การสื่อสาร สื่อความหมายระหว่างกัน จะต้องจัดเรียงองค์ประกอบของประโยคตามไวยากรณ์ที่เข้าใจต้องตรงกัน เมื่อใดไร้กฎเกณฑ์ จะมีแต่ความสับสน ความเข้าใจผิด ไวยากรณ์เลวเป็นที่มาของประโยคเลว ตัวอย่างประโยคที่ผมโปรดที่สุดจากหนังสือของวิลเลียม สตรังก์ สั้น ๆ ง่าย ๆ แค่นามกับกริยา คือ As a mother of fire, with another one on the way ,my ironing board is always up.

นามกับกริยาเป็นองค์ประกอบสำคัญสองส่วนที่จะขาดเสียมิได้ หากขาดตัวใดตัวหนึ่ง กลุ่มคำนั้นก็ไม่เป็นประโยค เพราะประโยคคือ กลุ่มของคำที่ประกอบด้วยประธาน (คำนาม) ทำหน้าที่อะไรสักอย่าง (กริยา) กลุ่มคำนี้จะขึ้นต้นด้วยตัวนำ และจบลงด้วยเครื่องหมาย ฟูลสต็อป รวมความคิดสมบูรณ์หนึ่งเดียวของผู้เขียน กระโดดข้ามสู่ความคิดของผู้อ่าน

จำเป็นด้วยหรือที่จะต้องเขียนเต็มประโยคทุกคราวไป?

กำจัดคำถามนี้ไปเถอะครับ ถึงคุณจะเขียนเพียงเศษของประโยค เรียงแค่วลีหรืออนุประโยคแล้วยังสื่อความหมายในใจได้ ก็จะไม่มีตำรวจลับไวยากรณ์มาคร่าตัวไปขังไว้ในค่ายกักกัน แม้แต่วิลเลียม สตรังก์ มุสโสลินีแห่งการแสดงโวหาร ก็ยังมองเห็นความรื่นรมย์เอร็ดอร่อยของภาษา "ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่านักเขียนชั้นยอด มักจะไม่ใส่ใจหลักเกณฑ์ในการแสดงโวหาร" แต่เขาก็เพิ่มเติม ซึ่งผมอยากจะให้คุณพิจารณาให้ดี "..เว้นแต่ว่าเขาจะแน่ใจแล้วว่าทำได้เป็นเลิศ (นักเขียน) พึงยึดกฎเกณฑ์ไว้ให้ดีที่สุด"

อนุประโยคทีเด็ดอยู่ที่ 'เว้นแต่ว่าเขาจะแน่ใจแล้วว่าทำได้เป็นเลิศ' ถ้าคุณไม่มีความเชี่ยวชาญเชิงการแสดงโวหาร คุณจะทราบได้อย่างไรว่าองค์ประกอบเหล่านั้นแตกแยกย่อยออกเป็นประโยคเกี่ยวเนื่องกันได้อย่างไร? จะทราบได้อย่างไรว่า ยกมาเพียงบางหน่วย แล้วสื่อความได้เป็นเลิศ (หรือยกมาเพียงเศษเสี้ยวแล้วความหมายเสียไป?) คำตอบที่เห็นได้ชัด ไม่มีทางทราบได้เลย และไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่า เมื่อใดแสดงโวหารได้เข้าท่ายามใดใช้ไม่ได้

สูงสุดคืนสู่สามัญ ผู้แตกฉานเรื่องไวยากรณ์ จะใช้เพียงคำนาม (คำที่มีชื่อเรียกขาน) และกริยา (คำที่แสดงอาการ)

