(ยาวเกินไป แหมะคอมเม้นต์ไม่ผ่าน เพิ่งรู้ว่าให้ไม่เกิน 4000 คำ)

ล่วงดึกสวัสดิ์ขอรับ

ท่านยิงประเด็นซะข้าพเจ้าพรุนเป็นเต้าหู้ทอดเลยเชีย เชื่อแล้วว่าเรื่องที่จะคุยมากจนตีกันวุ่นจับเข้าแถวไม่ถูก

ท่านเคยดูหนังคาวบอยเปล่า เวลาเขาดวลกัน เขาหันหลังชนแล้วก้าวขาแยกจากกัน ครบก้าวกำหนดก็หันมายิง เปรี้ยง!

นัดเดียว

จอด

แต่ทั่นเล่นชักปีนกล ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ ปุ

ข้าพเจ้าเด้งกระเด็นดึ๊ง ดึ๊ง ดึ๊ง กลิ้งอีกสี่ห้าตลบ
กว่าจะโขยกเขยกลุกขึ้น ยังต้องมานั่งแกะกระสุนออกจากตัวทีละนัด ละนัด
(พอดีเป็นพระเอก ถูกยิงไม่ตาย) เล่นเอางง ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน (เหมียนกัลล์)

เอาล่ะว่ากันทีละนัด

1 สมองมึน

เชื่อว่าท่านสามารถแยกแยะ คำทักท้วงใดควรใส่ใจเพียงไร

2 เป้าหมายวัตถุประสงค์

อันนี้อยู่ในวิชาบริหารทั่วไปหลักสูตรป.ตรี ปี 1
เป้าหมาย คือ เป้าหมาย
วัตถุประสงค์ คือ วัตถุประสงค์

ตัวอย่าง 1 : ท่านกำลังขับรถกลับรังหนูน้อย 501
เป้าหมาย : อพาร์ทเม้นต์หรูกลางเมือง
วัตถุประสงค์ : จะรีบไปดูละครตอนกำลังเข้าได้เข้าเข็ม

ตัวอย่าง 2 : ท่านกำลังขับรถไปสยามฯ
เป้าหมาย : ร้านคุณพ่อ
วัตถุประสงค์ : ไปดินเนอร์ (ดิลล์นัดไว้)  

ทั้งสองตัวอย่างมีประเด็นเดียว -ขับรถดี ๆ

พอยัง?
อีกตัวอย่างก็ได้

ตัวอย่าง 3 : ท่านกำลังนั่งเอาขาเกยคาง เขียนนิยายที่ค้างแต่ปีมะโว้
เป้าหมาย : จบซะที (สิฟะ!)
วัตถุประสงค์ : อยากเขียนเรื่องใหม่แย้ว

ประเด็น : ท่านั่งสุดเก๋

(ประเด็นเป็นเรื่องเราหยิบยกขึ้นมากล่าว มาพิจารณา แล้วแต่เลือกหยิบ แต่หยิบแล้วต้องจับให้มั่น ไม่หลุดมือ) (ประเด็นวัตถุประสงค์เป้าหมายงานเขียนตัดทิ้งไปเลย)  

3 เรื่องสั้นโนเนม

อ้ายพุ่มกรุณาตั้งชื่อให้แล้ว หากท่านจะถือเอาเป็นสิริมงคลก็คงไม่เลว เพราะตะแกก็ศิษย์พี่ข้าพเจ้า  หากข้าพเจ้าคือพระอาจารย์ (เรื่องนี้อยากคุยมานาน ขอขยักไว้ข้อสุดท้าย) อ้ายพุ่มก็ต้องอาจารย์ปู่ เจอหน้าขอท่านเร่งสะบัดแขนโขกศีรษะคารวะ

สำหรับ 'ยัยตัวร้ายกับนายอ้วนดำ' (อ่า..จำชื่อไม่ได้แระ มั่วประมาณนี้ไปก่อน) หากท่านเขียนไปเรื่อย ๆ จับบุคลิกของพวกเพื่อน ๆ กลุ่มนั้นมายำ ซอยหอมใหญ่ใส่พริกสดรดน้ำปลาบีบมะนาวคลุกเคล้าไปเรื่อย ๆ ท่านก็จะได้นิยายส่งแจ่มใสหนึ่งเรื่อง กราบล่ะ..เขียนไปเรื่อย ๆ นะทั่นนะ

