
อีกครั้งข้าพเจ้าได้รับหนังสือจากกัลยาณสหายที่เคารพรัก สำหรับความรู้สึกคงแสดงออกเพียงชั่ววาวตาสะท้อนแวว หาได้เปล่งเปลี่ยนเป็นถ้อยร้อยวาจา ด้วยหากกระทำเช่นนั้นคงต้องใช้เวลาอีกมากมายแปลงระหัสไฟฟ้าจากห้วงคำนึงเป็นวัจนะผ่านริมฝีปากที่ถนัดก็แต่จะผายลมของข้าพเจ้า
ตลอดมาของขวัญติดมือข้าพเจ้ามอบให้มิตรสหายมักจะเป็นหนังสือโดยหาใส่ใจว่าผู้รับจะชมชอบอ่านหนังสือมากน้อยเพียงไร หวังเพียงพวกเขาอาจปรายตามองบ้างไม่มากก็น้อย หวังที่บังอาจเกินเลยไปสักหน่อย..เผื่อปลูกกล้าอ่านวรรณกรรมขึ้นบ้างในจิตใจผู้คน (มิใช่กล้าอ่านฮาวทู ดูดาราดอกนะ!)
แต่แทรกกายอยู่ในสังคมวัตถุนิยมนั้นน้อยนักพบเจอผู้คนมอบหนังสือให้กัน ผ่านห้วงเวลาชีวิตหลายขวบปีข้าพเจ้าได้รับหนังสือเป็นของฝากน้อยจนจำตัวเลขครั้งได้
ข้าพเจ้าเคยสงสัยมีไหม 'สังคมที่ผู้คนมอบหนังสือให้กัน'? แนะนำหนังสือ แลกเปลี่ยนหนังสือกันอ่าน ไม่ต้องกังวลถึงความเก่าใหม่ ต่างล้วนรับรู้ว่าคุณค่าคือสารที่สื่อ หาใช่ความสดใหม่ของสีปก
คิดถึงครั้งหนึ่งข้าพเจ้าให้ ‘มูซาชิ’ ฉบับท่าพระจันทร์แก่สหายเที่ยงแท้แลกค่าเบียร์ที่สหายเลี้ยงดูในวันคล้ายลืมตาดูโลก พร้อมบรรยายสรรพคุณด้วยเห็นว่า ‘มูซาชิ’ เหมาะนักกับผู้อยู่ในวัยแสวงหา (มาตรแม้นตัวเลขอายุจะมากหน่อยก็ไม่ผิดกฏเกณฑ์) กัลยาณเมรัยมิตรคนนั่งข้างปรือตาเอื้อนถามขึ้นว่า “เฮ้ย! อ่านแล้วเอามาให้ได้ไงฟะ!?” ข้าพเจ้าตอบไปด้วยน้ำเสียงระดับเบียร์สดหลอดสอง “อ่านแล้วสิฟะถึงได้รู้ว่าดีอยากให้มันอ่าน”
หนังสือนับเป็นของฝากพิเศษชนิดหนึ่งที่แผกจากของฝากทั่วไป
ต้องเป็นของที่ผู้ให้ใช้แล้วจึงนับเป็นของฝากที่ดี เพราะนั่นเท่ากับว่าผู้ให้ได้พิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกับผู้รับด้วยประการทั้งปวง
ทั้งผู้รับยังสามารถอ่านสารจากหนังสือว่าผู้ให้มองผู้รับในทิศทางใด? เป็นคนอย่างไร? มองโลกแบบไหน? รสนิยมการคิดการอ่านเป็นเช่นไร? ก็จากเนื้อหาหนังสือที่ได้รับมา
อย่างไม่คาดฝัน
บัดนี้คิดว่าข้าพเจ้าได้เดินทางมาถึงดินแดนที่ปรารถนาแล้ว ดินแดนที่ผู้คนมอบหนังสือให้กัน แลกเปลี่ยนมิตรภาพกันด้วยเนื้อสารผ่านตัวอักษร เป็นดินแดนที่น่าอยู่น่าอาศัยนัก ข้าพเจ้าจะยังอยู่ในดินแดนแห่งนี้อีกเนิ่นนานเพียงใดไม่อาจทราบได้ รู้เพียงว่า..ข้าพเจ้าเดินทางมาถึงแล้วและไม่คิดจากไป
ได้รับ ‘ทะแลสาบแห่งหัวใจ’ จากพี่ท่านหิ่ง (กลิ่นทะเลสาบอวลอบในทุกร้อยรสบทกวีของท่านเขมาฯ) ‘ฟองเวลา’ จากย่าหนุง (สำเนียงภาษาท่านอ.เสกฯ ราวดอกลั่นทมขาวงามยามยลหอมกลิ่นยามดอมดม) ‘บ๊องแบ๊ว’ จากท่านอัม (คมคิด-ลายเส้นท่านอัมเนี๊ยบนิ้งติงนัง) ‘เส้นทางสาย ZEN’ จากท่านอ้ายฯ (คงเห็นว่าข้าพเจ้าสมควรบวชเสียที) ล่าสุด 9 นักเขียนรางวัลโนเบล 12 เรื่องสั้น (ท่านป้าขอรับ คุณภาพเอ้าท์พุตขึ้นกับวัตถุดิบอินพุด ท่านช่างสรรวัตถุดิบนัก)
ได้แต่รับมาทำตาปริบ ๆ ยังไม่ตอบแทนเหล่าท่านสักเรื่องเล่ม กรุณารอสักครู่ ข้าพเจ้ามี ‘นวลนาง’ อยู่หลายเล่มแล้วจะส่งไปกำนัลล์ขอรับมิ่งมวลสหายที่เคารพรัก
คารวะ
ดิลล์
Hey there, We are Blossom Themes! We are trying to provide you the new way to look and use the blogger templates. Our designers are working hard and pushing the boundaries of possibilities to widen the horizon of the regular templates and provide high quality blogger templates to all hardworking bloggers!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น