ชุมเสือบ้านห้วยหนอนครั้งกระโน้นเต็มด้วยมือปืนร้อยศพ ทุกคนล้วนมีประวัติปล้นฆ่าโชกโชน ถูกสันติบาลตามล่าหัวซุกหัวซุน เมื่อถูกกดดันหนักเข้าที่สุดก็มารวมกันเป็นชุมเสือ สร้างความอกสั่นขวัญแขวนแก่ชาวบ้านห้วยหนอน ห้วยไก่แจ้ไปจรดแม่ยางอาย
ทางการระดมกำลังจากอำเภอใกล้เคียงเข้ากวาดล้าง ทุกครั้งประสพความล้มเหลว สูญเสียชีวิตตำรวจไปก็มาก
พวกเด็กหนุ่มวัยฉกรรจ์ใจห้าวสมัครเข้าร่วมด้วยแรงคึกคะนอง ชุมเสือที่เมื่อแรกมีแต่มือปืนระดับพระกาฬนับคนได้เติบโตขึ้นทุกที จากสิบกลายเป็นร้อย มือปืนเก่าลายคราม มือปืนใหม่วัยละอ่อนเดินกระทบไหล่สวนกันไปมาในชุมเสือบ้านห้วยหนอน
เวลานั้นมือปืนมีชื่อในชุมเสือเห็นจะไม่มีใครเกินเสือนันท์ เสือกูด เสือไข่ เสือไอ ทั้งสี่เป็นที่รู้จักยำเกรงตลอดย่านบ้านห้วยหนอน ชื่อเสียงไม่ด้อยไปกว่าเสือฝ้าย เสือดำ เสือใบ เสือมเหศวรเมื่อก่อน เสือนันท์นั้นเป็นที่ยำเกรงด้วยประสบการณ์โชกโชน ผ่านศึกเหนือเสือใต้มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เสือกูดหนักแน่น มั่นคง ปืนคู่ไว้ใจได้ เสือไข่เมาหยำเปกินเหล้าแทนน้ำแต่ชักปืนทีไร กระสุนไม่เคยพลาดเป้า ส่วนเสือไอด้อยอาวุโสกว่าใครอุปนิสัยไม่สนระเบียบวินัย ใช้แต่อารมณ์ ท่าชักปืน ท่ายิงสวยงามฉับไว แต่ไม่เคยฆ่าคน เสือไอกระเหี้ยนกระหือรืออยากใช้กระสุนปลิดชีวิตใครสักคนอยู่ทุกวัน
ในจำนวนยอดมือปืนชุมเสือหากไม่นับความแม่นยำ ฉับไว เฉียบคม ไม่มีใครเกินเสือพุ่ม
ชักปืนช้า อืดอาด เต็มด้วยท่วงท่าลีลา ทุกครั้งกว่าเสือพุ่มลั่นกระสุน กระสุนฝ่ายตรงข้ามมักเฉียดใบหู ไม่ก็รอดหว่างขาอย่างหวาดเสียว แต่ทุกครั้งที่เสือพุ่มลั่นไก ท่วงท่าเต็มด้วยจินตนาการ ตั้งแต่ตวัดเรียวนิ้วสวมกอดด้ามไม้มะค่าขัดมัน สะบัดแขนส่งลำกล้องไปข้างหน้า สอดนิ้วเข้าโกร่ง ขึ้นนก เหนี่ยวไก เสือพุ่มเคลื่อนไหวด้วยทักษะยอดมือปืนในตำนาน บางครั้งกระสุนระเบิดออกแล้ว หากควันดินปืนลอยไม่สวย เสือพุ่มมักส่ายหน้าไม่สบอารมณ์ จากนั้นค่อยขยับขาตั้งท่ายิงใหม่ โดยไม่สนว่าเหยื่อแน่นิ่งสิ้นใจแล้วหรือไม่ 'เหยื่อไม่ใช่เป้า ความสวยงามของท่วงท่าต่างหากเล่าคือเป้าที่ยิง' เสือพุ่มเปรยอยู่เสมอ
ชุมเสือบ้านห้วยหนอนเข้มแข็งขึ้นทุกที ทั้งหมดออกปล้นแบ่งสรรปันส่วนอย่างทั่วถึง อยู่ร่วมกันอย่างมีสัมมาคารวะ ผู้เยาว์เคารพอาวุโส ผู้มาใหม่แม้มากวัยก็ให้ความนับถือคนเก่าที่ด้อยวัยกว่าด้วยเห็นว่าอยู่มาก่อน ชื่อเสียงชุมเสือบ้านห้วยหนอนกระฉ่อนจนกลุ่มเสือรายย่อยต่างถิ่นหวังสร้างชื่อชักพากันเข้าร่วม