ผู้คนโดยมากยังติดอยู่กับกรอบคุ้นชิน เคยคิดว่า 'เรื่องสั้น' เป็นอย่างไร ก็คิดว่า 'เรื่องสั้น' เป็นอย่างนั้น (ว่าง ๆ หากท่านเขียนเรื่องสั้นสิบห้าหน้าเอ 4 แหมะลงบอร์ด ท่านอาจโดนแขวะว่า.. 'เนี่ยะนะเรื่องสั้น!')(มีนะทั่น..ยังมีคนจองสัมปะทาน 'เรื่องสั้น' เฉพาะเพื่อชีวิตสะท้อนสังคมเท่านั้น!) 

บางคนบอกเรื่องสั้นต้องอย่างนั้น หลายคนบอกเรื่องสั้นต้องหยั่งงี้

ว่าเป็นกรณีแล้วกัลล์ (เช่นจะส่งให้คณะกรรมสักรางวัลตัดสิน เราก็จัดเรื่องสั้นที่ตรงกับธรรมชาติของกรรมการกลุ่มนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น คณะกรรมการตัดสินเรื่องสั้นยุวชนยอดเยี่ยมแห่งอาเซี่ยน มีผู้ทรงคุณวุฒิตัวแทนจากอนุบาลหมีแพนด้าน้อยห้อง ๓ก เป็นอาทิ ก่อนเลือกเรื่องส่ง เราคงต้องปรับคำนิยามของเรื่องสั้นกันใหม่) 

ตอนโพสท์บอร์ดอย่าใส่คำ 'เรื่องสั้น' ก็สิ้นเรื่องขอรับ

ท่านผ่านวุฒิภาวะตรงนั้นแล้ว เรารู้กันว่าเนื้อหากำหนดรูปแบบ ไม่ใช่คนเขียน เราคนเขียนเพียงรู้ทำความเข้าใจและจัดเนื้อหาเหล่านั้นวางในที่ทางพอเหมาะพอดี (แน่ล่ะที่เราฝึกฝนก็คือจัดการความพอเหมาะพอดีนั่น)

4 คำวิจารณ์ 'ยัยตัวร้ายกับนายอ้วนดำ' (สวมชื่อไปก่อน)

คงไม่ต้องรอจบเรื่อง ข้าพเจ้าบอกได้เดี๋ยวนี้เลย
โทนโก๊ะของท่านนับว่าสมตัวดีแล้ว เสียงตอบรับจากสหายก็บอกว่าตรงต่อมฮา (ข้าพเจ้าเสียอีก เขียนไปไม่ค่อยมีใครฮา ขำอยู่คนเดีย) สมวัตถุประสงค์ของเรื่อง  

เจ้านายช่างดิลล์ไม่ลงประแจ 'ยัยตัวร้ายฯ'  เกรงท่านจะคิดตำหนิใจไปว่าเกียจคร้านคงเกาะกบาลเสียเป็นแท้

หาเป็นเช่นนั้นเลย

โทนเรื่องแนวนี้ไม่ต้องเคร่งครัดภาษา เพียงคุมจังหวะดำเนินเรื่องให้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ดังที่เรียนท่าน เราผ่านหลักกิโลฯ นี้มาแล้ว จึงไม่มีจุดใดให้หยิบยกมาแลกเปลี่ยน   

(สำหรับประโยคที่ขอให้ทบทวนนั่น รบกวนท่านลองปรับแต่ง ลองคิดสักสองสามตัวเลือก ข้าพเจ้ามั่นใจว่าท่านจะพบรูปประโยคลงตัว อยากให้ท่านพบด้วยตัวเอง เพื่อใช้กับประโยคอื่น ๆ ต่อไป)

5 ทักษะด้อย

เราล้วนยังด้อยดุกดุ๋ย ยังต้องปรับปรุงทักษะไปเรื่อย ๆ ถึงมานั่งคุยแลกเปลี่ยนกันนี่ไง

