วันแรกริมรั้วตำลึงสวัสดิ์ขอรับพี่ทั่น

ใช้ชีวิตอันปลั๊กร่วมเดือน แรก ๆ ยังพยายามเสียบชาร์ตแบต แต่ลำบากลำบนทุลักทุเลเต็มทน ด้วยทุกอย่างอยู่คนละทิศละทาง คอมพ์ต้องผจญแดดฝนเพราะข้าพเจ้าไม่มีหลังคาข้างฝาคุ้มกบาล วางไว้ก็ไม่ได้เกรงใครผ่านมาคว้าติดมือไปเสียด้วยคิดว่าเป็นทีวีให้ลูกดู ต้องกระเตงติดตัวแม้จะอาบน้ำ เพราะต้องเดินไปอาศัยน้ำในโอ่งขนำร้างข้าง ๆ ที่สุดจำยอมหยุดใช้ เข้าภาวะจำศีลปลีกวิเวกเต็มตัว

หลังขนำพัง ข้าพเจ้าย้ายขนำมาเรื่อย ได้ขนำแข็งแรงถาวร ทั้งยังโรแมนติกส์หยอกเสียเมื่อไร สองชั้น ปักเสาในคูน้ำ นั่งกินข้าวห้อยขาโยนเศษอาหารให้ปลานิล ปลาช่อน ชั้นบนเปิดหน้าต่างสี่ทิศลมโกรก หลับสบายทั้งคืน ชั้นล่างใช้นั่งเขียนหนังสือ ติดอยู่ที่ช่วงบ่ายร้อนแดดระอุ ก็เลยไปหา 'ม่านบาหลี' มาปลูกหวังให้ไต่คลุมหลังคา ข้าพเจ้านั่งจินตนาเห็นภาพรากม่านบาหลีห้อยย้อยรอบขนำ ภายในอากาศสบายนั่งเขียนหนังสือเย็นฉ่ำตลอดวันแล้วยิ้มกริ่ม ขอแค่ผ่านปีนี้โดยได้นิยายที่ตั้งใจไว้สักเรื่อง เป็นอันสุขสมอารมณ์หมาย (ยังเคยคิดภาพพี่ท่านมาเยี่ยมเมื่อไรจะให้นอนตรงนั้น หากดื่มกันจนคร้านลุกก็คงจะนอนตรงนี้..เป็นตุเป็นตะ)

วันดีคืนดี เสาขนำหัก ตัวขนำสองชั้นเอียงกะเท่เร่เทลงคู หนังสือแสนรักจมน้ำไปครึ่งหนึ่ง (น้ำตาแทบเล็ด) โชคยังดีเจ้าไมเคิลคาขอบหน้าต่าง และยังดีที่ขนำล้มตอนข้าพเจ้าออกไปข้างนอก

แต่ผลตามมาไม่ค่อยดีเท่าไร

ไม่มีขนำเหลือให้ข้าพเจ้าอาศัย เพราะโดยมากโดนปลวกมอดกินจนไม่มีดี ข้าพเจ้าเลือกซ่อมหลังคาขนำจาก ทั้งรู้ว่าใกล้ถนน คิดว่าทนรำคาญเสียงสักพักเดี๋ยวคงชินไปเอง ซ่อมหลังคาเสร็จอยู่ได้ไม่กี่วันโดนฝุ่นละเอียดเข้าจมูกเป็นระยะ เล่นเอานอนไม่หลับ ควานหาสาเหตุที่มา พยายามแก้ไขอยู่นาน กว่าพบว่าเป็นฝุ่นลูกรังจากถนนปลิวมากับลม ข้าพเจ้าก็เดาสุ่มปลุกปล้ำแก้ไขเสียเลือดตาแทบกระเด็น

อยู่ในขนำไม่ได้ต้องออกร่อนเร่ ลองนอนตรงโน้นทีตรงนี้ที ฝุ่นก็ยังตามรังควาน ลองจนห่างถนนลึกมาเรื่อย ๆ

