p2




บทนำ

พุทธศตวรรษที่ ๑๒
กลางป่าลึก



เสียงกลองหลายร้อยใบดังลั่นป่าเป็นจังหวะพร้อมเพรียง

“ตึง! ตึง! ตึง!ตึง!”

ดังมาจากเนินภูเขาไฟที่ดับสนิท  ตลอดแนวลาดเนิน เหล่าทหารองครักษ์ยืนเรียงแถว ร่างกายกำยำท่อนบนเปลือยเปล่า  พื้นถนนปูด้วยแผ่นศิลา ขนาบด้วยสระน้ำใหญ่  ผิวน้ำกระเพื่อมทุกครั้งที่เสียงกลองกระหน่ำ  บันไดนาคราชหลายร้อยขั้นเชื่อมต่อ ‘โลกมนุษย์’ สู่ ‘โลกสวรรค์’ มองขึ้นไปสุดบันไดเป็น ‘โคปุระ’ มหึมา สูงสง่าทรงอำนาจ

มีเพียงมหากษัตริย์ผู้อยู่เหนือคนทั้งปวงในอาณาจักรยิ่งใหญ่แห่งนี้  เหล่าพราหมณ์และองครักษ์ชั้นสูงเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์  แก้วผลึกใส ๑๕ ชิ้น ถูกจัดวางตรงกึ่งกลางประตูมหาโคปุระทั้ง ๑๕ บาน 

เสียงพราหมณ์สวดมหามนตราดังก้องไปทั้งปรางค์ใหญ่  เบื้องบูรพาทิศ ดวงสุริยะกำลังเคลื่อนขึ้นจากขอบฟ้า ณ ศูนย์กลางโคปุระซึ่งเปรียบประดุจใจกลางจักรวาลมีแท่งหินศักดิ์สิทธิ์ตั้งบนฐานโยนี
ดวงสุริยะเคลื่อนเข้าสู่บานประตู

มหาราชาขยับพระวรกาย  ทรงหยิบอัญมณีใสบริสุทธิขึ้นมาวางบนแท่งหินศักดิ์สิทธิ์  แล้วทรงก้าวประทับประจำที่

เสียงสวดมหามนตราดังก้อง

แสงสว่างจากดวงสุริยะพุ่งผ่านแก้วผลึกที่ประตูบานแรก กลายเป็นลำแสงพลังงานสูงผ่านแก้วผลึกชิ้นต่อ ๆ ไป จนถึง ‘มหามณี’  ลำแสงพลังงานเข้าหมุนวนใน ‘มหามณี’ เปล่งประกายสีรุ้งเจิดจ้า  เบื้องหน้ามหาราชาปรากฏระนาบใสมีภาพสถานที่ต่าง ๆ เห็นแท่งหินตั้งเรียงเป็นวงกลม เห็นศิลารูปทรงปิรามิดใหญ่ เห็นมหาปราสาทหิน เห็นสถานที่ประหลาดแปลกตามากมายเคลื่อนสลับอย่างรวดเร็ว
มหาราชาทรงเลือกสถานที่หนึ่ง ทรงใช้พระหัตถ์สัมผัสภาพเบื้องหน้า  สายรุ้งพุ่งออกจากมหาอัญมณีเข้าสู่องค์มหาราชา  พระวรกายค่อย ๆ เลือน

ทันใด เหล่าองครักษ์ผู้จงรักภัคดีถูกสังหารลงพร้อมกัน  มหาอัญมณีถูกคนผู้หนึ่งคว้าไปจากแท่งหินศักดิ์สิทธิ์

ภาพเบื้องหน้าเริ่มเลือน  มหาราชาผินพระพักตร์กลับมาด้วยแววตาแตกตื่น

“เจ้า! เจ้า! ข้าจะกลับมา...ฆ่ า...เ จ้ า !”

พระสุรเสียงเลือนหายไปในมิติที่ว่างเปล่า ห่างไกลออกไปหลายร้อยปีแสง..

parks



1



ปัจจุบัน
ป่าดงใหญ่ เทือกพนมดงรัก
บริเวณรอยต่อพรมแดน ไทย - กัมพูชา
มีนาคม ๒๕๔๙


ผืนป่าอุดมสมบูรณ์เป็นเนินเขาสลับทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดตา  ดวงอาทิตย์ยามเช้าดูราวผลส้มสุกสว่างอยู่หลังม่านเมฆ  เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงพลของทหารลำหนึ่งโผล่ขึ้นตรงขอบฟ้า  เสียงนักบินตะโกนแข่งเสียงโรเตอร์

“อีกหนึ่งนาทีถึงที่หมาย  เตรียมตัวครับหัวหน้า!”