6 กล่อง Recent Posts & Recent Comments

ข้าพเจ้าคงรวบรัดเกินไป อันที่จริงไม่ต้องไปที่หน้าโค้ดเลยขอรับ
เอาใหม่นะ..
รูปแบบ / องค์ประกอบ / เพิ่ม widget (ที่ไซด์บาร์) / RSS FEED
เอา Add. ของฟีดมาใส่
เป็นอันเรียบร้อย

7 เอาล่ะเรื่องสุดท้าย

ก่อนเรียนขอท่านยกข้าพเจ้าวางไว้เสียข้างใจที่นึกเอ็นดู และเชื่อถือว่าถ้อยคำที่กล่าวล้วนเกิดแต่สำนึกดีงาม มิได้คิดหยาบหยามมิตรไมตรี แลหากกล่าวไปแล้วทำท่านขัดข้องหมองน้ำใจ ก็ขอให้ยกอภัยไว้แก่สหายน้อยของท่านแต่เนิ่นเถิด

ข้าพเจ้าตระหนักดีว่าท่านทดข้าพเจ้าไว้เสียบนหิ้ง ก็ด้วยเห็นหลายข้อแลกเปลี่ยนทางอักขระทักษะของเราช่วยปรับข้อข้องใจไขข้อขัดในทางขีดเขียน  แลใคร่บอกข้าพเจ้าว่าท่านเห็นคุณนี้เป็นข้อใหญ่อยู่ จึงไม่ถือสาที่จะกล่าวสัพยอกยกยอปอปั้นเป็นพระอาจารย์ (ใบ้หวย) ไปเสียกระนั้น

การที่ท่านมองเห็น ไม่หลู่ดูแคลน หรือทำไม่รู้ไม่ชี้ นั่นนับว่าประโลมใจข้าพเจ้าสมแก่การแล้ว

แต่การจักรับสมณะศักดิ์นั้นขอท่านสดับข้าพเจ้าสักนิดเถิด

อันเหล่าคุรุนั้น โดยมากยึดถือหลักความเชื่อตนว่าดีว่างาม มุ่งเผยแผ่ความคิดความเห็นสู่ผู้อื่นซึ่งยอมรับศรัทธามาไว้กับใจ เรียนรู้ ศึกษา ปาวารณาตนเป็นศิษย์ กระบวนความคิดของคนเหล่านี้เดินทางไปโดยมีผู้เป็น 'คุรุ' บงการ แล้วแต่จะชักนำไปทิศทางใด

น้อยครั้งที่เห็นคุรุเป็นผู้ชี้ทาง มิใช่นำทาง

ผู้คนในสังคมจึงติดอยู่กับคุรุผู้นำทาง ความหมายแท้ของคุรุถูกความคุ้นเคยครอบงำ หลงตามกันไปโดยขาดสำนึกใตร่ตรอง  ผู้ศิษย์หลงเดินตาม ผู้อาจารย์หลงตนว่ามีคนติดตามเกิดอำนาจบารมีครอบงำ ประดุจแม่ปูกับลูกปูไม่รู้ตัวเองฉันใด เหล่าคุรุและศิษย์ย่อมเป็นไปในทางเดียวกันฉันนั้น

ก่อนเข้าสำนักหนอน พบว่าท่านเจ้าสำนักปฏิเสธทุกคนที่ปาวารณาตนเป็นศิษย์เรียกท่านว่าอาจารย์ พร้อมแจงเหตุผลชัดเจน

ข้าพเจ้าจึงพบว่านี่คือบุคคลที่คิดไปทางเดียวกัน จึงเลือกอยู่ใกล้ท่านเจ้าสำนัก  

ความอันท่านสัพยอกนั้นน้อมรับไว้โดยตื้นใจ

เพียงยามนี้ที่สำนักยังมีพี่ท่านเจ๊นกเริ่มร่วมขบวนสัพยอก หยิบยกมากล่าวคล้ายมากความ หากเฉยเสียก็เกรงว่านอกจากไม่เงียบหายแล้วเกิดลุกลามขึ้นมาจะยากแก่การดับ

หากท่านที่เคารพยังรักเอ็นดู ก็ขอท่านยกข้าพเจ้าคืนไว้ข้างอักขรามิตรตัวจ้อยที่สงบเสงี่ยมเจียมตนเหมือนเช่นเดิมเถิดขอรับ