แล้วก็เลือกเอาปลายสุดที่นา มองหาเงาไม้ ลงเต็นท์พอได้หลับนอนให้เต็มตื่น ไม่ต้องโดนฝุ่นรังควาน ชาวบ้านผ่านมาพบเข้าเบิกตาโพลง อุทานว่าอยู่ได้อย่างไร รกอย่างนี้ (ทั้งก้านกิ่งไม้ทั้งป่าหญ้าป่ากก รกร้างจริง ๆ ทั่น) ข้าพเจ้าตอบไปว่า ค่ำก็มุดอยู่ในเต็นท์ลูกเดียวไม่ออกเดินเด็ดขาด แม้แต่คนชินพื้นที่ยังกลัวงูขนาดนั้น มีหรือข้าพเจ้าจะหย่อนเกรง

อาศัยน้ำจากโอ่งขนำร้างข้าง ๆ อาบ ต้องคอยพกเจ้าไมเคิลไม่ห่างตัว แต่ด้วยความที่อายุใช้งานนานปี แบตฯ เก็บไฟไม่นาน ทำให้เขียนไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน ที่สุดจำตัดใจ ใช้สมุด-ปากกา ตัดโลกเน็ตเก็บไมเคิลไว้ในรถ

กลางวันวนเวียนย่ำเดินรอบบ่อ เงาไม้แค่ลดไอร้อน อายแดดนั้นแผดแรงเหลือ ย่ำเดินจนตัวเกรียม ที่ชาวบ้านเห็นเป็นความรกสมควรฟันควรเผาทิ้ง ข้าพเจ้ากลับเห็นความอุดมสมบูรณ์ที่กลับคืนมา เห็นตาลเห็นมะพร้าวแทงยอดอ่อน ผักบุ้งข้าพเจ้าเคยกินแล้วเสียบโคนไว้ในรูปูเปี้ยว บัดนี้งอกงามเขียวชอุ่มทอดยอดลงในบ่อเป็นแผง ย่ำค่ำนั่งจ่อมในเต้นท์หันมองผ่านหน้าต่างสี่ทาง แล้วก็เห็นสิ่งไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดเวลาหลายปีที่ย่ำเดินละแวกนี้ หิ่งห้อยน้อยสามสี่ตัวกะพริบแสงออกจากดงกก หัวค่ำวันถัดข้าพเจ้าเฝ้าคอยอีก ก็มีอีก แต่คงมีอยู่ไม่กี่ตัวเพราะจำนวนสามสี่ตัวไม่เคยเพิ่ม ข้าพเจ้านั่งยิ้มกริ่ม บางอย่างผุดในจิตสำนึก

ความฝันที่จะใช้ชีวิตห้อมล้อมด้วยต้นไม้ใบหญ้ากลับคืนมา

น้ำในบ่อคงจืดสนิทแล้ว เหลือดินคันบ่อแม้ไม่มากมาย แต่ก็มากพอที่คนไม่ประสีประสาเรื่องต้นไม้ต้นหญ้าอย่างข้าพเจ้าจะได้ลองเริ่มสิ่งที่เคยนึกฝัน

รออยู่ค่อนเดือนกว่านายหัวจิตคนเคยสร้างขนำจากให้ข้าพเจ้าจะว่างมา เราลงมือรื้อขนำเก่าที่ปลวกกินทิ้งไว้เหลือแต่โครงหลังคา ปรับพื้นเอาสังกะสีเก่ากั้นฝาเจาะหน้าต่าง ใช้งบประมาณให้น้อยสุด ขนำพอได้อยู่หลบแดดฝนก็พอดีเต็นท์พัง พายุกระหน่ำขาไฟเบอร์เกรียมแดดหักแทงฟลายชีตขาดไม่มีชิ้นดี