เขาพยักหน้ารับทราบ ก้มมองลงไปเบื้องล่าง จี๊ปแรงก์เลอร์กำลังแล่นไปบนทุ่งหญ้าชายป่า
ห่างออกไป  ๔-๕ กิโลเมตร เป็นแคมป์ไซต์ในเขตป่าทึบ  เสียงโทรศัพท์เชื่อมสัญญาณผ่านดาวเทียมดังขึ้น  มืออวบอูมคว้าโทรศัพท์ทันที

“สวัสดีครับท่าน”

“ผู้พัน”

“ครับ!”

“คุณก็รู้ดีว่าผมกำลังพบภาวะวิกฤติ”

“ครับผม”

บนเฮลิคอปเตอร์ เสียงนักบินตะโกน “ถึงที่หมาย โชคดีครับหัวหน้า” ชูนิ้วโป้งมือขวา  เขายิ้มยกนิ้วโป้งตอบ  ขยับกระชับหน้ากากกันลม สูดหายใจลึกเต็มปอดพุ่งตัวลงไปยังความเวิ้งว้างเบื้องล่าง
เสียงคุยผ่านโทรศัพท์ในแคมป์ไซต์

“คราวนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเอสเอสเอ  หากล้มเหลวอีก ผมจำเป็นต้องทบทวนโปรเจ็ค”

“ครับผม”

เหนือท้องฟ้า  มีร่างลอยละลิ่วลงมาอย่างรวดเร็ว  สายลมยะเยือกยามเช้าปะทะใบหน้าจนผิวเนื้อสั่นระริก  เสียงเฮลิคอปเตอร์ห่างออกไป

ภายในเต้นท์ เสียงจากต้นสายออกคำสั่ง “รายงานความคืบหน้า!”

“ได้ของมาแล้ว” เขาตอบทันที “แต่เป็นครึ่งเดียวเรากำลังรอนัดหมายครั้งใหม่  มันพยายามต่อรองราคา”
ขณะลอยลิ่วลง  เขากางแขนบังคับทิศทางตรงไปยังรถจี๊ป

“เท่าไหร่ไม่อั้น!” เสียงต้นทางแทรกขึ้นมาอย่างมีอารมณ์ “ ไม่มีเวลาแล้ว!”

“ครับผม!”

แวริโอมิเตอร์บอกระยะความสูงที่ต้องการเขากระตุกร่ม  สายร่มกระชากนิดหน่อยตอนจังหวะตัวร่มกางออกเต็มที่  รถจี๊ปแล่นไปทิศทางเดียวกัน  คนขับในชุดลายพรางเงยหน้าชูนิ้วโป้ง เขายิ้ม

“ผมสั่งป่าไม้ส่งคนไปให้คุณ มือดีที่สุด ชำนาญพื้นที่ป่าแถบนั้น   คงกำลังออนเดอะเวย์”

“ขอบคุณครับ”

เขาบังคับร่มร่อนลงเป็นเส้นตรงตามทิศทางลม  จิ๊ปเคลื่อนอยู่หน้าด้วยความเร็วพอ ๆ กัน  เขาปลดร่มทันทีที่เท้าสัมผัสเบาะข้างคนขับ

“สวัสดีครับหัวหน้า” คนขับตะเบ๊ะ

“สวัสดีพลทหาร อากาศกำลังดีนะ” เขาตบไหล่คนขับ “ยินดีได้พบกันอีก”

เสียงจากต้นสายสั่งย้ำ “ใช้ความชำนาญของเขาให้เกิดประโยชน์ที่สุด ทั้งต่อตัวคุณเอง ต่อผม และประเทศชาติ”

“ครับผม”

“อย่าลืม คุณมีเดธไลน์ เมื่อถึงเวลาทุกอย่างต้องเสร็จสมบูรณ์”

“ครับผม”

“แล้วติดต่อผมเป็นระยะ  ขอให้คุณโชคดี สวัสดี”

“ขอบคุณครับท่าน” 

