สหายที่เคารพรัก

ยามนี้(คิดว่า)สรุปได้แล้วว่าข้าพเจ้ามีอาการ 'ผังผืดที่มือ' ทำให้เกิดความผิดปกติของเส้นเอ็นและปลายประสาทนิ้วและมือ (ขอบคุณที่ช่วยสอบถามเพื่อนฝูงให้ขอรับท่านคั่น..สำหรับ 'ครา' และ 'เวลา' นั่นเป็นจุดข้าพเจ้าลังเลตอนเขียน คำทักท้วงเช่นนี้มีคุณนัก..ขอบคุณ..ขอบคุณ)

หลังเสิร์ชอ่านใน Google ทำให้รู้จักอาการที่ว่ามากขึ้น ก่อนหน้าเคยปะญาติผ่าตัดเพราะอาการนี้มาแล้วแต่ไม่สะดุดใจสอบถามรายละเอียดก็ด้วยไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น (เข้าข่ายประมาท)

พบว่ามีอาการหนึ่งตรงกับข้าพเจ้า

หลายเดือนมาแล้วสะดุ้งตื่นตอนดึก ขยับแขนซ้ายไม่ได้ไม่มีความรู้สึกตอบสนองสูญการควบคุมเหมือนไม่ใช่แขนตัวเอง ต้องใช้มือขวามายกขึ้น หากท่านใช้มือข้างหนึ่งจับแขนอีกข้างหนึ่งจะมีความรู้สึกพร้อมกันสองชนิด 'สัมผัส' และ 'ถูกสัมผัส' แต่มือขวาข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนจับแขนคนตาย!

หากเป็นอาการเหน็บชาอันเกิดจากถูกนอนทับ อย่างน้อยยังสามารถขยับ ไม่ก็รู้สึกตึง ๆ อาจเจ็บเหมือนเข็มแทงตอนเลือดกลับมาไหลเวียนแต่ครั้งนี้ไม่เป็นเช่นนั้น

รอสักพักแขนก็กลับมาเคลื่อนไหวได้ดังเดิม ตอนนั้นข้าพเจ้าได้แต่สงสัยใจ แค่นอนแขนพับงอซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแผกสามัญใดทำไมถึงทำเอาเลือดหยุดเดินได้ขนาดนั้น

มาทราบเมื่ออ่านพบว่านั่นคืออาการเกิด 'ผังผืด' หุ้มเส้นเอ็นเส้นประสาทขัดขวางการทำงานตามปกติ คนที่เป็นมากจะมีอาการตลอดเวลา

ข้าพเจ้าคงเป็นอาการเริ่มต้น (ซินแสดิลล์เดาเอง)

หลังได้โน้ตบุ๊คคืนมา ข้าพเจ้าตะลุยพิมพ์งานที่เขียนลายมือไว้และแล้วอาการดังกล่าวก็กลับมาเป็นเหมือนเก่า

ข้าพเจ้าจำหยุดใช้คอมพ์ชั่วคราวเพื่อป้องกันไม่ให้อาการผิดปกติเป็นมากขึ้น วันที่ ๕-๖ เดือนหน้าเพื่อนขึ้นกทม.ข้าพเจ้าจะฝากเพื่อนไปเทิร์น ข้าพเจ้าลองใช้ Aser ของเพื่อนแล้วไม่มีอาการ เพื่อนจะหาซื้อเครื่องใหม่ หากเขาได้เครื่องใหม่ข้าพเจ้าก็จะใช้เครื่องเก่าของเขา คิดว่าประมาณวันที่ ๑๐ เดือนหน้าหากการณ์เป็นไปดังหมาย ข้าพเจ้าคงได้กลับมาทักทายเหล่าท่านดังเดิม

แต่หากไม่เป็นตามนั้นก็จะหาทางออกต่อไป

ข้อสำคัญยามนี้ต้องดูแลร่างกายมิให้อาการลุกลามสาหัสขั้นผ่าตัด จึงจำลาทุกท่านชั่วคราว