ทางการเห็นช่อง บางครั้งทำลายความชั่วต้องใช้ความชั่วอีกชนิดหนึ่ง ติดต่อให้สินบนกลุ่มอันธพาลปะปนเข้ามาในชุมเสือ
ชุมเสือที่เคยสุขสงบ เริ่มยุ่งเหยิง มีแบ่งพรรคจับขั้ว ดึงคนโน้นดูดคนนี้เข้าพวก ด่าคนนั้นว่าคนนี้ลับหลัง กระทั่งมีคนปาขี้ส่งกลิ่นโฉ่ไปทั้งชุมเสือ ไม่มีใครเป็นทุกข์เป็นร้อน ยังไม่พอกลับเห็นดีเห็นงามด้วยคนที่ปาก็สมัครพรรคพวกตน
'มิเป็นไร..ทิ้งไว้เดี๋ยวมันก็แห้ง กลิ่นก็จักหายไปเอง' เสือพุ่มเปรย
จนวันหนึ่งขณะเสือพุ่มกำลังเดินลอยชายส่ายก้นอาด ๆ สายคาดปืนทิ้งห้อยข้างเอว ซองหนังผูกไว้หลวม ๆ ตีข้างขาผึบ ๆ กำลังคิดอยู่ว่าจะชักปืนอย่างไรไม่ซ้ำท่าเดิมเผื่อเอาไว้ชักอวดนังเสือสาว ๆ ก็มีอะไรสักอย่างแหมะลงบนใบหน้าหล่อเหลาน้อง ๆ จู๊ด ลอว์ กลิ่นหึ่งอบอึงเข้าไปถึงลำไส้เพราะแหมะอยู่ตรงปลายจมูกนี่เอง
เสือพุ่มสะบัดหน้า มือกุมด้ามปืน หันซ้ายหันขวา เห็นหลังไอ้คนปาไว ๆ ระยะแค่นั้นไม่มีพลาด!
แต่เสือพุ่มไม่ยิง
เสือพุ่มเลือกเดินไปจากชุมเสือบ้านห้วยหนอน เวลานั้นยังช้ากว่าอีกหลายคน
ไม่ต้องใช้กำลัง ไม่ต้องสูญงบประมาณ ชุมเสือบ้านห้วยหนอนค่อย ๆ เงียบเหงาลง พวกยอดมือปืนต่างเบื่อหน่ายหลบหน้ากระจัดพลัดพรายไป ทิ้งร่อยรอยฝ่าเท้าที่เคยย่ำ ริ้วสายใยมิตรภาพที่เคยโยงร้อยใจเหล่ามือปืนถูกปล่อยแห้งกรังพัดพลิ้วในสายลมแล้ง แอ่งน้ำหุบห้วยแห้งขอด เสียงปืนที่เคยสนั่นลั่นทุ่งเงียบหาย
กาลเวลาชะล้างทุกอย่าง
อาจเป็นเช่นเสือพุ่มเคยเปรย 'มิเป็นไร..ทิ้งไว้เดี๋ยวมันก็แห้ง กลิ่นก็จักหายไปเอง' ชุมเสือบ้านห้วยหนอนยามนี้ถนนเต็มด้วยฝุ่นดิน เงียบเหงา เกลี้ยงเกลา ไร้กลิ่นชวนคลื่นเหียน มียอดมือปืนนับคนได้ ไร้ชื่อเสียง ไม่เป็นที่สะทกสะท้านของชาวบ้าน ไม่อยู่ในสายตาของทางการ
สายลมประจิมพัดพรู ผงฝุ่นปลิวว่อน บนถนนทางเข้าชุมเสือ เงาร่างหนึ่งเดินตรงมา ใบหน้าหล่อเหลาน้อง ๆ จู๊ด ลอว์ เข็มขัดปืนพาดเฉียงเหนือหัวเหน่า ลูกปืนเต็มรังเพลิง สายหนังรัดโคนขาไว้หลวม ๆ ทำให้ซองปืนเสียดสีเนื้อผ้าส่งเสียงสวบสาบ ท่าเดินมั่นคงขึ้น มือกางแกว่งเบา ๆ ไม่ห่างด้ามไม้มะค่า
เสือพุ่มกำลังคิดว่าจะชักปืนท่าไหนดี กลับมาคราวนี้นังเสือสาว ๆ จะได้สบใจ
อืมม์ น่ากลัวจริงๆ ไอ้เสือตัวนี้
ตอบลบ^^!