ โดยการกดเบาๆ บริเวณนี้

    ทั่นพี่ แม่เพลง น้องพาย ซำบายดีเน่อ ??

    : )

    ตอบลบ
  5. ป๊าด ป๊าด ป๊าด ... ลิ้งค์หลุด !


    เอาใหม่ ตรงนี้ ... http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%95_%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5

    : )

    ตอบลบ
  6. ตอนเขียนเรื่องนี้ข้าพเจ้าคิดไปขำไป (ที่สำนักไม่ยักมีใครขำแฮะ) ปะสองท่านเห็นมุมฮาเยี่ยงนี้ค่อยเบาใจว่ามุกขำข้าพเจ้ามันคงไม่เป็นหมันเสมอไป(หรอกนา)

    ว่าแต่ 'มุสโสลินี'นั่นสะกดผิดหรือประการใดขะรับสหายพี่สามมีหรือท่านมิเคยยินนามกัปตันทีมอดีตแชมป์บอลโลก (ขอบพระคุณขะรับพี่ท่านขุลล์)

    ประกวดที่ไหน? หมดเขตเมื่อใดขะรับท่านเพลง?

    ขออนุญาตฟื้นร่างกายสักครึ่งเดือนแล้วเจอกันกลางเดือนหน้าขะรับ

    คารวะ

    ตอบลบ
  7. แวะสำนักแล้วชอรับท่านคุณพระเสียดายเปิดวรรณกรรมเยาวชนไม่ออกข้าพเจ้าไม่คุ้นกับเครื่องนี้ไม่ทราบเบล้าเซ่อร์บล็อกอะไรไว้ตรงไหน มือก็เจ็บทำให้ลุกลี้ลุกลนเลยยังไม่ได้อ่าน หากจะกรุณาฃ่วยเอามาแหมะที่กระท่อมให้หน่อยเถิดขะรับ

    คารวะ

    ตอบลบ
  8. "ฝากไปกับสายลม" ที่เคยคุยกันว่าน่าจะส่งรางวัลสุภาว์ฯ ปีนี้ไงท่าน
    ส่งแล้วก่เจ้า

    ตอบลบ
  9. อา..ที่หมดเขตสิ้นเดือนนี้ใช่ไหม?

    ข้าพเจ้าถือว่าส่งรางวัลก็คือส่งสำนักพิมพ์ ดีเสียอีกมีบรรณาธิการหลายคน(คณะกรรมการนั่นแลขะรับ) หากผ่านคณะกรรมการย่อมไม่ต่างผ่านบรรณาธิการพิจารณาตีพิมพ์ แต่ครั้งเรื่องสั้นรุ่นพี่ท่านประทีปะจนป่านฉะนี้ยังไม่พิมพ์ออกมาเลยขะรับ กลุ่มผู้ดำเนินงานรางวัลนี้คงยังมีเรื่องค้างคาให้ต้องสะสาง เป็นว่ารางวัลยังไม่ผ่านพิจารณาส่งให้พิจารณา (แฮะ ๆ กวน เรื่องของเรื่องก็คือตอนนี้แค่จับแป้นคอมพ์ก็ปวดมือแทบตาย ไม่จับก็จะลงแดงตาย ยังวุ่นกับไม่รู้เลือกตายอย่างไรดีอยู่เลยขะรับ)

    ฝากถึงพี่ท่านขุลล์(หากผ่านมา)

    ลองเอาคีย์บอร์ดมาต่อแล้ว ช่วยได้มาก (จึงได้แหล๋มหน้ามานี่แล) ยังเหลืออาการแปล้บ ๆ นิดหน่อยขณะแป้นคีย์ที่ตัวโน้ตบุ๊คสัมผัสไม่ได้เลย

    คารวะ

    ตอบลบ