เขาวางโทรศัพท์ผ่อนลมหายใจจากปาก..ตึงเครียดเข้าทุกที  สถานการณ์การเมืองของท่านนายกฯ พลอยทำให้เขาเข้าที่คับขับไปด้วย   ครั้งนี้เป็นความหวังสุดท้าย  เขาเชื่อมั่นมาตลอดเวลาเกือบ ๖ ปี ว่าเอสเอสเอจะเปลี่ยนโลกเข้าสู่ยุคใหม่  ใครจะไปคาดคิด  ท่านนายกฯ ต้องมาเจอวิกฤติเช่นนี้  เขาอุตส่าห์ทุ่มเทจนเกือบจะสำเร็จอยู่มะลอมมะล่อ  จะต้องสะดุดเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือนี่  ขุดอีกแค่ฟุตเดียวก็จะเจอทองอยู่แล้ว แต่นักขุดทองหมดแรงเสียก่อน  หรือตัวเขาจะต้องมาเป็นเสียเอง

เสียงจากนอกเต้นท์ดังขัดจังหวะ

“หัวหน้าคนใหม่ ขออนุญาตเข้ารายงานตัวครับท่าน”

“เชิญ!”

ชายหนุ่มก้าวเข้าในเต้นท์บัญชาการ  แดดเช้าสว่างจ้าทอดผ่านช่องประตูทำให้ร่างใหญ่กำยำในชุดคอมแบ็ตเป็นเงามืด  เห็นแต่ตัวอักษรพาร์คเรนเจอร์บนอกเสื้อและรอยยิ้มยิงฟันขาว  ก้าวพ้นช่องประตูเต้นท์เข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงาน  ผู้พันจึงพบว่าเขาอ่อนวัยกว่าที่คิด  คนที่ทำงานใน*สัตว์ป่าและพันธุ์พืชกว่าเลื่อนขั้นเป็นระดับหัวหน้ามักอายุเลยเลขสาม  คนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าโต๊ะทำงานเขาตอนนี้อย่างมากคงยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด เจ้านี่ต้องเป็นเด็กเส้นแน่ ๆ เขาคิด

“คุณถึงเร็วกว่าเอกสารแนะนำตัวเสียอีก นี่ล่ะนะประเทศนี้  ไปไม่ถึงไหนเสียที”

พอดีเสียงเครื่องแฟกซ์ร้องขึ้น  เขานั่งมองกระดาษเคลื่อนออกมา เอื้อมมือดึง แล้วอ่านคร่าว ๆ

“อ้อ..อ้อ..เอ๊ะ คุณประจำอยู่ที่ไหนนะ?”

“อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์-สิมิลันครับ”

“พวกเขาส่งชาวเลมาลุยป่าหรือนี่!”

“ครับ”

ผู้พันขมวดคิ้วอ่านข้อความ..รับราชการมา ๖ ปี ชอบทำงานคนเดียว..     “เป็นหัวหน้าคนได้อย่างไร ชอบทำงานคนเดียว” ผู้พันพึมพำ.

“คุณรู้เรื่องเอสเอสเอแค่ใหน?”

“ล้มเหลวสิบห้าครั้งภายในหกปี”

“อ้อ...รู้ละเอียดดีนี่” ผู้พันอ่านข้อความในเอกสารต่อ “เคยเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน นั่นน่ะที่ โคราช”

“ใช่ครับ”

“ท่านฯ ย้ำคนของป่าไม้ไปแล้วว่าเราต้องการคนที่ชำนาญพื้นที่ป่าแถบนี้”

“ก็ไม่เชิงครับ”

“คุณหมายความว่าอย่างไรก็ไม่เชิง?”

“ผมเข้าใจว่าท่านนายกฯ ระบุป่าชายแดนกัมพูชา”

“ฮ้า! ท่านนายกฯ จะให้ค้นหาเข้าไปในเขตเขมรรึ?”