ขอบคุณเมล์จากย่าหนุง ขอบคุณทุกคำทักทายของเหล่าสหายที่สำนัก ยังติดค้างพิเคราะห์เรื่องสั้นพี่ท่านประทีปะท่านเพลง(ผู้น้อยคงต้องผลัดไว้ก่อนแล้ว) ข้าพเจ้าขอโทษที่ไม่ได้ตอบเพราะยามนี้ทุกครั้งที่จิ้มคีย์ปวดปลายนิ้วมากจึงขอแจ้งรวมไว้เสียทีเดียว

แล้วเจอกันกลางเดือนหน้าขอรับทุกท่าน

คารวะ

นั่นเป็นข้อความเขียนหลังโพสท์เรื่องสั้น 'มืออาชีพ' หลังจากข้าพเจ้าฝืนพิมพ์ 'มืออาชีพ' อาการปวดเส้นประสาทมือก็เป็นหนัก ทั้งยังมีอาการเพิ่มคือคันตามผิวหนังและเริ่มมีผื่นแดงเป็นวงรี (ที่ประหลาดคือเกิดอาการเฉพาะตอนสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกคอมพ์,มือถือ,กล้องดิจิตอล, หนักเบาแตกต่างกัน ไป ๆ มา ๆ สงสัยชีวิตข้าพเจ้าคงต้องอันปลั๊กไม่มีเหลือเสียเป็นแท้(นะพี่ทั่นขุลล์นะ) สักวันหากถึงกับต้องหุงข้าวด้วยเตาคงซวยสมใจล่ะทีนี้!)

ข้าพเจ้าพิมพ์จดหมายร่ำลาไม่ตลอดรอดฝั่ง ปวดจนฝืนไม่ไหวจึงจำหายหน้าไม่ได้บอกกล่าว(อีกครั้ง)หยุดใช้โน้ตบุ๊คสิ้นเชิง พยายามดูแลปลายนิ้วมือ(ที่ดูเหมือนเป็นหนักขึ้น)โดยแช่น้ำอุ่นและบีบนวด

โลกการเขียนของข้าพเจ้าผูกติดกับโลกใยแก้วเป็นอันเดียว ก็ด้วยชีวิตในกะลานี้หามีแหล่งอ่านอื่นใดนอกไปจากต่อเข้าเน็ต แทบทุกตัวอักษรที่เขียนออกมาหาได้ผุดขึ้นลอย ๆ หากแต่เป็นแรงสะท้อนจากงานเขียนของเหล่าสหาย เมื่อขาดการอ่านเสียแล้วโลกเขียนของข้าพเจ้าจึงยิ่งวังเวงไม่ต่างเสียงของโพรงหอย(ทะเลเดี๋ยวนี้ไม่มีเปลือกหอยใหญ่ ๆ ให้หยิบมาแนบหูอีกแล้ว..น่าวังเวงนะ)

โลกกะลาข้าพเจ้ามีแต่เสียงนกเสียงกาค่ำลงก็เสียงจิ้งหรีด ได้มีเหล่าท่านเป็นคล้ายเพื่อนบ้านแย้มหน้าต่างส่งยิ้ม แกงส้มแกงคั่วทีก็ส่งข้ามชายรั้วกระถินรั้วตำลึงหากัน

ยามขาดโลกใยแก้ว

ข้าพเจ้าผ่านวันเวลาไม่น่าภิรมณ์นัก ยังมีความหวังที่จะกลับมาอยู่ในโลกใบเดิม ด้วยเชื่อว่ากับโน้ตบุ๊คตัวอื่นอาจไม่มีอาการดังกล่าว

ความหวังที่ว่าเป็นอันพังพับ

ข้าพเจ้ายืมโน้ตบุ๊คของน้องสาวมาลองใช้ด้วยเห็นว่าเป็น Aser แต่แล้วอาการก็เหมือนเดิม ซ้ำยังสำแดงอาการแตกต่างออกไป (ตอนนี้เริ่มมีเส้นแดงขึ้นบนหลังมือขวาและปวดแสบปวดร้อน) ความรุนแรงน้อยกว่าที่เกิดแต่เจ้าไมเคิลสหายเลิฟ ข้าพเจ้าจึงฝืนพิมพ์มาจนบัดนี้