ข้าพเจ้าใช้เวลาอีกหลายวันกับอีกหลายอุตสาหะ รื้อสายไฟเก่ามาต่อ ลากโยงจนถึงขนำ ด้วยความที่สายเก่าไม่รู้ตรงไหนขาดส่วนไหนดี ต่อเสร็จไฟไม่เดิน ต้องปลุกปล้ำอีกหลายกระเด็นเลือดตากว่าถึงวันนี้..วันที่เปิดเจ้าไมเคิลอีกครั้ง ต่อเข้าเน็ตแล้วพบจอมอจับเข่าคุยของพี่ท่าน

ความสุขใจได้รับจดหมายนั้นไม่อาจประมาณวัดหรือบอกกล่าว

ได้รับเมล์ไม่ต่างรับจดหมายผนึกซอง บอกให้รู้ว่ายังมีมิตรส่งความคำนึงถึง ไม่ทราบกล่าวคำใด..ได้แต่สำนึก..ขอบคุณ

ฟ้าหลัวแล้ว เสียงครืนดังอยู่ทางโน้นทีทางนี้ที เข็มฝนบางเบาปักผิวน้ำซ้อนวงเงาพราย นกอะไรก็ไม่รู้ขาแดงปีกดำอกขาวเดินจิกอาหารไปตามชายน้ำขอบบ่อ เสียงร้องหลากสำเนียงคล้ายเสียงพูดคุยทักทายของครอบครัวครากลับถึงรังดังไปทั่ว

ชีวิตขีดเขียนเริ่มต้นอีกครั้ง เริ่มด้วยเขียนจดหมายมายังพี่ท่าน ชีวิตที่นึกฝันจะเริ่มดำเนินไป ด้วยไม่ทิ้งเมล็ดผลไม้ทุกชนิดที่กิน ต่อไปทุกเมล็ดจะได้สัมผัสดิน แตกหน่อ งอกรากใบ แล้วข้าพเจ้าจะปลูกให้รอบบ่อ ในบ่อจะมีผักบุ้ง ผักกระเฉด บัว รอบรั้วมีย่านตำลึงทอดยอด มีแตงกวา ถั่วฝักยาวจิ้มน้ำพริก ชีวิตนึกฝันที่จะต้องปรับใจคืนกลับสู่สัมพันธ์ของดิน-น้ำ-ฟ้า คืนกายเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้ใบหญ้าดูแลกันไปมา ไม่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ มีแต่พอกิน อยู่แต่พอสุข

ยังไม่ทราบข้าพเจ้าจะทำได้แค่ไหน เพียงวันนี้ทุกอย่างเริ่มต้นแล้ว ทั้งกล้าอักษร กล้าพืชพันธุ์ไม้ และกล้ามิตรภาพที่มวลอักษรามิตรมีต่อกัน เท่านี้ชีวีก็มีสุขแล้ว จริงไหมขอรับพี่ท่าน?

คารวะ

2 ความคิดเห็น:

  1. มื้อค่ำสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านดิลล์ที่เคารพรัก

    หม่ำมื้อค่ำด้วยกันมั้ย วันนี้ข้าพเจ้าทำแกงจืดวุ้นเส้น ทำเอง กินเอง อร่อยเอง หุหุ^^

    นานทีปีหนเท่านั้นแหละที่ข้าพเจ้าจะนึกคึกทำกับข้าวกินเอง และที่นึกทำขึ้นมาเกือบร้อยทั้งร้อยก็มีแต่ไข่เจียวหมูสับ มาคิดๆ ดู ไอ้ตัวเราก็อายุปูนนี้เข้าไปแล้ว งานการก็ใช่ว่าจะทำพอกิน ดันทะลึ่งมีนิสัยคุณหนูทำกับข้าวกินเองไม่เป็นอีก ดูท่าอนาคตข้างหน้าจะไปไม่รอด ต้องลุกขึ้นมาหัดโน่นหัดนี่บ้างแล้ว

    อาทิตย์ก่อนหน้าโน้นก็ร่อแร่อยู่เหมือนกันเจ้าค่ะ ปวดท้องราวสามสี่วัน จันทร์ถัดมาเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอสอบถามอาการไม่กี่ประโยค ก็บอกให้ขึ้นไปนอนหงายบนเตียง เปิดพุงรอไว้เลย เดี๋ยวหมอตามไป