“เกรงว่าเป็นเช่นนั้นครับ  คำสั่งระบุว่าหากเอสเอสเอค้นหาทั่วป่าในเขตไทยแล้วไม่พบจำเป็นต้องค้นหาเลยเข้าไปในเขตกัมพูชา” เขาพูดเสียงค่อย “โดยไม่ให้ฝ่ายโน้นรู้”

เสียงวิทยุติดต่อภายในร้องขึ้น  ผู้พันเอื้อมหยิบ

“ว่าไง?” นิ่งฟังต้นสายสักครู่  “โอนสายมา สแกนสัญญาณด้วย” เขาเอนหลังพิงพนัก “ผู้พันพูด” เขานิ่งฟังเสียงฝั่งโน้น

“โอเค”

“โอเค”

“โอเค”

“ได้!”  ผู้พันพยักหน้า ขยับตัวเหยียดหลัง “โรงแรมอังกอร์เป็นไงคนเยอะดี” เขาเงียบฟังฝั่งโน้น “ได้ ตกลงตามนี้” ผู้พันรีบกดปุ่มสลับสัญญาณ “ว่าไง? ได้ที่อยู่มั้ย? บ้าฉิบ!” เขากระแทกวิทยุติดต่อ  ฉุกคิดอะไรบางอย่างรีบคว้าวิทยุขึ้นพูดกรอกลงไป “เตรียมกำลังชุดใหญ่อาวุธครบ  ชุดเล็กปะปนเป็นพนักงานโรงแรมสถานที่นัดหมายล็อบบีเล้าจ์ โรงแรมอังกอร์ ทุ่มตรง”

เขาวางวิทยุลง ประสานมือ เท้าศอกลงบนโต๊ะ

“เดี๋ยวก็รู้” เขายิ้ม “คุณไปพักผ่อนก่อน  มาเจอผมที่นี่สามโมงเย็น  คืนนี้เราจะไปพักรีสอร์ทกันให้ฉ่ำอุรา  คุณไม่ต้องทำอะไร  คอยดูผมอย่างเดียว”

parks


หมายเหตุ :
โปรเจคเอสเอสเอ [Super Power Search Agent] [TOP SECRET]
จัดตั้ง : นายกรัฐมนตรี
เป้าหมาย : ค้นหาแหล่งพลังงานใหม่
ระยะเวลา : ไม่ระบุ
งบประมาณ : งบลับกระทรวงกลาโหม
ผู้ปฏิบัติงาน : ลับสุดยอด
(ข้อมูลจากแฟ้มลับสำนักนายกรัฐมนตรี)



ข้อมูลจากแฟ้มนักข่าวผู้ใช้นามแฝงคอห่าน


โปรเจคเอสเอสเอ [Super Power Search Agent]


เป็นโครงการที่ตั้งขึ้นโดยนายกรัฐมนตรี  เพื่อค้นหาแหล่งพลังงานทดแทน ไว้รองรับปัญหาขาดแคลนน้ำมันในอนาคตอันใกล้  เพื่อตัดขั้นตอนทางราชการที่ซับซ้อน เชื่องช้า (และผลประโยชน์ในอนาคต)  องค์กรจึงถูกตั้งขึ้นโดยไม่ผ่านรัฐสภา ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง รับคำสั่งตรงจากนายกรัฐมนตรี  เบิกใช้งบประมาณผ่านงบลับทางการทหาร  เพราะฉะนั้น ผู้ปฏิบัติการ, เอกสาร, การติดต่อ, ฯลฯ ทุกอย่างจึงเป็นความลับระดับ ‘สุดยอด’ เพื่อป้องกันฝ่ายค้านได้ข้อมูลไปโจมตี (ในกรณีแผนงานล้มเหลว)


แต่หากสำเร็จ เป็นที่แน่นอนว่ารัฐบาล จะได้รับความนิยมจากประชาชน ครองเสียงข้างมากในสภาต่อไปและอาจถึงขยายอำนาจทางการเงินออกไปทั่งโลก อันเป็นความฝันยิ่งใหญ่ของนายกรัฐมนตรี  เม็ดเงินมหาศาลจึงถูกใช้ไปไม่อั้นสำหรับโครงการนี้--ผู้เขียน


*กรมสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม



2

อีกฟากของป่า  ชายหนุ่มในชุดลายพรางวางโทรศัพท์ลงบนอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียมรุ่นล่าติดตั้งระบบป้องกันดักจับสัญญาณ  เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“เตรียมตัว คืนนี้สองทุ่มตรง”

parks



3

โรงแรมอังกอร์จังเกิลรีสอร์ทแอนด์สปาเป็นรีสอร์ทห้าดาวแห่งเดียวที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าแถบนี้  สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมขอมโบราณบนเนื้อที่กว่า ๑๐๐ ไร่  ประกอบด้วยปรางค์ปราสาทหินใหญ่น้อยเชื่อมต่อกันด้วยซุ้มระเบียงล้อมปรางค์ประธานสูงใหญ่ซึ่งใช้เป็นส่วนต้อนรับ  เสียงเครื่องสายบรรเลงแผ่วเบา  แสงไฟประดับยามค่ำคืนยิ่งเพิ่มบรรยากาศขลึมขลังเหมือนอยู่ในดินแดนแห่งเทพ