อย่างน้อยได้โผล่มาล่ำลาเหล่าท่านที่เคารพรักก็ยังดี

ยังเหลืออีกหนึ่งความหวังเครื่องของเพื่อนซึ่งข้าพเจ้าลองแล้วไม่มีผลกับร่างกาย ต้นเดือนหน้าหากเพื่อนเทิร์นเครื่องใหม่ข้าพเจ้าจะใช้เครื่องของเขาต่อระหว่างนี้จะพยายามดูแลร่างกายให้กลับคืนสู่ภาวะปกติเท่าที่จะทำได้

บนถนนสายหัดเขียนข้าพเจ้าเดินทางมาไกล ไกลจนทราบแล้วว่าอุปสรรคสำคัญหาใช่อื่นใดเลย หากแต่เป็นพลังของความคิดสร้างสรรค์ พลังที่สามารถรังสรรค์เรื่องราวในโลกจินตนาการให้เป็นรูปเป็นร่าง ทักษะการเขียนสามารถเรียนรู้ฝึกฝนกันได้ ไร้มือยังสามารถใช้เท้าเขียน ประสาอะไรกับอุปสรรคเพียงนี้

ข้าพเจ้ายังคงฝึกเขียนด้วยลายมือต่อไป ยังคงเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเหล่าท่าน

ใช้คอมพ์ได้ดังเดิมวันใดจะกลับมาขอรับ

คิดถึงเหล่าท่านเสมอ

ธุลีดิน

4 ความคิดเห็น:

  1. อรุณสวัสดิ์ครับ

    ไม่ได้แวะเข้ามาทักทายกันเสียนาน
    เนื่องด้วยช่วงนี้ผมต้องเดินทางขึ้นเหนือลงใต้อยู่ตลอดเวลา
    พอเข้ามาท่านพี่ก็เกิดไม่สบายเสียอีก

    หง่ะ...ทำไมเป็นงี้ล่ะ

    ดูแลสุขภาพและหายไวไวนะครับ

    ตอบลบ
  2. ขึ้นเหนือคงหนาวดี
    แต่หากลงใต้ระวังฝนนะทั่น ตกทั้งวันคืนไม่เป็นอันทำงานทำการกันล่ะ(อยากนอนลูกเดียว)

    ตอบลบ
  3. เรื่องงานที่ผมสัญญากับท่านพี่ไว้ว่าจะโพสต์
    เพิ่งมีโอกาสวันนี้เองครับ...
    ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงครับ...ที่ผิดสัญญา - -"

    ตอบลบ
  4. ... เพราะในที่สุด ไม่ว่าจะตีกันหัวล้างข้างแตกสักแค่ไหน คนไทยก็กลับมาอยู่กันได้หลังจากนั้น(ไม่นาน) และเมื่อเราเดินผ่านช่วงเวลาแห่งความสุขกันจนเอียน เราก็กลับมาตีหัวกันอีกที … ทฤษฎีนี้ แม้ไม่น่าพิสมัย แต่เราก็อยู่กันมาได้นานนับร้อยปี มิใช่หรือ ?

    นี่ ผมไม่ได้พูดเป็นกระพงลอยน้ำหนาพี่ทั่น ก่อนจะมีคำว่า "ไทย" เผ่าพันธุ์ของเราเป็นใคร พ่อจากไหน แม่จากไหน นับโคตรเง่าศักราชกันแล้ว ก็พี่ลาว น้องเขมร น้าพม่า ป้ามาลายู ??

    พี่ป้าน้าอาเรานี่แหละ ตีหัวกันไปมาจนเพลียจึงหยุดพัก นอนจนเหนื่อยนัก ก็ลุกขึ้นมาตีหัวกันอีกที(สองที) ...

    ปายแระ --- แว่บ !

    : )

    ตอบลบ