    (ท่านว่าข้าพเจ้าโชคดีหรือโชคร้ายที่หมอคนนั้นเป็นผู้หญิง :) )

    หมอเขียนอะไรยุกยิกไม่นานก็ลุกขึ้นมายืนข้างเตียง ใช้หูฟังแปะตรงโน้นตรงนี้ จี้ไปตามจุดต่างๆ เคาะพุงป๊อกๆ แถมอีกสองสามที (ดีนะทั่นที่หมอไม่คิดว่าพุงข้าพเจ้าเป็นลูกแตงโมแล้วเผลอเอานิ้วดีด)

    เสร็จแล้วคุณหมอเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ ข้าพเจ้าก็ลุกตามมาบ้าง กะลังหย่อนก้นลงนั่งตูดไม่ทันถึงเก้าอี้ หมอบอกว่า ..หนูเป็นโรคกระเพาะนะ อาหารไม่ย่อย ต่อไปต้องทานอาหารเป็นเวลา ค่อยๆทาน ค่อยๆเคี้ยว ค่อยๆกลืน ค่อยๆ..หมดแย้ว

    ได้ยาช่วยย่อย ยาขับลม ยาลดกรดมากินเป็นตับ ผ่านไปอาทิตย์กว่าข้าพเจ้ายังกินยาไม่หมดเลย

    นี่ก็เป็นอีกโรคที่เกิดจากความไม่ค่อยใส่ใจดูแลตัวเอง อาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้ข้าพเจ้ากินอาหารเป็นเวล่ำเวลามากขึ้น ไม่รอให้ท้องกิ่วจนแสบท้อง ไม่กินเร็วเกินไป ที่ผ่านมาอ่ะนะ เคี้ยวไปได้สี่ห้าคำข้าพเจ้าก็กลืนพรวด ไปนั่งร้านอาหารช่วงแรกๆ คนขายยังแปลกใจ เพราะเอาอาหารมาเสิร์ฟให้ข้าพเจ้าแล้วกลับไปทำจานอื่นยังไม่ทันใส่เครื่องปรุงครบ ข้าพเจ้าก็ลุกไปจ่ายตังค์แล้ว แม่ค้ามองหน้าข้าพเจ้าทีมองจานเปล่าที่วางอยู่บนโต๊ะที แกคงสงสัยอ่ะนะ ว่าอีนี่มันตักกินดีๆเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาหรือว่ามันเทกรอกปากกันแน่ ไปกินข้าวกับคนอื่นทีไรข้าพเจ้าต้องกินเสร็จก่อนแล้วนั่งรอทุกที

    อวัยวะในพุงทำงานหนักมานานวัน มันเลยนัดหยุดงานประท้วงไม่ยอมย่อยอาหารซะดื้อๆ แม้วันนี้อาการจะดีขึ้นมามากแล้ว แต่ยังต้องประคบประหงมกันน่าดู ...ก็ต้องดูแลกันต่อไป

    ช่วงเช้าของวันนี้ต้องไปทำงานแทนน้องอีกคนที่ขอหยุดไปทำธุระ สี่โมงกว่าถึงได้กลับห้อง เป็นอันว่าตั้งแต่จนถึงบัดเดี๋ยวนี้ นิยายยังไม่มีตัวอักษรเพิ่มมาเลยสักตัว

    คงต้องขอตัวมุดหัวก๊อกๆ แก๊กๆ ต่อแล้วเจ้าค่ะ

    เห็นมั้ยคุยกับท่านไปพลางเคี้ยวแกงจืดหมูสับ จั๊บๆๆๆ ไปพลาง คุยเสร็จแกงจืดหมดถ้วยพอดี มื้อนี้ท่านคงต้องไปหาอย่างอื่นกินแล้วล่ะ อิอิ