เพื่อป้องกันการรบกวนจากคนภายนอก รีสอร์ทดำเนินธุรกิจผ่านเมมเบอร์ชิพราคาแพง  รับเฉพาะมหาเศรษฐีที่ต้องการความเป็นส่วนตัว  ไม่มีการขายห้องพักผ่านเอเย่นต์หรือเว็บไซต์  อัตราส่วนการบริการต่อผู้เข้าพักอยู่ที่ ๑๐ ต่อ ๑ หมายถึงบริกร ๑๐ คน จะดูแลผู้เข้าพัก ๑ คนโดยไม่แสดงตัวให้พบเห็นหากไม่เรียกหา  บริการทุกอย่างถูกจัดไว้ล่วงหน้าเป็นกิจวัตร

ผู้เข้าพักทุกคนได้รับบริการประดุจองค์เทพ  มีเหล่าพนักงานในชุดนางอัปสรคอยดูแลเอาใจใส่  ทั่วบริเวณมีเสียงดนตรีโบราณแว่วอยู่ตลอดเวลา  ประดุจกลับไปอยู่ในวันเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ของชนเผ่าขอมโบราณ

กิจกรรมกลางแจ้งและไนท์ซาฟารีทำให้นักท่องเทียวไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่าย  สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับไฮเอ็นท์อย่างรวดเร็ว  ตลอด ๓ ปีที่เปิดดำเนินการ  รีสอร์ตแห่งนี้ถูกจัดไว้ในเวิร์ดท็อปเท็นรีสอร์ตที่น่าพักที่สุดในโลกติดต่อกันทุกปี

เป็นที่รู้กันในวงการโรงแรมว่าลงทุนสร้างโดยนักธุรกิจโรงแรมตระกูลใหญ่  แล้วว่าจ้างทีมงานไฮแอ็ทบริหาร  แต่ความเป็นจริงเงินทุนสนับสนุนหลักมาจากเอสเอสเอเพื่อใช้รีสอร์ตแห่งนี้เป็นฐานปฏิบัติการ  อำพรางการติดตามของสื่อและฝ่ายค้าน   ท่านนายกฯ แวะพักที่นี่ทุกครั้งที่จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรหรือแวะดูงานในพื้นที่ เพื่อติดตามการทำงานของเอสเอสเออย่างใกล้ชิด  ท่านมักเอ่ยกับผู้พัน “ผมเป็นนักลงทุน ผมจึงต้องติดตามว่าเงินทุนของผมเดินทางไปถึงไหนแล้ว”

รถจิ๊ปซาฮาราสีแดงสะท้อนแสงไฟเป็นมันวาวเลี้ยวเข้าจอดบริเวณหน้าล็อบบี  ชายในชุดลำลองสวมทับด้วยแจ็คเก็ตเนื้อดีสีเข้มสามคนก้าวออกมา เดินตรงไปยังล็อบบีเลาจ์ 

คนเดินนำร่างเตี้ยลงพุงนิดหน่อย ผมบาง  ข้าง ๆ เป็นชายหนุ่ม สูงใหญ่ ผมสั้นสกินเฮด คิ้วเข้ม แววตาขี้เล่น  คนเดินตามหลังหิ้วกระเป๋าเอกสารใบเขื่อง  ทั้งหมดนั่งลงที่ล็อบบี้เลาจ์สั่งเครื่องดื่มกับพนักงานนางอัปสรสวยบาดใจ

“ของผมเหมือนเดิม” ผู้พันบอก  หันไปถามชายหนุ่มที่นั่งยิงฟันขาวส่งยิ้มให้พนักงานอัปสร  “ของคุณอะไรดี?”

