ลมวิกาลกรรโชก
เสียงหวีดหวิวกรูเกรียวราวภูตคร่ำวิญญาณครวญ
ใบไม้แห้งปลิวคว้างไร้ทิศทางคล้ายแมลงราตรีลอยว่อนตามแรงลม
แสงเล็ดลอดจากกระท่อมน้อยดูไปดุจปีศาจรัตติกาลวูบไหวอยู่ในเงามืด


ภายในกระท่อมอบอุ่น กลางกระท่อมมีไฟกองน้อย เหนือเปลวไฟแขวนไว้ด้วยหม้อต้มซุปมีไอลอยอ้อยอิ่ง ชายชราหยิบทัพพีคนน้ำซุปอย่างเชื่องช้า อุ่นไออ้อยสร้อยอ้อมอุ้งมือเหี่ยวย่นปรนไออุ่นกรุ่นอวล

พลันบานประตูถูกผลัก ใบไม้แห้งพรูพร้อมแรงลม ควันกรุ่นวูบหายคล้ายหลบหนีกระแสลมภายนอก ชายชราเบือนตามอง 

อาคันตุกะผ่านทางผมเผ้ารุงรัง มีผ้าป่านคล้ำผืนใหญ่คลุมกาย ยืนเกาะประตูร่างโงนเงน

ชายชราหันกลับมือยังคนน้ำซุปอย่างเชื่องช้า เชื่องช้าอย่างคงที่ ราวกับคนน้ำซุปตรงหน้าเป็นสิ่งสำคัญสุดในชีวิตมิปาน คนต่างถิ่นยังยืนขวางประตู

ลมยะเยียบกระโชกซ้ำ เปลวเพลิงวูบไหว

"หากไม่เร่งปิดประตู เจ้ามีแต่ย่ำยีซุปมื้อนี้แล้ว" ชายชรากล่าว

คนต่างถิ่นหุบบานประตูลากเท้านั่งลงตรงข้าม แสงเพลิงไล้เงาหน้าซุกซ่อนหลังเส้นผมยุ่งเหยิง มันเหลือบมองน้ำซุปในหม้อลำคอกระเพื่อม

"เจ้าไม่ได้เคาะประตู"

"คงเคาะแรงเกินไป"

"เจ้าไม่ใช่ปีศาจ?"

คนต่างถิ่นไม่โต้ตอบสายตาจับจ้องน้ำซุป

"กินซุปหม้อนี้เสร็จเจ้าคงเร่งรีบไป"

"ข้าพเจ้ากินได้?"

ชายชราไม่ตอบคำ วางทัพพี หยิบฝาหม้อครอบลง

"ต่อให้ท้องร้องหิวโหยเพียงใด ยังต้องรู้จักรอ ซุปที่ดีต้องรอเดือดได้ที่" กล่าวจบหลับตานิ่งรอจริง ๆ

"ท่านไม่คิดถามข้าพเจ้ามาจากไหน?" อาคันตุกะวิกาลเหลือบมองเงามืดภายในกระท่อม "จะไปที่ใด?"

ชายชรากล่าวทั้งหลับตา "นั่นย่อมเป็นเรื่องของเจ้า เราไม่คิดเกี่ยวข้องสักน้อยนิด เพียงเจ้ากินซุปแล้วจากไปโดยเรายังมีชีวิต นับว่าประเสริฐแล้ว"

"ภายนอกยังมีม้าข้าพเจ้า"

"แถวนี้ไม่มีหญ้าสักต้น ใบไม้ล้วนแห้งกรอบเป็นผุยผง หลายปีแล้วไม่มีฝน แผ่นดินเหมือนถูกสาป พืชผลมีแต่แห้งตาย" ชายชราลืมตาเป็นประกาย "อย่าว่าแต่เนื้อม้าพอเป็นค่าที่พัก หากเจ้าต้องการค้างแรมสักคืน"

"ท่านรู้จักหุบเขาหัวกะโหลกหรือไม่?"

"ไกลจากนี่ไปทางประจิม  ดินแดนอาทิตย์อัสดง เราสาบานที่นั่นต้องไม่มีอรุโณทัย"

"ท่านเคยไป?"

"หากเคยคงไม่มีวันนี้ นั่งสนทนากับเจ้าเช่นนี้"

คนต่างถิ่นนิ่งงัน ชายชราเอื้อมมือเปิดฝาหม้อ ไอน้ำลอยฟุ้ง หยิบทัพพีตักซุปใส่ถ้วย ส่งให้อาคันตุกะวิกาล ผู้เยือนกลืนน้ำลายถือถ้วยนั่งรอจนชายชราตักซุปเข้าปาก

"เจ้าเกรงเราแพร่พิษ?"