    ไปแว้ววววว

    ด้วยความเคารพ
    พลับพลึงข้างรั้ว

    อ้อ อีกนิดนะท่าน ถ้าต้องหายไปหลายๆ วันแล้วมีโอกาสเข้าแจ้งความไว้ รบกวนแจ้งความไว้สักนิดได้มั้ยทั่น บอกตามตรงสมองข้าพเจ้ามันอัปรีย์ขนาด พาลคิดไปแต่ในแง่ร้าย

    อย่างทั่นหายไปคราวนี้ ข้าพเจ้าก็หวั่นใจว่าท่านจะโดนงูเงี้ยวเขี้ยวกัด นอนหน้าเขียวซุกป่าหญ้าไปซะแล้วก็ไม่รู้

    ตอบลบ
  2. อรุณสวัสดิ์ขอรับท่านสายที่เคารพรัก

    อภัยเถิดที่ข้าพเจ้าเงียบหายมิได้กล่าวศาลาใด ตั้งใจไว้ว่าจะบอกทุกครั้งหากต้องห่างหายหน้าค่าตา เป็นความรับผิดชอบต่อความรู้สึกที่สมควรเอาใจใส่กันและกัน แล้วก็พลาด (อีก) จนได้

    ชีวิตบนเน็ตเต็มด้วยมิตรภาพเฉพาะกิจ เฉพาะการณ์ มิตรภาพผ่านทาง หากมีใครสักคนห่างหายไปจากโลกไยแก้วนี้ก็ใช่จะมีใครอีกสักคนสนใจไถ่ถาม เราเคยชินกับข้อสรุปสำเร็จรูป 'เขาคงมีเหตุผลของเขา' จากนั้นหันไปสาละวนกับโลกเฉพาะหน้าที่ยังหมุนเร็วจี๋ ปล่อยเงาเงียบห่างจมหายไปกับฟองคลื่นเวลา

    มิตรสัมพันธ์บนโลกแห่งนี้แม้ฉากหน้าดูสดในเต็มด้วยชีวิตชีวา แต่ลึกลงไปใต้ผิวที่ถูกฉาบทากลับแห้งแล้ง ชืดชา หากมีอะไรสักอย่างที่สามารถหล่อเลี้ยงมิให้ก้านใบมิตรภาพบนโลกแห่งนี้เหี่ยวเฉา สิ่งนั้นคงเรียกว่า--ความห่วงใย

    ข้าพเจ้าเคยรำคาญความห่วงใยของแม่

    แม่จะต่อว่าทุกครั้งที่ถึงปลายทางแล้วไม่แจ้ง หรือไปไหนไม่บอก 'นึกว่าตกน้ำตกท่า!' (ตอนยังเด็ก) 'เห็นข่าวรถทัวร์ชน แล้วใจไม่ดี' (โตขึ้นมาหน่อย) 'เมื่อคืนนอนไม่หลับ เห็นยังไม่กลับ' (อายุมากแระ) ภาพในสำนึกแม่ล้วนเห็นลูกชายมีอันเป็นไป ไม่อะไรก็อะไรสักอย่างล้วนค่อนไปข้างมิค่อยโสภาสถาพร ข้าพเจ้าเคยโวย 'หยั่งงี้ก็แช่งกันนะสิ แม่ให้พร ใคร ๆ ก็ว่าขลัง แม่เล่นแช่งกันหยั่งงี้เกิดขลังขึ้นมาก็แย่สิ ขอแบบดี ๆ บ้างไม่ได้ไง หยั่ง--เออมันเดินทางถึงที่หมายปลอดภัยสบายดีถึงไม่โทรฯ บอก ไม่ก็--เออมันคงเที่ยวเพลิน ช่างหัวมันเหอะ!' แม่ส่งค้อนสองสามตลบ

    ข้าพเจ้ารำคาญที่จะต้องคอยบอกคอยแจ้ง อีกอย่างเพื่อนมันเอามาเฮว่าลูกแหง่ ไปไหนมาไหนต้องคอยรายงานแม่ จึงใช้มุขเดิมกะว่าหลาย ๆ ครั้งเข้าแม่คงชินไปเอง

    แต่ไม่ยักเป็นอย่างกะ

    หลายปีผ่าน เพื่อนที่เคยเฮฮาหายหน้ากันไปนานแล้ว แม่ก็ยังเหมือนเดิม สีหน้ากังวลห่วงไม่เคยเปลี่ยน 'ไปไหนมา?'