“ผมขอแจ็คออนเดอร์ร็อก ขอบคุณครับ” เขาขยิบตาให้นางอัปสร  เธอยิ้มแล้วเดินจากไป

“คราวที่แล้ว ผมต้องตามหาคนรู้ภาษาขอมโบราณมาแปลให้ ถึงได้รู้ว่ามันให้มาครึ่งเดียว  คราวนี้มันเรียกซะ ๕๐ ล้าน  แสบจริง ๆ คนป่าบ้าอะไร มีบัญชีสวิสฯ” ผู้พันพูดขณะส่ายสายตามองไปรอบๆ ล็อบบี

“เขาคงอยากให้ผู้พันนำของชิ้นแรกไปวิเคราะห์  เมื่อรู้ว่าเป็นของแท้แน่แล้วจึงค่อยตกลงราคาจริง”

“คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเรอะ?”

“ครับ ผมเช็ครายละเอียดก่อนเริ่มงานเสมอ”

“มีอะไรบ้างที่คุณไม่รู้?”

“นั่นล่ะครับ ที่ผมไม่รู้”

ผู้พันหลิ่วตามองผู้ช่วยคนใหม่ที่ส่งตรงมาจากป่าไม้ตามคำสั่งท่านนายกฯ  ชายหนุ่มยิ้มฟันขาว ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้น

“เชียร์ส ครับท่าน”

เวลานัดหมายผ่านไปแล้ว  ผู้พันเริ่มหงุดหงิด “มันจะเอาไงของมันวะเนี่ย”

พนักงานอัปสรนำถาดเงินโบราณสะท้อนเงาวาววางบนโต๊ะ “มีคนฝากข้อความถึงท่านค่ะ”

ผู้พันหยิบแผ่นกระดาษใบเล็กขึ้นมาอ่าน ‘สั่งลูกน้องของคุณข้างนอก ออกไปให้พ้นรัศมีหนึ่งกิโลเมตร’

“ซวยล่ะสิ  มันพบพวกข้างนอกเข้าแล้ว” ผู้พันบ่นแล้วกดสัญญาณวิทยุ

“ถอยออกจากที่ตั้งให้หมด....ไม่ต้องถาม!” เขาพูดน้ำเสียงตะคอกแต่พยายามทำสีหน้าเป็นปกติ

พนักงานสาวคนเดิมนำถาดมาวางอีกครั้ง 

ผู้พันอ่านข้อความแล้วถอดอุปกรณ์วิทยุสื่อสารวางบนถาดพร้อมธนบัตรใบละพัน  พนักงานสาวไหว้ขอบคุณอย่างอ่อนช้อยสวยงาม หันมายิ้มให้ชายหนุ่ม เขายิ้มตอบ  พนักงานนางอัปสรหยิบถาดเดินจากไป

“มันเห็นเราแต่เราไม่เห็นมัน  ยังสั่งให้ผมทิปพนักงานพันหนึ่ง ไอ้บ้าเอ้ย!” ผู้พันหงุดหงิด..

“ดีมาก ไม่ต้องหันมา”

เสียงดังมาจากโต๊ะด้านหลัง  เป็นโต๊ะที่มีชาวอิตาเลียนนั่งอยู่ ๒-๓ คน  แต่ตอนนี้อิตาเลียนคนหนึ่งซึ่งนั่งหันหลังชนกับผู้พันกำลังพูดภาษาไทยชัดแจ๋ว

“หากคุณตุกติก สิ่งที่คุณต้องการจะหายไปตลอดกาล....เรามาเริ่มกันเลย”

ด้านนอก ชายสามคนแฝงตัวเข้ามาในรถตู้ส่งของ  ทั้งสามสวมหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า  เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลบกล้องบันทึกภาพของรีสอร์ท

“ของอยู่ไหน?” ผู้พันถาม

“ไม่ต้องรีบร้อนผู้พัน  ทำตามที่ผมบอก ให้คนของคุณทำรายการโอนเงินก่อน  เมื่อตัวเลขครบจำนวนโชว์ขึ้น  ผมจะส่งของให้คุณตรวจสอบ  เมื่อคุณพอใจก็สั่งลูกน้องกดเอ็นเตอร์”

“ได้”

“เดี๋ยว...มันไม่ง่ายอย่างนั้น  ผมติดระเบิดไว้กับของที่จะส่งมอบ  หากคุณตุกติก  คุณจะไม่เห็นมันอีกเลย เข้าใจใช่มั้ย?”