8 (แถมอีกข้อ) ความยินดีของอักขระวเนจรหามีใดมากไปกว่ารับรู้ว่าอักขรามิ่งมิตรร่วมทางจำเริญก้าวหน้าไปด้วยดี รับรู้ว่านิยายท่านเดินหน้า คล้ายมีมืออุ่นยื่นมาฉุดพากันก้าวเดินไป..เดินไปด้วยกัลล์ขอรับ

คารวะ

กระท่อมน้อยฝนกระบี่เดียวดาย

4 ความคิดเห็น:

  1. จะค่ำอีกแย้วสวัสดิ์ท่านดิลล์ที่เคารพ

    ข้าเจ้าไม่ชอบดวลแบบคาวบอย แบบนั้นมีแต่ตายกับตาย ว่าแต่ท่านเป็นพระเอกเรื่องไรเหรอ ข้าเจ้าจะได้จองคิวขอเป็นนางเอก อิอิ

    ที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยเยอะแยะน่ะ นี่มันแค่ 1 ใน 10 ยังเหลืออีกตั้งเก้าส่วนเมื่อวานถ้าข้าเจ้าใส่ไปหมดทั้งสิบส่วน เชื่อแน่ว่าทั่นไม่มีแรงนั่งปลดลูกกระสุน ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำตอบ

    1.มึน

    บ่ได้มึนกับคำวิจารณ์ แต่มึนกับคำถามอย่างที่บอก

    2.เป้าหมายวัตถุประสงค์

    ไม่เคยเรียนบริหารเจ้าค่ะ ทั้งทั่วไปและทั่วไม่ไป(และก็ดูเหมือนว่าวิชาที่เคยเรียนมาทั้งหมดจะคืนครูไปหมดแล้ว)

    ขอบคุณสำหรับตัวอย่าง แม้จะเข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง(ตอนอ่านตัวอย่างของท่านก็เข้าใจอยู่หรอก แต่พอเอาไปคิดกับงานเขียนชักงงๆ)

    (ประเด็นเป็นเรื่องเราหยิบยกขึ้นมากล่าว มาพิจารณา แล้วแต่เลือกหยิบ แต่หยิบแล้วต้องจับให้มั่น ไม่หลุดมือ)

    ถ้าประเด็นมันลื่นยิ่งกว่าปลาไหลใส่สเก็ตล่ะทั่น ประมาณว่า จับสองมือเอาไม่อยู่ เอาเท้ามาช่วยหนีบอีกสองข้าง มันยังทะลึ่งลื่นปรื๊ดไปได้ ให้ทำไง?..อ้อ อย่าบอกว่าให้เลิกเขียน

    (ประเด็นวัตถุประสงค์เป้าหมายงานเขียนตัดทิ้งไปเลย)

    อันนี้งง ให้ตัดทิ้งทั้งหมด ทั้งประเด็น ทั้งเป้าหมาย ทั้งวัตถุประสงค์เหรอ? อ้าวก็ไหนเมื่อกี๊บอกให้จับประเด็นให้มั่นไง

    3.เรื่องสั้นโนเนม

    ข้าเจ้าเคยตามอ่านงานอ้ายพุ่มฯ อยู่พักนึงตั้งกะยังเป็นหนอนละอ่อนไร้ชื่อ ระหกระเหินเร่ร่อนไร้ที่ซุกหัว ไม่ใช่ว่าตามแบบสดๆ หรอกนะ ต้องลงทุนนั่งขุดขึ้นมา สะบัดๆขี้ฝุ่นออกซะหน่อย แล้วก็มานั่งจ้องตาเป๋ง

    'ยัยตัวร้ายกับนายตัวดำ' เจ้าค่ะ ท่านพุ่มฯ ตั้งให้ชื่อนี้ อย่าซี้ซั้วเปลี่ยนชื่อใหม่ พระเอกของข้าพเจ้าถึงจะดำ จะถึก แต่ไม่มีไขมันส่วนเกิน ข้าพเจ้าขี้เกียจลากพ่อเจ้าประคุณไปออกกำลังกายทีหลัง