หาคำนามมาสักคำ หากริยามาสักคำ นำมาวางเรียงกัน..ไม่เคยพลาด Rocks explode. Jane transmits. Mountains float. ประโยคสมบูรณ์แบบ ได้ความคิดเป็นเหตุเป็นผล โครงสร้างอย่างง่าย แม่นยำ 'นาม-กริยา' เป็นเหมือนตาข่ายนิรภัยรองรับงานเขียน วิลเลียม สตรังก์ออกคำเตือนว่า การใช้ประโยคสั้น ๆ บ่อยครั้งซ้ำซาก ต่อเรียงกันเป็นแถว ถือได้ว่าเป็นภัยเหมือนกัน แต่ประโยคอย่างง่ายปูลาดเส้นทางเดินให้หลีกลัดเลาะหลบภัยในยามที่เสี่ยงต่อการหลงทางในป่าการแสดงโวหารซับซ้อน..อนุประโยคจำกัดและไม่จำกัด วลีที่ใช้ขยายความหมาย บุรพบท และประโยคเชิงช้อน เมื่อใดที่คุณตระหนักว่าอาจจะหลงทางในเขาวงกตจนไม่อาจสื่อความในใจออกมาให้แจ่มชัดได้แล้ว เตือนตนให้นึกถึง 'Rock explode. Mountains float.' ไว้ให้มั่น ไวยากรณ์ไม่ได้เป็นแต่เพียงความเจ็บปวดยอกแสยงบั้นท้ายแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ หากแต่เป็นไม้เท้าช่วยพยุงให้คุณก้าวเดินไปอย่างมั่นคง ช่วยเรียงความคิดของคุณให้แกร่งขึ้นทีละน้อย ก่อนจะวาดลวดลายได้เต็มที่ มองในแง่นี้นะครับ ประโยคสั้น ๆ พวกนี้ เฮมิงเวย์นำมาใช้ได้ผลแล้ว หรือไม่จริง? แม้แต่ในยามที่เขาดื่มเมามายตั้งแต่หัวจรดรูทวาร หมอนี่ก็ยังถือเป็นอัจฉริยะยากจะหาใครเทียบได้

ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าไวยากรณ์ของคุณจะแม่นพอ เดินเข้าไปหาซื้อหนังสือหลักภาษา บอกให้คนขายห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล ไม่ให้ผู้ใดทราบว่าคุณอ่านหนังสือประเภทไหน หนังสือเล่มเดียวกับที่คุณเคยอ่านผ่านตามาแล้วตอนมัธยมปลาย ผมคิดว่าคุณน่าจะดีใจและโล่งอกที่พบว่าตัวเองก็อ่านเนื้อหาตั้งแต่ปกหน้าจนถึงปกหลังรู้เรื่อง

(ครั้งหน้าเรายังอยู่ชั้นบนกล่องเครื่องมือของสตีเฟ่น คิงก์ ว่าด้วย active กับ passive voice และ คำวิเศษณ์ ‘อย่าง’ ที่ดูเหมือนจะเป็นตรายางนักหัดเขียน)

ที่มา : Stephen King : On writing นพดล เวชสัวสดิ์ แปล

“ผมเพียงแต่คิดว่านักเขียนน่าจะมีความสามารถที่จะรับรู้ หรือเรียนรู้ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณมากกว่า คือเข้าใจความเป็นไปของมนุษย์ เข้าใจโลกชัดเจนขึ้น ถ้ามุมมองต่อโลกและสังคมมันชัดเจนแล้ว ผมคิดว่าก็น่าจะเขียนหนังสือได้ดีในระดับหนึ่ง คือมันเขียนด้วยความเข้าใจด้วย ที่เหลือมันเป็นจินตนาการที่เราใส่เข้าไปในหนังสือ”

-วินทร์ เลียววาริณ-

3 ความคิดเห็น:

  1. เกรงจะเป็น spoiler ผู้คนน่ะพี่ทั่น
    ขอเขียนคั่นกระทู้ไว้ตรงนี้นะขอรับ

    พี่ทั่นถามยากเหมือนกัน วิเคราะห์เฉิ่มๆ ออกมาได้อย่างไร
    ทุกอย่าง ผมน้อมรับได้ ยกเว้นเสียงหัวร่อ นะพี่นะ (ฮา)

    “ชีวิตของทั้งหมดมาประจวบกันอย่างไร ?”