“ได้”

ผู้พันพยักหน้าให้ชายคนที่ถือกระเป๋าเอกสารใบใหญ่  เขาเปิดมันขึ้น  ภายในเป็นคอมพิวเตอร์แลปท็อปกับอุปกรณ์สื่อสารไฮ-เทค  เขาเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบธนาคารสวิสฯ  ขณะป้อนระหัสผ่านนิ้วเขาสั่นนิดหน่อย  เสียงเพลงบรรเลงในล็อบบีพอช่วยปลอบประโลมให้ใจเขาหลุดจากสถานการณ์หมิ่นเหม่เช่นนี้ได้บ้าง สัก ๒-๓ วินาทีก็ยังดี

สักครู่หน้าจอแสดงผล เข้าสู่บัญชีของเอสเอสเอ  เขาทำรายการโอนเงิน ตัวเลข 5 กับเลข 0 อีกเจ็ดตัวกะพริบ  อีกฝ่ายกำลังนั่งดูคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊คความเร็วสูงของตนเหมือนกำลังง่วนอยู่กับงาน  มีตัวเลขห้าสิบล้านโชว์ขึ้นในบัญชี

ด้านนอก  ชายในชุดดำทั้งสามหลบอยู่ในเงามืดกระชับอาวุธ

“ดี ต่อไปก็หยิบคีย์การ์ดบนโต๊ะเดินไปที่รีเซฟชั่น  บอกมาเอาของที่ฝาก  ระลึกไว้เสมอว่าผมเตือนคุณแล้ว”

ผู้พันเหลือบมองผู้ช่วยคนใหม่เชิงขอความคิดเห็น  เขาส่งยิ้ม

ผู้พันลุกขึ้น เอื้อมหยิบคีย์การ์ดจากโต๊ะด้านหลังแล้วเดินไปทางเคาน์เตอร์รีเซฟชั่น  ส่งคีย์การ์ดให้พนักงาน  สักครู่พนักงานกลับมาพร้อมกล่องใบเล็ก

ผู้พันเปิดออกหยิบผ้าชิ้นเล็ก ๆ มีกระดุมติดอยู่เม็ดหนึ่ง  พิจารณาครู่ใหญ่แล้วหันมาพยักหน้า
ไม่ทันระวังตัว ใบหน้าผู้พันกระทบของแข็งบางอย่าง ร่างเซถลา

เสียงปืนรัวลั่น  

ปัง! ปัง! ปัง!  

ทุกคนรีบหมอบลงกับพื้น

กระสุนปืนสาดไปทั่วล็อบบีเลาจ์  ข้าวของกระจุยกระจาย  อุปกรณ์สื่อสารกระเด็นตกจากโต๊ะ
คนในชุดดำคว้าผ้าไปจากมือผู้พันแล้วเตะซ้ำเข้าชายโครงอวบอ้วน  ผู้พันจุกหน้าเขียวปัดร้องไม่ออก  ชายชุดดำวิ่งออกด้านนอก  อีกสองคนยังสาดกระสุนเพื่อถ่วงเวลา

ปัง! ปัง! ปัง!

เอี๋ยด! 

รถตู้ส่งของเบรกหน้าล็อบบีเสียงดังลั่น  พวกชุดดำกระโจนขึ้นแล้วรถก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
กลุ่มชาวอิตาเลียนกระชากวิกผม ร้อง “ตาม!” ทั้งหมดชักบืนพกวิ่งตามออกไป

ผู้พันนอนตัวงอ  “ทำอะไรสักอย่างสิหัวหน้า!”

“ท่านสั่งให้ผมนั่งดูเฉย ๆ”

“ปัดโธ่!” ผู้พันรัวหมัดทุบพื้น “โอเค ๆ ผมยกเลิกคำสั่ง!” เขาพยามยามตะเบ็งสุดเสียง

หัวหน้าหนุ่มก้มถามคนที่คุกเข่ามุดอยู่ใต้โต๊ะ “โอนหรือยัง?” เขาส่ายหน้า  ชายหนุ่มร้อง “ดี” ขยี้ศีรษะนายคนนั้น ยกแจ็คแดเนียลออนเดอะร็อคขึ้นดื่มหมดแก้วแล้ววิ่งออกไป  ผู้พันพยายามเค้นเสียงจากกระบังลม

“ไอ้..ไอ้..ไอ้บ้าเอ้ย!”

parks 

ดาวน์โหลด