    เรื่องที่จะให้เขียนไปเรื่อยๆ นั้นเห็นทีจะไม่ไหว ต่อให้ทั่นลงทุนคุกเข่าโขกศีรษะจนหัวปูดเท่าลูกมะนาว ข้าเจ้าก็ยังจะยืนยันกระต่ายขูดมะพร้าว(กระต่ายขาเดียวไม่เคยเห็น แต่กระต่ายขูดมะพร้าวนี่รู้จักดีเมื่อก่อนเคยใช้บ่อย) ว่าเห็นทีจะไม่ไหว แค่สามตอนที่ตั้งใจจะเขียนให้จบ ข้าเจ้าก็แทบกระอักเลือด คิดมุขไม่ใช่ง่ายๆ นะทั่น กว่าจะคิดมุขเรื่องเอารีโมททีวีไปเดินห้างฯ ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าพเจ้าต้องนั่งท่าพิสดารขนาดไหน

    อ้อ..ข้าพเจ้าบ่มีปัญหากับเรื่องสั้นขนาดยาวเจ้าค่ะ เข้าใจว่าเรื่องสั้นไม่จำเป็นต้องสั้นจู๊ดจู๋ให้เข้ากับชื่อ เคยอ่านงานท่านหนกฯ หน้าปกบอกรวมเรื่องสั้น แต่อ่านไปเรื่องเดียวจะถึงครึ่งเล่มแระยังไม่เห็นแววจะจบ ซึ้งใจกับเรื่องสั้นของท่านจริงๆ งานเรื่องสั้นที่เราเขียนๆ กันยังจัดว่าขี้ปะติ๋ว

    4.คำวิจารณ์ 'ยัยตัวร้ายกับนายตัวดำ' (เปลี่ยนชื่อให้แย้ว)

    ขอบพระคุณสำหรับคำวิจารณ์

    ส่วนประโยคที่ท่านกล่าวถึงจะลองไปทบทวนอีกที

    5.ทักษะด้อย

    เราล้วนยังด้อยดุกดุ๋ย ยังต้องปรับปรุงทักษะไปเรื่อย ๆ ถึงมานั่งคุยแลกเปลี่ยนกันนี่ไง

    อืม...ม์...เข้าใจ...เข้าใจ...

    6.กล่อง Recent Posts & Recent Comments

    ขอบคุณที่บอกซ้ำอีกครั้ง คิดว่าครั้งแรกก็เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ แต่ที่บอกว่าไล่โค้ดนั้น ข้าพเจ้าหาเรื่องปวดขมองเองแหละ ^^!

    7.เอาล่ะเรื่องสุดท้าย (แต่ไม่ท้ายสุด)

    เห็นไหมล่ะ ว่าข้าพเจ้าเลือกคนไม่ผิด(อืมม์..อันตัวเรานี้ก็ตาแหลมใช้ได้แฮะ)

    ท่านเข้าใจดีว่าคุรุแท้จริงมีความหมายเช่นไร หากท่านจะเป็นคุรุใคร ข้าพเจ้าก็เชื่อว่า ท่านจะปฏิบัติตัวได้เหมาะสมตามความหมายที่ท่านเข้าใจ

    ชี้ทาง หรือนำทาง เชื่อว่าท่านรู้สิ่งใดควรมิควร

    ข้าพเจ้าเคยดูหนังจีนกำลังภายใน ผู้เป็นยอดยุทธ์ทั้งหลายซึ่งบรรลุขั้นสูงสุดคืนสู่สามัญ จะรับศิษย์ตะละที ผู้เป็นศิษย์ต้องผ่านการพิสูจน์โน่นนี่สารพัด แล้วจอมยุทธ์กระบี่เดียวดายนามธุลีดินซึ่งก็มิได้ด้อยกว่าใครในใต้หล้า จะรับศิษย์กันง่ายดายได้ฉันใดเล่า เข้าใจเจ้าค่ะ..เข้าใจ

    เอาเถิด(หมู่นี้ใช้จริงแฮะ ไอ้คำนี้) หากวันนี้ท่านยังไม่รับข้าพเจ้าเป็นศิษย์ ข้าพเจ้าก็จะพิสูจน์ตนโดยการคุกเข่าอยู่หน้ากระท่อมท่านจนกว่าท่านจะใจอ่อน(ออ แต่ข้าพเจ้าหาได้คุกเข่าตลอดเวลาหรอกนะ หากหิวข้าพเจ้าก็จะไปกิน ง่วงก็จะไปนอน ปวดท้องหนักท้องเบาก็ไปเข้าห้องน้ำ อยากทำโน่น นี่ นั่น นู่น ก็จะไปทำโน่น นี่ นั่น นู่น ไว้ว่างเวลาคราใดก็ค่อยมานั่งคุกเข่าต่อ)

