1
กลุ่มคนร่างเล็กมีอาวุธครบมือ กรูกันขึ้นเรือ ทุกคนตื่นตัวเคลื่อนไหวว่องไว มือหนึ่งถืออาวุธอีกมือยื่นจ่อผู้โดยสารทีละคน ส่งภาษาเร็วปรื๋อ ดูเหมือนรับการฝึกวินัยเป็นอย่างดี ทั้งหมดเคลื่อนไหวพรึบพรับรวดเร็ว สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันอย่างรู้หน้าที่
พวกฝรั่งนั่งมองตาค้าง ข้าพเจ้าไม่กล้าสบตา..
2
เสียงฟองคลื่นสนทนาอยู่กับลำเรือดังซ่า ๆ ตลอดเวลา หลายครั้งมีแรงลมช่วยผสมบทเจรจาซัดละอองสนทนาเข้ามาประพรมจนต้องเอาเสื้อผูกโยงเสาเก๋งกันกระเซ็นน้ำ
สายลมยะเยือกยิ่งพัดหนักด้วยได้แรงเรือ หนาวเย็นกระทั่งฝรั่งเมืองหนาวแท้ยังต้องรื้อแจ๊คเก็ต เสื้อยืดแขนยาวออกมาสวม
พวกที่นั่งส่วนหน้าเป็นกลุ่มถึงทีหลัง เมื่อไม่อาจอัดเข้าไปข้างในได้อีก เลยนั่งเสียบนพื้นซึ่งเป็นทางขึ้นลงนั่นเอง กลายเป็นกลุ่มที่นั่งอย่างสุขสบายสุด ใครใคร่เหยียดขา ใคร่นอนล้วนเอกเขนกกันตามสบายกาย
ฝรั่งกลุ่มนี้ไม่ใช่กรุ๊ฟทัวร์ ต่างคนต่างเดินทาง แต่คงเพราะร่วมเส้นทางกันมาระยะหนึ่งจึงรู้จักมักคุ้นเป็นอันดี
คุณยายเรอเน่ดูอ่อนล้า ผมฟู แต่ยังยิ้มแย้มนั่งพิงข้างเก๋งได้ที่แล้วล้วงของกินออกมาแจกเพื่อนร่วมทาง ดูเหมือนกระเป๋าผ้าใบย่อมของแกจะไม่หมดเสบียงเอาง่าย คุณตามาตามให้ไปนั่งที่เก้าอี้ (ดูจากสกรีนหลังบนเสื้อยืดของคุณตาแล้ว ฝรั่งกลุ่มนี้มาจากปาย) เสียงชักชวนสุภาพเนิบช้านั่งชิดเก็บขา งอนง้อเท่าไรคุณยายก็ไม่ยอมไป คุณตาเทียวมาเทียวไปอยู่สองสามรอบ ดูท่าคุณยายไม่ยอมละทำเลอันสบายกายนี่แล้วเป็นแน่ คุณตาสุภาพบุรุษจึงยอมยกธง
ที่นั่งตรงข้ามกับข้าพเจ้าเป็นสองสาวจากเช็คโกสโลวาเกีย หน้าตาคมขำทั้งคู่ คนหนึ่งนิ่งเฉย อีกคนพกกล้องติดซูม 75-200 มม. ยาวเฟื้อย ย่างมานี่ที ย่องไปโน่นทีถ่ายรูปตลอดเวลา 
นายสองหนุ่มโครแอทสกินเฮดทั้งคู่นั่งเหยียดยาวอยู่ข้าง ๆ ข้าพเจ้า คนหนึ่งตัวเล็ก อีกคนอ้วนใหญ่ นายอ้วนใหญ่ช่างเจรจา คุยไปทั่ว ฟังว่าก๊วนมีกันสามคน อีกคนอยู่บนหลังคา
(ขอ-บอกว่ามีฝรั่งขึ้นไปซดเบียร์บนหลังคา กลัวเมาตกน้ำ แต่เรียกเท่าไรไม่ยอมลง คงเป็นสหายเจ้าสองโครแอทนี่เอง) นายอ้วนใหญ่บอกว่าทั้งสามมีแผนจะเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ให้ทั่วลาว
ฟังแล้วคิดถึง 'มอเตอร์ไซค์เคิลไดอารี่' ของเช หากมีโอกาสเดินทางอย่างนั้นและมีบันทึกสักชุดคงสมใจ
เรือล่องลำน้ำเลาะเกาะแก่งมาร่วมสองชั่วโมงแล้ว
ทิวทัศน์สองฝั่งเป็นเนินเขาผืนป่าสลับไร่ข้าวโพด มีแก่งหิน โขดหินหลากรูปทรงประดับประดาเป็นช่วง ๆ บางครั้งตั้งกลางน้ำ บางคราโผล่อยู่บนสองฟากฝั่ง มีคันไม้ไผ่โยงสายเบ็ดปักซอกแก่งหินตรงโน้นตรงนี้อยู่ทั่ว บอกให้รู้ว่าตลอดเส้นทาง ทั้งที่ดูเป็นป่าเขาแต่หาได้ร้างผู้คนอาศัย ยังมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ทั้งสองฝั่งชอุ่มชุ่มน้ำนี้
แดดบ่ายทอสายสะท้อนเงาน้ำระริก ลำน้ำเรื่อยไหล บางช่วงม้วนเป็นเกลียวดูน่ากลัวเหมือนจะดูดสรรพสิ่งแฝงลอยลงใต้น้ำ..ข้าพเจ้าเพลินคิดไปตามประสาอ่อนรู้ หรือว่าวังน้ำวนเหล่านี้จะเป็นที่มาของความเชื่อเรื่องเมืองบาดาลใต้ลำโขง..