    Jack พ่อขี้คุกตามพบ Rose ลูกสาวในคลับใต้ดิน
    เมื่อรู้ว่าหลานชายกำลังจะตาย จึงหาทางช่วย

    Qwerty ขับรถขนศพชนหมาของ Rose ได้รับบาดเจ็บ
    ตอนแรกคิดจะเก็บหมาไว้ ภายหลังพบและรักกัน
    ... ท่ามกลางเงื่อนปมข้างบนนั่น

    Qwerty เป็นหนึ่งใน “คนกล้า” ที่ Charlie ตามหา
    เนื่องมาจาก Charlie กำลังมองหาโลงศพสำหรับตัวเอง

    เล่าเรื่องเหมือนเดินผ่าน Window display
    ผ่านพบเจอเหตุการณ์และใครๆ ไป เราเห็นได้ – ตามนั้น
    เงื่อนไขถูกหยิบใส่ไว้ ตั้งแต่แรกหยิบตัวละครออกมาวาง

    Jack เหงา เคว้งคว้าง มะเร็งลำไว้ ทำให้เวลาเหลือน้อย
    หาก Jack เป็นพุทธ เขาคงได้มรณานุสติ - จึงคิดไถ่บาป

    Rose รักดี แต่ไม่มีโอกาส ผิดพลาดจากการมีลูก แต่ไม่มีพ่อ
    ยังไม่พอ โรคร้ายอะไรไม่รู้ คุกคามลูกชาย ใกล้ตาย ไม่ต่างอะไรกับ Jack

    Qwerty เป็นคนแต่งหน้าศพ และทำอะไรหลายอย่างในสุสาน
    เป็นหอบและโรคลมชัก รักใครก็ไม่ได้ แค่เขาเขินอาย – ก็ฟุบ !

    Qwerty ขับรถชนหมา จึงเร่งช่วยรักษาจนหาย
    พาเดินเล่น จนรักหมา(คนอื่น)แทบตาย
    แต่เมื่อคิดได้ก็ส่งคืนเจ้าของไป

    Rose อาจไม่เคยพบผู้ให้ จึงสับสนไปเมื่อ Jack (พ่อ) หยิบยื่น
    คงเพราะปมของ Jack ทำให้การสื่อสารแลดูมีเงื่อนไข
    หรือ จะกลัวลูกสาวรับไม่ได้ ... Rose จึงร้องไห้ และปฏิเสธมัน

    แต่ในเวลาไม่ต่างกันเท่าไหร่ เมื่อ Qwerty มอบหมาคืนให้
    Rose จึงได้ “ปลดกลอนในหัวใจ” ของเธอ และเดินออกมา

    Charlie เป็นนักบวช (แต่งงานได้)
    แต่โชคร้ายทำเมียตายในวันแต่งฯ
    แผลสดขนาดใหญ่ของ Charlie – หนักเกินไป
    เกินพระเจ้าเบื้องบนจะเยียวยารักษาได้
    - เหลือเพียงความตายเท่านั้น

    Charlie เป็นบ้า แต่ไม่กล้าพอที่จะหยุดลมหายใจตัวเอง

    เที่ยวเดินหาคนกล้า - บ้ายิงกลางหัวใจเขาได้
    ออกเดินอย่างไร้หัวใจ เดินไปหาซื้อโลงศพจาก Qwerty

    แน่นอน Qwerty ปฏิเสธเขา พร้อมบอกว่า
    “ผมยินดีช่วยคนตาย ... และนั่นไม่ใช่คุณ”

    เชื่อเถอะ พระเจ้านั่นแหละส่ง นางฟ้า มาช่วย Charlie
    แต่ในเวลานั้นคงเศร้าเกินพบรักใหม่ ...