    ตอบลบ
  2. วันนี้ท่านไม่ใจอ่อน วันหน้าท่านต้องใจอ่อน หากวันหน้าท่านไม่ใจอ่อน ปีหน้าท่านก็ต้องใจอ่อน หากปีหน้าท่านยังไม่ใจอ่อน สิบปีข้างหน้าท่านก็ต้องใจอ่อน และถ้าท่านยังใจแข็งผิดมนุษย์มนาถึงขนาดสิบปีข้างหน้าก็ไม่ยอมรับข้าพเจ้าเป็นศิษย์ ข้าพเจ้าตามไปเป็นศิษย์ท่านชาติหน้าก็ได้ ฮึ!

    เรื่องปัญหาไม่พักพูดถึง หนอนสาวหนอนหนุ่ม(หากบังเอิญท่านยังหนุ่มอยู่อ่ะนะ)คุยกันกะจุ๋งกะจิ๋งย่อมเกิดปัญหาอยู่แล้ว ถ้าเป็นเสียงแซวเล็กๆ น้อยๆ ข้าพเจ้าก็อุ่นใจว่าตัวเรานี้ก็เป็นคนสำคัญอยู่ในสายตาเค้า แต่ถ้าทั่นคิดว่ามันเป็นปัญหาสาหัสสากันณ์ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน เอาไว้ว่างๆ ข้าพเจ้าจะแบกตาชั่งมาให้ท่านสักอัน อยู่เฉยๆไม่มีไรทำทั่นก็นั่งขุดมันมาวางบนตาชั่งนะ จะได้สบายใจ

    8.ขอบคุณที่ร่วมยินดีกับความคืบหน้าของนิยายเจ้าค่ะ แต่วันนี้ข้าพเจ้านั่งหง่าว ก็แม่เพื่อนตัวดีหยุดงาน วันหยุดของหล่อนคือวันจันทร์โดยปกติ(ถ้าไม่ปกติก็คือไม่ได้หยุดตรงวันจันทร์ ...บอกทำไมฟะ) เจ้าหล่อนยึดคอมฯ เล่นเกมทั้งวัน แถมเปิดเพลงลั่นห้อง ข้าเจ้าคิดเขียนอะไรไม่ออก เลยเปิดตูดหนีเข้าโลกความฝัน ตื่นขึ้นมาแม่ยังไม่จบเกม ข้าพเจ้าจำต้องออกมาเตร็ดเตร่ข้างนอก แวะเน็ตคาเฟ่ดูเผื่อเจอทั่นตอบความ...และก็ไม่ผิดหวัง

    ชั่วโมงกว่าแล้ว เห็นทีต้องขอแจว

    ด้วยความเคารพ

    ป.ล.เคยเจอเหมือนกันโพสต์ความเห็นไม่ผ่าน เพราะมีคำมากไป ดูท่าท่านกันกับข้าเจ้าบ้าน้ำลายพอกัลล์

    ป.ล.2 วันนี้ก็ไม่ผ่าน ต้องตัดเป็นสองความเห็น

    ตอบลบ
  3. ค่ำคืนพระจันทร์สวยสวัสดิ์ทั่น

    ข้าพเจ้าต่อเวลาเน็ตแล้ว มุดหัวอยู่ในกะลาไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเสียนาน โลกถึงไหนแล้วไม่เคยรู้ เพิ่งรู้ว่า true มีเน็ต 250 ไม่จำกัดเวลา

    แม่จ้าววววว!

