คุณลีโอพุ่ม (ชื่อคุณคล้ายดารารุ่นปู่ผมจัง)

เจ้านายส่งจดหมายให้ผมด้วยสีหน้าเหมือนป๋องเขียวขย้อนค้างค่อนคอ บอกสั้น ๆ "เอาปะ!" อยู่กับแกมาเกือบครบสี่ปี ไม่เคยได้รับจดหมงจดหมายจากใคร มีแต่นั่งดูแกเขียนส่งคนโน้นคนนี้ บางทีนั่งกุมหัว บางทีก็นั่งเอิ๊กอ๊ากอยู่คนเดียว (อย่าเพิ่งคิดไปอย่างนั้นนะคุณลีพุ่ม.. แกแค่เพี้ยน)


ผมว่าคุณจ่าหน้าผิดไปนิดส์นึงนะ (สงสัยอยู่ว่าเจ้านายออกลูกงอลล์เพราะจดหมายผิดซองนี่ล่ะ) ผมชื่อ ไมเคิล คล้าว ไม่ใช่ไมเคิล ดิลล์ (และก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณไมเคิล ปั๋ง หรือไมเคิลคิงก์ออฟป๊อปอภิอมตะคนนั้นแต่อย่างใด) 

ที่แรกชื่อผมไม่ได้เห่ยหยั่งนี้หรอก เท่าจำได้เจ้านายตั้งว่า ไมเคิล แองเจลโล่ ยอดศิลปินยุคคลาสสิคอะไรสักอย่างนี่แหละ (แกแกล้งตั้งล้อเลียนว่าผมช้าแบบนินจาเต่า ผมรู้หรอก) ชื่อเท่ดีผมชอบ เลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เออออห่อหมกใบตำแยไปกับแก แต่แล้ววันดีคืนดี พัดลมผมเกิดเจ๊ง! เจ้านายหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่ได้เขียนหนังสือไปหลายวัน โดนช่างมันหลอกฟันเอาไปเป่าโซเน็กซ์แล้วส่งคืนคิดค่าซ่อมสองพันห้า ทั้งที่ตกลงกันว่าจะเสนอราคาก่อน แค่นั้นยังไม่พอกลับมาถึงมือไม่ทันข้ามวันเป็นอย่างเก่า เจ้านายผมลมออกหู จะเอาตำรวจไปจับมัน!  'หนอย..เห็นกูเป็นควาย!' ได้ยินเจ้านายบ่น

ไอ้บ้านั่นยอมซ่อมให้โดยดี ผมกลับมาใหม่ด้วยพัดลมใหม่เอี่ยม เจ้านายมองไปมองมาคงคิดไปว่าชื่ออาจไม่สมพงศ์ อักษรบางตัวคงเป็นกาลกิณี เลยทำตัวเป็นซินแสแก้ชื่อให้เสร็จสรรพ กลายเป็น 'ไมเคิล คล้าว' ฟังว่าจะได้แข็งแรงทนแดดทนฝน

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะคุณลีพุ่ม

ผมถูกฝนเทใส่เปียกซ่กไปทั้งตัว (หลังคากะลาเจ้านายมันรั่วทะลึ่งไม่ยอมซ่อม) ไม่ยักเป็นไร อีกทีกะลาเจ้านายพังพินาศข้าวของเทลงคูแทบไม่เหลือ ผมค้างขอบหน้าต่างเฉย ผ่าสิคุณลีพุ่ม หลุดไปนิดเดีย ผมคงกลายเป็นมื้อเที่ยงไอ้ช่อน (ว่ายน้ำก็ไม่เป็น)

