โอ..คิดจะมุดมุ้ง
มาเจอปุจฉาของท่านเข้า เห็นทีผ่านเลยมิได้
'ตั้งแต่เขียนมาถึงทุกวันนี้ทั่นคิดว่าจุดบกพร่องในการเขียนของข้าพเจ้ามีอะไรบ้างหรือทั่นรบกวนทั่นวิจารณ์ด้วยเถิด'
ข้าพเจ้าเห็นบางอย่างในลายอักขระท่าน (ตั้งแต่บทกวีโกกุแล้ว) เพียงข้าพเจ้าไม่ทราบว่าบางอย่างที่ว่าคืออะไร ได้แต่รอวันเวลาฝึกฝน รอท่านผ่านตัวอักษรทวีขึ้น กระทั่งบางอย่างที่ว่านั้นสำแดงตนออกมา
ข้าพเจ้าเชื่อว่าสำหรับเหล่าเรานักหัดเขียน จุดพร่องร่องพลาดย่อมมีเป็นสามัญ การหยิบยกขึ้นมาเอ่ยถึงอาจไม่เกิดผลดีเสมอไป เพราะตัวผู้หยิบยก (เยี่ยงข้าพเจ้าเอง) ก็ยังอ่อนด้อยมีหางอึ่งน้อยอยู่เพียงดุ๊กดิ๊กใช้กระดุกไปวัน ๆ
ข้าพเจ้ายังเชื่อว่า..สำหรับเหล่าเรา ขอเพียงเขียนให้จบเรื่อง เขียนให้มาก ตัวอักษรเหล่านั้นจะบอกเราเองในภายหลัง และขอเพียงเราเปิดใจ แก้ไขตัวเองตลอดเวลา ทักษะย่อมพัฒนาตามจำนวนอักษร
ข้าพเจ้าจึงมิบังอาจวิพากษ์วิจารณ์เนื้องาน (มาตรแม้นท่านจะขอมาก็ตามที) ที่พอกระทำคือหยิบจับประเด็นมาแลกเปลี่ยนปุจฉา-วิสัชนา เพื่อแตกมุมคิดมุมเห็น
เท่าที่ผ่านมา ข้าพเจ้าใคร่หยิบประเด็น 'เขียนประโยคละบรรทัด' ขึ้นมาขอให้ท่านพิจารณา ซึ่งสหายพี่สามที่เคารพได้กรุณาจัดการไปแล้ว ข้าพเจ้ามิบังควรกล่าวถึงอีก (แต่ก็อดมิได้)
ภาษากำลังภายในเป็นบทกวี ใช้ถ้อยคำแต่น้อยแฝงความหมายกว้างไกล
การเขียนประโยคละบรรทัด คล้ายบอกให้รู้ว่ากำลังเขียนบทกวี ข้าพเจ้าเองเมื่อแรกเขียน 'กระบี่ทลายฟ้า' ก็ใช้ประโยคละบรรทัด เนื่องเพราะง่ายต่อกระบวนการเรียงคำสร้างประโยค กระทั่งย่าหนุง (ที่เคารพรัก) กรุณาทักท้วง จึงได้ทบทวน แลพบว่าใช้ประโยคละบรรทัดเหมาะเฉพาะสำหรับบทกวี แต่ไม่เหมาะกับความเรียงหรือนิยาย เพราะการเรียงประโยคเช่นนั้นทำให้จังหวะการอ่านขาดห้วง เนื้อหาและอารมณ์ผู้อ่านไม่ปะติดปะต่อ บางจังหวะที่อารมณ์อ่านสมควรลงลึกด้วยตัวอักษรที่ต่อเนื่อง กลับต้องขาดช่วงเป็นริ้ว ๆ เพราะขึ้นบรรทัดใหม่
การใช้ย่อหน้าอย่างมีทักษะ รู้จังหวะเหมาะสม ใช้ให้เหมาะกับเหตุการณ์ เนื้อหา และอารมณ์ ย่อหน้าก็จะเป็นเครื่องมือเขียนที่ทรงประสิทธิภาพ (ขอให้ท่านดู 'เครื่องมือนักหัดเขียน' ในก้าวฯ)
สหายพี่ซาเสียว เอ้ย! เสี่ยว ได้กรุณาจัดเรียง 'กระบี่ขาวฯ' ขึ้นใหม่ เป็นรูปประโยคต่อเนื่อง ขอท่านลองเปรียบเทียบว่าจัดเรียงตัวอักษรสองชนิดให้อารมณ์อ่านแตกต่างอย่างไร?
ที่ข้าพเจ้ากล่าวมาทั้งหมดหาใช่ข้อสรุปว่าดีว่าถูกต้อง พญามังกรโบราณเองเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นขึ้นย่อหน้าใหม่แทบทุกประโยคสองประโยค ประสพความสำเร็จมาแล้ว (ซึ่งเราคงต้องศึกษารายละเอียดหากจะนำมาใช้)
จึงหามีอันใดเป็นข้อสรุป หวังเพียงหยิบยกขึ้นมาแลกเปลี่ยน ครุ่นคิด ใตร่ตรอง จากนั้นเราท่านย่อมรู้เลือก รู้ตัดสินใจของเราเอง
'ตั้งแต่เขียนมาถึงทุกวันนี้ทั่นคิดว่าจุดบกพร่องในการเขียนของข้าพเจ้ามีอะไรบ้างหรือทั่นรบกวนทั่นวิจารณ์ด้วยเถิด'
ผู้กล่าวถ้อยคำเยี่ยงนี้นับว่าเปิดใจ เต็มด้วยความนอบน้อมถ่อมตน ประดุจอาชาเปลี่ยวย่อกายก่อนทะยานไปข้างหน้า
ข้าพเจ้าเองก็หวังให้เป็นเยี่ยงนี้ เสียดาย สำนึกตนมิใช่อาชาเปลี่ยว เป็นเพียงม้าชราในคอกที่หัวใจหมายทะยานหมื่นลี้
คารวะ
o หวังซูดิลล์ o
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น