    ราคาเดียวกับที่ข้าพเจ้าจ่ายให้วันทูคอลอยู่ทุกเดือน แต่ได้เวลาแค่ 60 ช.ม. บอกตัวเองว่าวันละสองชั่วโมงพอถมถืด แค่โพสท์บล็อก กับติดตามข่าวสาร เน็ตมันช้าจัดน่ะทั่น เปิดหน้าหนังสือพิมพ์ตะละที ต้องรอจนหม้อข้าวเดือด คลิกตัด แล้วเอามาผ่านตา มีตรงไหนอยากอ่าน ต่อใหม่ รอโหลด แล้วรีบตัด เอามาอ่านออฟไลน์ ทำอย่างนี้จนติดนิสัย (ค่ำนี้ยังขำตัวเองอยู่เลย ได้เน็ตไม่จำกัดเวลาใช้แล้วยังลุกลี้ลุกลนเร่งเข้าเร่งออก)

    มีบ้างบางหนที่เวลาเน็ตไม่พอใช้ ช็อตก่อนครบเดือนเหมือนสมัยเป็นคนงานผูกไทเงินไม่ชนเดือนก็อิตอนปลุกปล้ำกับเจ้าขนำน้อยนั่นแล เพราะทำออฟไลน์ไม่ได้ต้องใช้เวลาต่อเนื่องกว่าเสร็จครั้งละหลาย ๆ ชั่วโมง (แค่นั่งหาธีมก็หมดเป็นวันแล้ว)

    ใช้อยู่อย่างนี้ข้ามปี โดยไม่เคยคิดเปลี่ยน

    บังเอิญเจ้าสหายรักเอ่ยปากพิกุล ข้าพเจ้าถึงได้รู้ว่า ตอนนี้ปลายนาโคกบัวบกใช้ออเร้นจ์ได้แล้ว พร้อมแจ้งแพ็คเก็จ

    "สองร้อยห้าสิบ โนลิมิต"

    อา..ค่ำนี้เหมือนเริ่มชีวิตใหม่เลยทั่น ตอนข้าพเจ้าจะเขียน 'กาลครั้งหนึ่ง' อยากรู้ข้อมูลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพสังคม บ้านช่อง อาหารการกิน เครื่องแต่งกายสมัยต้นรัชกาลที่ห้า หรือข้อมูลวัตถุโบราณต่าง ๆ ที่คิดเอามาเขียน

    แต่เสิร์ชไม่ได้ดังใจ เพราะเวลาเน็ตไม่พอให้ใช้ (หากท่านลองก็จะพบว่าเสิร์ชข้อมูลเป็นอะไรที่สูญเวลาอย่างร้ายกาจ มาตรแม้นไม่ถึงกับงมเข็มในมหาสมุทร แต่ก็เชิง ๆ)

    เวลาเขียนยังคงเดิม ที่ได้มาเพิ่มคือเวลาหาข้อมูล ข้าพเจ้าจะใช้ให้เต็มประสิทธิผล หากได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาคิดว่าคือแรงจูงใจ การเขียนก็คงง่ายขึ้น

    เป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่?

    ไว้เรามาดูลายกระบี่ที่จะประลองกะท่านหวังต้นเดือนหน้ากัลล์

    คารวะ

    -กระท่อมน้อยฝนกระบี่เดียวดาย-

    ป.ล. สำหรับเป้าหมายกับวัตถุประสงค์ของงานเขียน ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ต้องนำมาพิจารณาดอกขะรับ เมื่อลงมือสร้างงานศิลปะ เชื่อว่าทุกคนมีเป้าหมายวัตถุประสงค์เฉพาะตนอยู่แล้ว แต่ละเรื่องที่เขียนก็มีเป้าหมายวัตถุประสงค์ของเรื่องนั้น ๆ

    มีผู้สื่อสารมีผู้รับสาร ต่างทำหน้าที่ตน

    ไม่ใช่กิจผู้สื่อที่จะคอยบอกว่าต้องการสื่ออะไร ขอท่านลองคิดภาพ ศิลปินแต่งตัวหรู สะอาดสะอ้าน ยืนกุมเป้าคอยอธิบายความนัยที่ต้องการสื่ออยู่หน้าภาพเขียนตน

    เห็นภาพนั้นแล้วท่านคิดอย่างไรขอรับ?