    ข้าพเจ้าจำยอมเปลี่ยนเสียเอง ไม่ไปไหนดึกดื่นให้แม่ห่วง ไปไหนก็จะบอกทุกครั้ง หากกำหนดการณ์เปลี่ยนแปลงโทรฯ แจ้งอีกครั้ง โทรฯ ต่อหน้าเพื่อนโดยมิพักกังวลว่าพวกมันจะเอามาล้อหรือเห็นเป็นลูกแหง่

    เช่นเดียวกับอุปนิสัยใช้ชีวิต ข้าพเจ้ากินอาหารช้า ไม่กินของย่อยยาก (หากฟันเคี้ยวไม่ออกจะไม่กลืนลงคอเด็ดขาด) เมื่อถึงเวลากินจะกินโดยไม่คอยใคร กินเฉพาะมื้อ ไม่กินจุบกินจิบ คนที่เพิ่งพบก็จะเห็นว่าข้าพเจ้าไร้น้ำใจ ไม่สนใจผู้อื่น โดยไม่มีทางรู้เลยว่าก่อนหน้าข้าพเจ้าเคยผ่านอะไรมา

    อยู่ในสังคมสภาพแวดล้อมไม่เคยแน่นอน ยากคาดหมาย บังคับให้เราไม่สามารถดูแลตัวเอง ยิ่งเอาภาระหน้าที่วางไว้ก่อนสุขภาพ เรายินยอมทำร้ายร่างกายจนกว่าร่างกายทนไม่ไหวจึงใช้ตัวช่วยซ่อมแซมเพื่อกลับมาทำร้ายต่อ

    ทราบเวลาของท่านที่เลิกงานดื่นดึก ตื่นสายเป็นวัตร ข้าพเจ้าเคยกังวลเรื่องนี้ แต่มิทราบกล่าวประการใด เหมือนชีวิตในเมืองบังคับให้เราเป็นไปโดยไม่มีทางเลี่ยง สำหรับหลายคนร่างกาย-จิตใจยังพอไหวก็ประนีประนอมกันไป

    โรคกระเพาะเป็นแล้วไม่หาย เผลอทีเไรกลับมาปวดสาหัสอีกทุกที ที่น่าคิดคือคนยังไม่เป็นไม่เคยนึกกลัว รอจนเป็นแล้วก็ไม่อาจกลับปกติดังเก่า

    ยินดีต้อนรับสู่โลกของซาตาน โลกของความเจ็บปวดทุรนทุราย ผุดลุกผุดนั่ง ไม่เคยหลับสนิทตลอดคืน

    แต่หากการณ์นี้จะทำให้กัลยาณมิตรของข้าพเจ้ากลับเห็นคุณของการดูแลสุขภาพ และเอาใจใส่อย่างจริงจัง กินอาหารตรงเวลา หลับนอนตรงเวลาเต็มตื่น ตื่นเช้าเป็นวัตร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ยินยอมให้เงื่อนไขอื่นมามีความสำคัญกว่า ก็จะนับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง

    แล้วจะแจ้งทุกครั้งที่หากจะเงียบหายโดยไม่เกรงเลยว่าใครจะเห็นเป็นสหายแหง่

    หวังท่านเองจะหลับนอนเป็นเวลา รับทานอาหารเป็นเวลาเคี้ยวช้า ๆ โดยไม่เกรงเลยว่า--ได้เวลาเข้างานแล้ว!

    เศษดินข้างรั้ว

    ตอบลบ