วัยเยาว์ข้าพเจ้าเคยเชื่อเป็นตุเป็นตะครั้งอ่านเรื่องประวัติอาจารย์มั่น ภูริทัตโตที่เคยธุดงค์สู่เมืองบาดาลใต้ลำโขง ครั้นสูงวัยจึงได้เข้าใจว่าเป็นตำนาน ความเชื่อที่เคยเห็นเป็นเรื่องจริงมุ่งมั่นใคร่รู้เรื่องพญานาค อยากพบตัวจริงสักครั้งค่อย ๆ จางหาย กระทั่งปัจจุบันความเชื่อเหล่านั้นกลับมาเป็นจริงอีกครั้ง กลับมาเฉิดฉายอยู่ในโลกจินตนาการ มองเห็นความงามของการดำรงคงอยู่แห่งโลกวิจิตรที่หลากหลาย เพราะความเชื่อเหล่านี้เองก่อให้เกิดประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นขึ้นมากมาย 
คงคล้ายโกอานเรื่องมองภูเขาของเซน..
กำลังครุ่นอยู่เพลินคิด..เสียงฟองคลื่นสนทนากับลำเรือพลันเงียบหาย จอยหมุนพังงาเคลื่อนเรือชิดชายฝั่งทางซ้าย ยังไม่ทันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ขบวนการนินจาก็กรูขึ้นเรือเหมือนโจรก่อการร้ายยึดเครื่องบิน
3 กลุ่มคนร่างเล็ก มีอาวุธครบมือ ทุกคนตื่นตัวเคลื่อนไหวว่องไว มือหนึ่งถืออาวุธอีกมือยื่นจ่อผู้โดยสารทีละคน ส่งภาษาเร็วปรื๋อ ดูเหมือนรับการฝึกวินัยเป็นอย่างดี ทั้งหมดเคลื่อนไหวพรึบพรับรวดเร็ว คนหน้าจ่อยิงไม่ได้ผล เร่งขยับปล่อยให้คนหลังเข้าประจำตำแหน่งอย่างรวดเร็ว กระชั้นชิดไม่มีผิดกระบวน
พวกฝรั่งนั่งมองตาค้าง
ข้าพเจ้าไม่กล้าสบตากลัวถูกจ่อยิง  เหลือบมองอาวุธในมือพวกเขา มีหลากหลายชนิดดูแล้วคุ้นหน้าตา สงสัยว่าจะเมดอินไทยแลนด์แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกูลิโกะ ฮานามิ เลย์ เว้นปริงเกิ้ลแต่ก็ยังผ่านจัดจำหน่ายจากไทยอยู่ดี (ประเทศส่งออกอาวุธสงครามโดยแท้) ประดาอาวุธอัดแน่นอยู่ในตะกร้าขนาดย่อมที่ทุกคนกระชับแนบลำตัว ใช้มือที่เหลือจ่ออาวุธหาเป้าหมาย ส่งภาษาอย่างรวดเร็ว! ไม่ว่าจะเป็นรับเงิน ทอนเงิน ล้วนแคล่วคล่องว่องไว 
ชั่วอึดใจก็ถอนกำลัง ไม่รู้ว่าแค่อึดใจจะขายกันได้สักเท่าไร แผล็บเดียวแผลวขึ้นเรือลำข้าง ยังมิวายหันมาจ่ออาวุธยิงข้อเสนอ
คราวนี้ลดครึ่งราคา!
สาวเช็คฯนักเก็บภาพรีบคว้าถุงสับปะรดในราคา 20 บาท
เรือเลื่อนลำออก ข้าพเจ้าส่งนิ้วโป้งให้ "พวกนายแน่มาก"
กองกำลังนินจาไม่ฟังความจ่ออาวุธเสนอราคาทันที
ข้าพเจ้าเริ่มเข้าใจ..บางครั้งคำชมหรือนิ้วโป้งเป็นเรื่องเหลวไหล ที่พวกเขาต้องการคือ 'ขายของ' ไม่ใช่นิ้วโป้ง!
ที่สำคัญคือทุกคนมีแววตานักล่า ไม่มีใครส่งสายตาอ้อนวอนขอความเห็นใจ หรือแสดงความยากไร้..
4 เรือเคลื่อนลำเลียบฝั่ง ขบวนการนินจาเร่งฝีเท้าเรียงหนึ่งขึ้นเนินไปตามทาง บนเนินนั่นดูน่าจะเป็นโรงเรียนของพวกเขา
ข้าพเจ้ามองตามขบวนที่ลัดเลาะไปบนเนิน..'หากพวกนายปฎิบัติหน้าที่รับผิดชอบด้วยความกระตือรือล้น มีวินัย และไม่ทิ้งแววตานักล่าเยี่ยงนี้ อนาคตประเทศลาวคงไม่ธรรมดาแน่'