    เราวาดภาพโดยใช้ตัวอักษรแทนสีและทีแปรง ปลุกปล้ำ หกคะเมนตีลังกา รังสรรค์ภาพให้เป็นดังใจต้องการ เมื่อสำเร็จก็นับว่าเสร็จสมอารมณ์หมาย ผู้อ่านมองแล้วคิดเห็นไปทางใด ตรงกับที่เราต้องการสื่อ หรือต่าง ล้วนสมควรปล่อยให้เป็นอิสระ ตีความตามแต่ประสบการณ์ แลวุมิภาวะ ณ ขณะนั้น ๆ ของตน

    อาจมีผู้อ่านบางท่านถามว่า ต้องการสื่ออะไร? เพื่อตรวจสอบว่าตรงกันหรือไม่? หรือตำหนิว่าสื่ออะไรไม่เห็นรู้เรื่อง!

    เราก็เพียงยิ้มอมภูมิให้มากไว้ (ทั้งในใจคิดว่า ตูข้าก็ไม่รู้เรื่องเหมียนกัลล์)

    ท่านสำแดงมุมคิดไม่ธรรมดา ต่อท้าย 'บางบอนฯ ตอน คู่มือรัก (ฉบับสมบูรณ์)' (ข้าพเจ้าตั้งชื่อห่วยแตก เจ้ากระติกโอเลี้ยงต่างหากที่เป็นพระเอก) บอกว่า หนังสือนั่นไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือคู่มือรัก หนังสืออะไรก็ได้ ขอเพียงเชื่อมสองดวงใจถึงกัน ล้วนเป็นคู่มือรัก

    โป๊ะเชะ!

    (มีต่อ)

    ตอบลบ
  4. นับว่าคิดไกลเกินข้าพเจ้าผู้เขียนเสียอีก

    สารได้รับตรงที่ต้องการสื่อหรือไม่?

    ไม่เลยขอรับ เจ้าคนสื่อคิดเพียงตื้น ท่านมองลึกลงอีกระดับ นั่นถือเป็นความล้มเหลวของการสื่อสารหรือไม่? ผิดเป้าหมายผิดวัตถุประสงค์ที่ต้องการสื่อหรือไม่?

    ล้วนไม่ใช่เรื่องที่ต้องนำมาวิเคราะห์กังวลเลย

    คนหนึ่งอาจนั่งงง แล้วบอกว่าเขียนไม่รู้เรื่อง อีกคนอาจตีความลึกซึ้งเกินคนเขียน อีกคนอาจเข้าใจตรงกันเป๊ะ

    ผู้เขียนเพียงนั่งอมยิ้ม ยิ้มให้มากไว้ เพราะเรารู้ดีว่า งานชิ้นนั้นเสร็จแล้ว สื่อตรงใจผู้เขียนที่สุดเท่าทำได้แล้ว สุขแล้ว แลตั้งหน้าตั้งตาปั่นงานชิ้นต่อ ๆ ไป (แน่ล่ะ จุดพร่องย่อมยังมีอยู่เป็นสามัญ เราค่อย ๆ มอง ค่อย ๆ แก้)

    ข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า ประเด็น..วัตถุประสงค์เป้าหมายงานเขียนตัดทิ้งไปเลย

    แต่เร่งร้อนไปหน่อย กล่าวรวบรัดตัดความเสียสั้นกุด จึงทำให้ท่านต้องงองูเจอกัน เปลี่ยนกล่าวเสียใหม่เป็นว่า "ประเด็นที่พูดถึงเป้าหมายและวัตถุประสงค์งานเขียนนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าเราน่าจะเก็บใส่เชี่ยนหมากเสียได้" หรือทั่นคิดว่าอย่างไร?

    ยังยืนยันนั่งยัน

    'ยัยตัวร้ายกะนายตัวดำ' เข้าข่ายแนวป๊อปคอมเมอร์ดี้ ท่านจะนั่งท่าไหนก็ช่าง ขอเพียงเข็นมุกออกมาทีละตอนละตอน แจ่มใสรับแน่ (เอ่อ..อาจไม่แน่เพราะตะแกมีนักเขียนในสังกัดแยะ เอาเป็นค่ายสำนักรองก็ได้)

    เดินอักษรมาไกลโข
    เดือนแรมค่ำมืดดึกดื่น เกรงกลับลำบาก
    เห็นทีพอแค่นี้ก่อน

    ราตรีสวัสดิ์ขอรับ

    คารวะ

    ตอบลบ