    จู่ๆ Charlie ก็ได้พบกับความตายต่อหน้า
    หรือจะเป็นเพราะ “มรณานุสติ” ก็คงใช่

    คนเราเมื่อทุกข์จนถึงที่สุดและไม่มีที่ไป
    ถ้าไม่เป็นผี ... ก็กลายเป็นคน !

    ...

    ผมเข้าใจว่า ปมหลักของเรื่อง
    คือ เงื่อนไขในการปลดปล่อยตัวเองสู่โลกใหม่
    ทั้งที่บาดแผลในชีวิตเดิมๆ แทบจะไม่มีทางให้เดินต่อไป
    พวกเราอาจกำลังรอเงื่อนไข และ เวลาสุกงอม

    ขุนอรรถ

    ปล. รกบ้านพี่ทั่นอย่างไร ปัดกวาดตามสำบายขะรับ

    ตอบลบ
  2. หากยังสนใจตอนจบ ... ขอมาพี่ทั่น เดี๋ยวจัดให้
    เกรงใจ เผื่ออยากนั่งดูกับตาตนเอง

    : )

    ตอบลบ
  3. เกล็ดหิมะแรกโปรยตัวลงมาต้อนรับวันคริสต์มาส

    Charlie ตื่นขึ้นมาบนตักของซิสเตอร์รุ่นลูก
    “ท่านสาธุคุณมาเยี่ยมพวกเราหรือ?”

    กลางฝันเมื่อคืน ...
    ภรรยาที่เสียชีวิตไปบอกกับ Charlie ว่า
    “ไม่ต้องกลัว ฉันจะไม่ไปไหนหรอกยอดรัก
    ยังไม่ใช่เวลาของคุณ ... ยังไม่ใช่ที่นี่”

    เวลาไม่นานต่อไป Charlie พยักหน้ารับ
    เมื่อสาวเสิร์ฟวัยกลางคนเอ่ยชวนเขาร่วมมื้อเที่ยง

    ...

    คงไม่ใช่เพราะ Rose สับสนจากชายที่อาจเป็นพ่อ
    หรือเพราะหมอกล่าวปฏิเสธจะมีเซ็กซ์กับเธอ
    ... เพื่อแลกกับการช่วยลูกชายนอนแบบอยู่อย่างนั้น

    Rose เปิดใจรับรอยยิ้มแห้งๆ ของ Qwerty
    “สัญญากับฉันสิ พรุ่งนี้ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี”
    “พรุ่งนี้ทุกอย่างจะโอเค ... ฉันสัญญา”
    ทั้งคู่แลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่กัน – เรียบง่าย และอบอุ่น

    ในฉาก เรามองเห็นทั้งคู่ตระกองกอดกันริมหน้าต่าง
    ในเวลาเดียวกัน เสียงสัญญาณหัวใจของเด็กชายค่อยๆ ช้าลง
    - แล้วคว้างจากพวกเขาไป

    Jack เฝ้าหลานใกล้โรงพยาบาล ออกวิ่งหา Rose ทั่วเมือง
    ที่สุดท้ายคือด้านหลังคลับระบำเปลื้องผ้า
    Jack เหนื่อยล้า นั่งแข็งตายกำรูปเมียและลูกสาว - หิมะท่วมหัว

    วาบ –

    เบื้องหน้าคือมหาสมุทรและเกลียวคลื่นกำลังเต้นระบำม้วนตัว
    Jack และหลานสวมชุดขาว วิ่งไล่จับและเล่นว่าวกันสนุกสนาน

    “คนอยู่”ต่างหากที่ยังต้องทนทุกข์

    ขุนอรรถ

    ปล. พี่ทั่น ทั่นพี่ร่วมสถาบัน อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ผมจะยินดีอย่างยิ่งหากจะส่งที่อยู่มาให้ khun_aut@yahoo.com.sg จะเร่งจัดดีวีดีส่งไป ด้วยใจปิติ คารวะ

    ตอบลบ