"เนื้อม้าย่อมมีรสกว่าซุปกร่อย ๆ"

ชายชราตักซุปอีกคำ ก่อนกล่าว

"หากต้องการแพร่พิษเราย่อมมียาแก้ รับพิษอีกสักหลายคำจะเป็นไร อย่าว่าแต่เจ้ายังไม่กินสักคำ รู้เยี่ยงไรซุปเรากร่อยรส"

กล่าวจบตักซุปเติมใส่ถ้วยตน ผู้เยือนเห็นเช่นนั้นรีบส่งซุปเข้าปากอย่างเร่งร้อน แสงเพลิงสะท้อนเงาตาชายชราเป็นประกาย รอจนซุปหมดค่อนหม้อ อาคันตุกะวิกาลจึงล้วงมุกเม็ดหนึ่งส่งให้ ผู้เหย้ายื่นมือออกรับ เห็นมุกเม็ดย่อมเปล่งประกายแวววาว ดวงตาเบิกโพลง รีบหดมือกลับ

"สังขารชราเหลือเวลาในโลกนี้อีกไม่นานนัก สมควรถนอมให้มากไว้" ชายชราพึมพำ "เก็บมุกของเจ้าไว้เถิด"

"กระไร?" อาคันตุกะวิกาลฉงน "หรือมุกเม็ดนี้ยังไม่พอค่าซุป?"

"มุกสามารถต้มซุปหรือ?"

"อย่างน้อยยังสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินทอง"

"ถิ่นนี้ไร้ผู้คนสัญจร" ชายชรากล่าวสายตายังจ้องมุกงาม "ที่มีค่าเป็นอาหารมิใช่เงินทอง ยังคงเก็บมุกของเจ้าไว้เถิด"           

ผู้เยือนมิกล่าวมากความซุกมุกคืนใต้เสื้อคลุม จากนั้นกอดอกเอนหลังหลับตา

"คิดค้างอ้างแรมยังคงต้องจ่ายค่าที่พัก"

"ข้อนี้มิต้องกังวล ข้าพเจ้าพักเพียงครู่จะออกเดินทางในบัดดล" กล่าวจบหุบปากนิ่ง คล้ายหลับใหลไปจริง ๆ      

ชายชราตักซุปที่เหลือเข้าปากอีกสองสามคำค่อยขยับกาย

"คิดทำอะไร?" ร่างนอนนิ่งเอ่ยถาม

"ภายในกระท่อมเราคิดไปก็ไปคิดมาก็มา"

ชายชรายกถ้วยซุปเดินหายในเงามืด ผู้เยือนหลับตานิ่งท่าทีผ่อนคลายราวหลับใหลแทบอกภรรยา ไม่ทราบผ่านเนิ่นนานเพียงใด ชายชราค่อนเดินกลับมานั่งลงข้างกองไฟ ฉวยไม้เขี่ยคุไฟ หยิบท่อนฟืนวางสุมลงไป

"เรารู้ว่าเจ้าไม่ได้หลับใหล"

"หากยังต้องการหลับใหล มีแต่ตื่นให้มากไว้" ผู้เยือนกล่าวทั้งหลับตา

"เจ้าผ่านหมู่บ้านสนธยา?"

อาคันตุกะวิกาลผงกศีรษะ

ชายชราใช้ไม้เขี่ยคุไฟ "ปีศาจร้ายครอบงำ ทั้งหมู่บ้านมีแต่กลิ่นอายปีศาจ เหล่าบุรุษไม่สูญหายก็ตกตาย เหลือแต่ทารกและอิสตรี.."

"ปีศาจร้ายตายแล้ว" เสียงกล่าวราบเรียบคล้ายบอกเล่าเรื่องราวประจำวัน

ชายชรานิ่งอึ้ง ถลึงตามองร่างเปื้อนฝุ่นนอนเหยียดยาวตรงข้าม แสงเพลิงวูบไหวบนอาภรณ์ดำทั้งร่าง กระทั่งดาบสะพายแนบหลังก็ดำสนิท เส้นผมยุ่งเหยิงบดบังใบหน้าเห็นรอยแผลเป็นพาดหว่างคิ้ว

"ข้าพเจ้าพอจะเล่าเป็นค่าซุป" ริมฝีปากขยับทั้งหลับตา

"หากไม่ได้เล่าเจ้าคงอึดอัด"

อาคันตุกะวิกาลนอนกอดอกหุบปากนิ่ง ผ่านไปเนิ่นนาน

"ได้" ที่สุดชายชรายอมกล่าว "เจ้าเล่า" 

 

 

 

 

 

 

 

 

Kratomtuleedin Presents

 

 

ahangar3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น