หลังจากเปลี่ยนชื่อหลัง ผมทนสะบัดช่อ (ขอบอก) รอดจากเหตุการณ์ครั้งกะลาพัง เจ้านายรักหวงผมขึ้นอีกเป็นกอง ไปไหนเป็นกระเตงติดหลัง หมั่นเป่าไล่ฝุ่นพัดลมทุกอาทิตย์ ถึงเจ้านายไม่เคยพูดแต่ผมก็รู้นะว่าแกรักแกหวง จากท่าทางและแรงกดที่แกจับนั่นแหละ มันแผ่วเบาเหมือนผมเป็นลูกหมาพันธุ์ชิสุเชีย

แกเคยบอกว่าผมทำให้แกได้พบโลกที่ไปพ้นจากความกะล่อนสับปรับฉ้อฉลเห็นแต่ประโยชน์ตนเป็นใหญ่ของผู้คน โลกที่คล้ายนักบวชบำเพ็ญญาณสมาบัติแต่ยังคงสีสันไม่ต่างอลัชชีท่องแสงสียามค่ำคืน และได้ปะสหายที่ต่อให้แกดั้นด้นเที่ยวคุ้ยค้นไปตามสมาคมภาษาหรือหอศิลปะ-วัฒนธรรม ถามหาตามร้านขายยา หรือสาวเซเว่นฯ ก็คงไม่มีวันพบเจอ สหายที่ทำให้ชีวิตบำเพ็ญอักขระบริกรรมของแกไม่เงียบเหงา โดดเดี่ยว แกคงเข็ดขยาดนะกับที่ครั้งหนึ่งเคยมีสหายมากหน้าหลายตา จนปฎิสัมพันธ์พัลวันพัลเก ทุกวันนี้จึงเหลืออยู่แค่สองสามหน่อนางที่แกบอกรักหวงสุดชีวิต 'เห็นตัวหนังสือของพวกเจ้าประคุณตะละที ยังกะพบโคโยตี้กับเบียร์สดเต็มเหยือกในมือ' แกว่าหยั่งงั้น

แต่ถึงจะแก้โฉลกเปลี่ยนชื่ออย่างไร ผมก็ยังไม่แคล้ววัฏสังสาร

นี่ก็จวนครบสี่ปี ย่างเข้าปีที่ห้าเห็นทีได้เวลาปลดระวาง เจ้านายเปรย ๆ จะแปลงโฉมผมใหม่ ประมาณรูปลักษณ์ใหม่จิตวิญญาณยังคงเดิม แต่ก็เปรย ๆ อีกว่า 'ไม่มีตังค์ว่ะ' แกจึงตั้งหน้าตั้งตาเขียนนิยายให้จบ หวังเผื่อนิยายจะทำเงินให้แกบ้าง เพราะปีหน้าหากผมเกิดเป็นอะไรไป ชีวิตขีดเขียนของแกคงมีอันพังพาบ เพราะโลกของแกไม่มีอะไรจริง ๆ นอกจากตัวหนังสือที่แกเขียนและตัวหนังสือของสหายที่แกรอคอย

ผมได้แต่เอาใจช่วยให้แกทำสำเร็จ เผื่อผมเองจะได้ดูดีขึ้นบ้าง (ตอนนี้ดูไม่จืด หน้าจอเป็นคราบ รอบตัวเต็มด้วยรอยถลอกปอกเปิก สาวที่ไหนจะมอง..ฮึ!)  

ยินดีได้รู้จักนะคุณลีพุ่ม (ทีหน้าทีหลังอย่าจ่าหน้าผิดอีกล่ะ)

ด้วยความนับถือ
ไมเคิล คล้าว

ป.ล. เจ้านายฝากบอกว่า นิยายท้ารบเป็นอันควักคนครึ่งฐานแห้วทั้งคู่ เจอกัลล์เมื่อไร..เมื่อนั้ลล์  
อ้อ..เจ้านายฝากถามด้วยว่า เห่อฮานามิกะเขาด้วยรึ จึงได้วางนอร์วิเจียน วู้ดไว้ข้างมืออย่างนั้น?

@ เรียนคุณไมเคิล ดิลล์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น